เจ้าคณะจังหวัดแม่ฮ่องสอน เผย “พระจูเลียน” เสพเมถุนจริง เคยสึกแล้วกลับมาบวชเป็น “สามเณร” ชาวบ้านไม่รู้ยังกราบไหว้ ตอนนี้สั่งพระอุปัชฌาย์เร่งจับสึก
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “ร่วมด้วยช่วยกันนะครับ กับหมอสมชาย” หรือ “น.สพ.สมชาย ศิริเทพทรงกลด” จิตอาสาช่วยเหลือผู้ยากไร้ นักเขียน และเป็นคุณหมอเน็ตไอดอลชื่อดังออกมาแฉพฤติกรรมของพระจูเลียน ดีซิเลต (Julian Desilets) ชาวแคนาดา ที่เคยออกรายการสารคดีโทรทัศน์ชื่อดัง ในฐานะ พระสมถะซึ่งก่อนหน้าที่จะมาบวชเป็นพระอยู่ที่ประเทศไทย พระจูเลียน ค้นพบว่า การทำงานหนัก หาเงินได้มาก ไม่ได้ทำให้มีความสุข กลับมีแต่ความเครียด จึงสละทุกอย่าง แล้วเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ โดยเชื่อว่า นี่คือความสุขที่แท้จริง ที่จะมุ่งไปสู่การดับทุกข์
ซึ่งพระจูเลียนเป็นพระชาวต่างชาติที่ได้บวชในประเทศไทยนานนับสิบปี หลังจากบวชแล้ว พระจูเลียน มาอยู่ที่สบเมย ซึ่งเป็นบริเวณที่ชาวบ้าน แบ่งที่ทำกิน สร้างเป็นกุฏิเล็กๆ ให้ ซึ่งเหตุผลที่มาอยู่ที่ หมู่บ้านกะเหรี่ยงปู่ทา อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน เพราะว่าชอบสันโดษ ชอบความสงบ
ทั้งนี้ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “ร่วมด้วยช่วยกันนะครับ กับหมอสมชาย” ระบุว่าพระจูเลียนมีพฤติกรรมเสพเมถุน ทั้งๆที่ยังบวชอยู่ เพราะปรากฏว่าสวมใส่ชุดสีขาวออกเที่ยวฮันนีมูนกับสาวฝรั่งเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน จ.จันทบุรี แถมเจ้าตัวยังคุยโวว่า เคยเสพเมถุนกับสาวไทย ก่อนทิ้งไปแบบไม่มีเยื่อใยอีกด้วย หลังเรื่องแดงจึงลาสึกแล้วแอบกลับมาบวชใหม่ ที่วัดพระธาตุดอยกองมู ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน

น.สพ.สมชาย ศิริเทพทรงกลด ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “ร่วมด้วยช่วยกันนะครับ กับหมอสมชาย”
ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ส.ค.62 ผู้สื่อข่าวได้ไปสัมภาษณ์นายสัตวแพทย์ สมชาย ศิริเทพทรงกลด ที่จ.ขอนแก่น นายสัตวแพทย์ สมชาย เผยว่า เขารู้จัก พระจูเลียน ซึ่งบวชเป็นพระภิกษุ ที่วัดแห่งหนึ่งใน อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน เป็นอย่างดี เนื่องจากเมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมา ได้ออกค่ายอาสาร่วมสร้างบ้านให้ผู้ไร้บ้านในพื้นที่ทางภาคเหนือ กินนอนด้วยกัน ได้เห็นพฤติกรรมของพระรูปนี้ กับการอยู่กินในวัดที่ปฏิบัติตัวที่ไม่เหมาะสม ทำกับข้าวกินเอง อยากกินตอนไหนก็หากิน ส่วนจีวรก็จะใส่เฉพาะช่วงออกบิณฑบาตเท่านั้น
ขณะที่เรื่องเสพเมถุน พระจูเลียน ก็ยอมรับว่ามีการเสพเมถุนกับสีกาจริง เป็นการเสริมพลังธรรม และพลังจักรวาล ทั้งยังบอกอีกว่า พระสงฆ์ทุกรูปที่บวชสามารถทำได้ เมื่อได้ยินก็รู้สึกไม่สบายใจ แต่ยังให้โอกาสอยู่กระทั่งเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา มีหญิงไทยที่เป็นนักธุรกิจอยู่ต่างประเทศ ได้ติดต่อมาหา และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเองว่า ได้มีอะไรกับพระจูเลียน โดยเชื่อว่าจะได้รับพลังวิเศษ ทำให้ชีวิตดีขึ้น และพระก็จะรับผิดชอบดูแล ไม่มีใครอื่นอีก จึงอยากแฉพฤติกรรมของพระจูเลียน
จากนั้นนายสัตวแพทย์ สมชาย ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่าในทางนิตินัยท่านไม่เคยสึกครับ (ดูใบสุทธิ) แต่ในทางหัวหมอ (พฤตินัย) ท่านพึ่งจะสึกเมื่อสองปีที่ผ่านมาหลังจากเหตุการณ์น้องผู้หญิงคนที่สามได้ออกมาแฉ ที่ต้องสึกเนื่องจากว่าน้องผู้หญิงได้ออกมาประจานไปกับทั้งพระและลูกศิษย์ที่นับถือท่านหลายคน สังเกตได้ว่าคนเก่าๆ จะหายไปเยอะส่วนมากเหลือแต่คนใหม่ๆ เมื่อท่านรู้สึกว่ามีคนรู้เรื่องพวกนี้เยอะท่านจึงใช้วิธีศรีธนญชัยเพื่อความปลอดภัยไว้ก่อน โดยการแอบสึกแล้วบวชใหม่ประมาณสองปีที่ผ่านมานี้ครับ เวลาที่คนรู้เรื่องที่ท่านนอนกับผู้หญิงถามท่านก็จะบอกว่าอันนี้บวชใหม่แล้วอันเดิมไม่เกี่ยว
#ภาพวันที่ท่านสึกแล้วบวชใหม่ เพื่อความสบายใจของท่านเอง แล้วท่านก็จะส่งภาพที่บวชใหม่นี้ให้กับคนที่รู้ว่าท่านปาราชิกแล้วเพื่อให้เขาเหล่านั้นรู้ว่าตอนนี้ท่านบริสุทธิ์เนื่องจากเป็นคนใหม่บวชใหม่ไม่เกี่ยวกับอันเก่า แต่มันคือความเข้าใจของท่านเอง
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1270457519795435&id=100004935976847
จากนั้นพระจูเลียนออกมาเผยถึงกรณีดังกล่าวโดยยอมรับว่า เรื่องดังกล่าว เป็นเรื่องจริง ซึ่งตอนนี้ตนอยู่บนดอย และในวันที่10 ส.ค.62 นี้จะเดินทางไปวัด เพื่อลาสิกขา กับพระอุปัชฌาย์ พร้อมกับขอโทษคนไทยด้วย
ด้านพระสุมณฑ์ศาสนกิตติ์ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยกองมู เจ้าคณะจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องเรียกตัวกลับสอบถามถ้ามีความผิดจริงก็จะให้สละสมณเพศให้ลาสิขาออกไป ที่ผ่านมาทราบว่าพระฝรั่งได้ไปช่วยเหลือชาวเขาไว้มาก แต่การกระทำผิดวินัยสงฆ์กับการทำดีมันคนละเรื่องถ้าทำผิดก็ว่าไปตามความผิด
เบื้องต้น จากการตรวจสอบทราบว่า พระฝรั่งไม่ได้บวชอยู่ในพื้นที่จ.แม่ฮ่องสอน ได้ไปบวชในพื้นที่ อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ โดยเจ้าตัวยอมรับแล้ว เคยทำผิดจริงเมื่อประมาณ 5 ปีที่ผ่านมา และได้ลาสิขาไปแล้วก่อนจะกลับมาบวชเป็นใหม่อีกครั้ง แต่ครั้งนี้ได้บวชเป็น “สามเณร” ครองผ้าเหลืองทำให้ชาวบ้านก็คิดว่าเป็นพระอยู่ อย่างไรก็ตามเมื่อสึกไปแล้วก็ไม่ควรมาบวชอีกแม้จะบวชเป็นสามเณร
พระสุมณฑ์ศาสนกิตติ์ ยังเผยว่าได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์จากพระอุปัชฌาย์ วัดแม่แปะ ต.แม่แปะ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ว่า ได้รับการประสานจากพระจูเลียน ว่าจะเดินทางมาวัดแม่แปะ เพื่อทำการลาสิกขาในวันที่10 ส.ค.62 ขณะนี้อยู่ระหว่างการเดินทาง แต่ทางพระจูเลียนไม่ได้แจ้งว่าขณะนี้พักหรือเดินทางถึงไหน
โดยเมื่อพระจูเลียนมาถึงวัด ก็จะทำการลาสิกขาทันที สาเหตุที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนไม่ได้ดำเนินการทันทีทันใด เนื่องจากตอนที่พระจูเลียนเข้ามาอยู่ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ไม่ได้มารายงานต่อพระผู้ปกครองระดับต้น คือ เจ้าคณะอำเภอสบเมย
ดังนั้น จึงจำเป็นต้องให้พระอุปัชฌาย์เป็นผู้ดำเนินการลาสิกขา และ พระจูเลียนก็ได้ยอมรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและยอมที่จะลาสิกขาแล้ว.
ขอบคุณข้อมูลจาก: ร่วมด้วยช่วยกันนะครับ กับหมอสมชาย