กสิกรไทยเผย “ขุนทอง” ตอบโจทย์ชีวิตเก็บตัวอยู่บ้านช่วงโควิด-19 ยอดใช้งานทะลุ 650,000 ราย

ช่วงโควิดระบาดหนัก หลายคนมองหาตัวช่วยที่จะทำให้การใช้ชีวิตสะดวกสบายและตอบโจทย์มากยิ่งขึ้น หนึ่งในนั้นคือแอปฯ ขุนทอง

โดย กสิกรไทย และ KBTG เผย “ขุนทอง” โดนใจกลุ่มนิวเจน มีลูกค้าใช้งานทะลุ 650,000 ราย ตอบโจทย์การใช้ชีวิตเก็บตัวอยู่ในบ้านในช่วงโควิด-19 ใช้ไลน์ติดต่อกลุ่มเพื่อน เลี่ยงใช้เงินสด ช่วยจัดการเรื่องเงินในกลุ่มเพื่อนได้ง่ายและเร็ว พบสถิติขุนทองช่วยหารเงิน-ตามเก็บเงิน-โอนเงินค่าใช้จ่ายต่างๆ ของกลุ่มเพื่อนในไลน์จนครบทุกคนสำเร็จถึง 91% จบได้ใน 1 วัน เร่งพัฒนาฟีเจอร์ขุนทองให้ตอบรับกับการใช้ชีวิตเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) พร้อมกระตุ้นยอดการใช้งานผ่านแคมเปญ ตั้งเป้ามีผู้ใช้งานเพิ่มเป็น 1.5 ล้านรายภายในปี 2564

นายเรืองโรจน์ พูนผล ประธาน กสิกร บิสซิเนส–เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการ “ขุนทอง” โซเชียล แชทบอท (Social Chatbot) ที่เป็นเหรัญญิกช่วยจัดการธุรกรรมการเงินขนาดย่อม (Micro-transactions) บนแอปพลิเคชันไลน์ (LINE) รวมกว่า 650,000 ราย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนิวเจนที่มีความคุ้นเคยกับการใช้เทคโนโลยีเป็นอย่างดี ที่สำคัญคือ ตอบรับกับพฤติกรรมที่ทุกคนจำเป็นต้องใช้ชีวิตอยู่ในบ้านเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคใช้เวลากับสื่อออนไลน์มากยิ่งขึ้น

นายเรืองโรจน์ พูนผล ประธาน กสิกร บิสซิเนส–เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG)

โดยพบว่า ลูกค้าใช้ฟีเจอร์ของขุนทองในการหารค่าใช้จ่ายรายเดือนร่วมกัน เช่น Netflix, Spotify และค่าเช่าต่างๆ โดยไลน์ถือเป็นแอปฯ ที่ลูกค้าใช้งานอยู่แล้วในชีวิตประจำวัน จึงไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันใหม่ ให้เปลืองพื้นที่ในสมาร์ทโฟน อีกทั้งลูกค้ายังสามารถใช้ขุนทองกับแอปฯ ธนาคารใดก็ได้ในการเรียกเก็บเงินและจ่ายเงิน แต่ลูกค้า K PLUS จะใช้งานได้สะดวกขึ้น เพราะสามารถผูกบัญชี K PLUS กับขุนทอง ทำให้สามารถจ่ายเงินจากหน้าแชทไลน์ได้เลย ไม่จำเป็นต้องสลับแอปฯ กรอกเลขบัญชีผู้รับเงินและส่ง e-Slip เพื่อยืนยันการจ่ายเงิน นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้ใช้ขุนทองที่ผูกบัญชีกับ K PLUS มีแนวโน้มทำธุรกรรมผ่าน K PLUS มากขึ้นถึง 50%

ทั้งนี้ “ขุนทอง” เป็นหนึ่งในโจทย์สำคัญของ KBTG ในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อให้ผลิตภัณฑ์และบริการของธนาคารกสิกรไทยเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของลูกค้า และเพิ่มการมีส่วนร่วมกับธนาคาร ทุกวันนี้ธนาคารต้องไปอยู่ในที่ที่ลูกค้าอยู่ ขุนทองจึงอยู่ในแอปฯ ไลน์ที่มีคนใช้มากถึง 47 ล้านคน โดยในปีนี้ KBTG วางแผนพัฒนาให้การใช้งานขุนทองสะดวกและปลอดภัยทั้งการบริหารจัดการบิลค่าใช้จ่าย การเรียกเก็บเงิน การโอนเงิน โดยไม่ต้องแตะเงินสดและสามารถทำได้ง่ายๆ บนช่องทางไลน์ซึ่งเป็นแอปฯ ที่คนไทยใช้งานแทบทั้งวัน

ล่าสุดได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ คือ การเก็บหลายบิล ซึ่งช่วยให้กลุ่มเพื่อนจัดการบิลค่าใช้จ่ายหลาย ๆ บิล ได้สะดวกขึ้น โดยขุนทองจะช่วยหารค่าใช้จ่ายทั้งหมดและสรุปยอดว่าใครจะต้องจ่ายเงินให้ใครเท่าใด อีกทั้งยังจัดแคมเปญการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดการใช้งาน โดยลูกค้าจะได้รับคูปอง Lazada มูลค่า 50 บาท เมื่อใช้ขุนทองเรียกเก็บบิลขั้นต่ำ 400 บาท และมีสมาชิกในบิลอย่างน้อย 4 คนได้สำเร็จ จำกัดจำนวน 1,000 สิทธิ์แรกต่อสัปดาห์ ตั้งแต่วันนี้ – 9 ก.พ. 64 ตั้งเป้าหมายจะเพิ่มยอดผู้ใช้งานขุนทองให้ถึง 1.5 ล้านรายภายในปี 2564

จากข้อมูลพบว่า ค่าใช้จ่ายที่ลูกค้าใช้ขุนทองในการเรียกเก็บเงินภายในกลุ่ม 3 อันดับแรก ได้แก่ 1. ค่าอาหาร 2. ค่าใช้จ่ายรายเดือน เช่น Netflix Spotify ค่าเช่าบ้าน และ 3. ค่าทริปท่องเที่ยว โดยบิลเรียกเก็บเงินผ่านขุนทองมีมูลค่าเฉลี่ย 800-1,500 บาทต่อบิล และนอกจากกลุ่มนิวเจนแล้ว ยังมีอีกกลุ่มลูกค้าที่ใช้งานขุนทองอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ คือ พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่ใช้ขุนทองเพื่อเรียกเก็บเงินลูกค้า มีทั้งแบบเก็บเงินเป็นรายครั้งและแบบเรียกเก็บเงินเป็นประจำทุกเดือน

“ขุนทอง” เปิดให้ใช้งานฟรี เพียงเพิ่มเพื่อน @KhunThong ไว้ในไลน์ หรือคลิก https://lin.ee/bxjDVWR แล้วเชิญขุนทองเข้าในกรุ๊ปแชทที่ต้องการใช้งาน ระหว่างที่ขุนทองอยู่ในกลุ่มแชท จะไม่มีการเก็บข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับการสนทนา ในกรณีที่ข้อความขึ้นว่าถูกอ่านทันทีในกรุ๊ปแชทที่มีขุนทอง เกิดจากการที่ขุนทองตรวจสอบว่าข้อความนั้นมีคีย์เวิร์ด ที่ลูกค้าพิมพ์เพื่อเรียกใช้งานขุนทองหรือไม่ เช่นคำว่า ขุนทอง สร้างบิล และเก็บเงิน เป็นต้น

ดูข้อมูลเพิ่มเติมขุนทอง คลิก http://kbank.co/3oduTki