โควิดไม่สะเทือน ‘มหาเศรษฐีเอเชีย’ สินทรัพย์ลดลงเล็กน้อย ผู้มั่งคั่งสูงรุ่นใหม่หันให้ความสำคัญความยั่งยืน

KBank Private Banking เผยโควิด-19 ไม่กระทบมหาเศรษฐีเอเชีย ส่วนใหญ่ยังคงเดินหน้ารักษาพอร์ตปกติ ปรับลดเพียงผลตอบแทนระยะสั้น แม้มองดอกเบี้ยตกต่ำอีกทศวรรษ ด้านเศรษฐียุคใหม่หันให้ความสำคัญเรื่องความยั่งยืน-ธรรมาภิบาลเพิ่มมากขึ้น

โควิด-19 ไม่กระทบผู้มีความมั่งคั่งสูง

นายจิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ Private Banking Group Head ธนาคารกสิกรไทย และนายวินเซนต์ แมกนีแนตท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลอมบาร์ด โอเดียร์ เอเชีย ร่วมกันเปิดเผยว่า ในยุคโควิด-19 ที่ผ่านมาไม่ได้สร้างความกระทบกระเทือนใหักับกลุ่มผู้มีความมั่งคั่งสูงในไทย แม้จะมีทรัพย์สินลดลงบ้าง แต่ก็ยังคงร่ำรวย และในเอเชียก็มีจำนวนเศรษฐีใหม่เพิ่มขึ้นมหาศาลจากการเกิดขึ้นของระบบเศรษฐกิจใหม่ในกลุ่มผู้พัฒนาเทคโนโลยี โดยในช่วงเวลาต่อจากนี้หลังจากความกดดันจากสงครามการค้าลดน้อยถอยลง โฟกัสของเศรษฐกิจโลกก็จะหันกลับมาจับที่เอเชียมากยิ่งขึ้น

โดยในช่วงที่ผ่านมา เหล่าผู้มีความมั่งคั่งสูงในเอเชียส่วนใหญ่มีความกังวลบ้างเกี่ยวกับ ‘ความผันผวน’ เนื่องจากโควิด-19 เป็นความผันผวนในรูปแบบที่ไม่เคยเผชิญมาก่อน และยังเป็นวิกฤตการณ์ที่สืบเนื่องจากช่วงตกต่ำของดอกเบี้ย บีบให้ผู้ลงทุนไม่สามารถฝากไว้เก็บไว้เฉยๆ โดยไม่ได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า และต้องยอมรับความผันผวนจากการลงทุน

จากผลผลสำรวจล่าสุดเรื่อง ‘สานสัมพันธ์ เปลี่ยนผ่าน และพลิกโฉม: การเข้าถึงผู้มีความมั่งคั่งสูงในภูมิภาคเอเชีย ในยุค New Normal’ จากการสำรวจความคิดเห็นของบุคคลผู้มีความมั่งคั่งสูง 150 รายในหลากหลายประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ฮ่องกง ญี่ปุ่น และไต้หวันหลายด้านของทั้งสองไพรเวทแบงกิ้งพบว่า

ผู้มีความมั่งคั่งสูงไม่ปรับพอร์ต

ผู้มีความมั่งคั่งสูงส่วนใหญ่กว่า 81% ในเอเชียและ 70% ในไทย ไม่ได้ปรับเปลี่ยนระยะเวลาของพอร์ตการลงทุนในช่วงโควิด แม้กว่า 1 ใน 4 จะเลือกปรับเปลี่ยนเป้าหมายของผลตอบแทนให้สอดคล้องกับความเสี่ยงและสภาพคล่องของพอร์ตที่การลงทุนระยะสั้นอาจจะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เนื่องจากผู้มีความมั่งคั่งสูงส่วนใหญ่ผ่านร้อนหนาวและวิกฤตมาหลายครั้ง ทำให้ไม่ตกใจกับสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นและได้บริหารความเสี่ยงในการลงทุนมาก่อนหน้าอยู่แล้ว โดยกว่า 78% มองว่าภาวะดอกเบี้ยต่ำในโลกยุคหลังจะดำเนินไปอีกนับทศวรรษ

ในฐานะไพรเวทแบงกิ้งจึงต้องช่วยลูกค้ามองหาความสมเหตุสมผลในการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เป็นจุดตัดในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า โดยในปี 2020 ที่ผ่านมา ถือเป็นปีที่ดีที่สุดในรอบหลายปีหรือ Best one of the best year สำหรับบริษัทที่ดูแลเกี่ยวกับการลงทุน และการผ่านวิกฤตอีกครั้งจะทำให้เราแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น แม้จะมีความท้าทายในการดูแลลูกค้าในภาวะที่จะต้องเว้นระยะห่าง

อย่างไรก็ตาม นายวินเซนต์ เชื่อว่าตลาดการลงทุนในเอเชียมีสัญญาณเป็นบวก จากความกดดันทางการค้าที่ลดลง ดังนั้น เอเชียจะกลับมาเป็นศูนย์กลางทางการค้าและฟื้นตัวตามเศรษฐกิจที่ขยับขึ้นเป็นลำดับ

เศรษฐีรุ่นใหม่ใส่ใจการลงทุนเพื่อความยั่งยืน

นอกจากนั้น ผลสำรวจยังชี้ให้เห็นว่าผู้มีความมั่งคั่งสูงให้ความสำคัญกับ ความยั่งยืน สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีความมั่งคั่งสูงรุ่นใหม่ที่มองหาการลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมาเป็นลำดับต้นๆ

โดยกว่า 89% ของกลุ่มผู้มีความมั่งคั่งสูงจากผลสำรวจเชื่อว่าความยั่งยืนจะทวีความสำคัญมากขึ้นในระยะยาว แม้ยังไม่เกิดแนวปฏิบัติขึ้นเป็นรูปธรรมในวงกว้าง โดยเฉพาะผู้มีความมั่งคั่งสูงในไทยที่จัดอันดับให้ความยั่งยืนเป็น 1 ใน 3 ประเด็นที่สำคัญที่สุดในการเลือกผู้บริหารจัดการทรัพย์สิน อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้มีความมั่งคั่งสูงในเอเชียอีกหลายประเทศที่ยังไม่มีแผนจะลงทุนโดยคำนึงถึงมิติความยั่งยืน

เช่นเดียวกันกับประเด็นการการบริหารทรัพย์สินครอบครัว โดยการจัดทำธรรมาภิบาลในการจัดการทรัพย์สินครอบครัว ส่วนใหญ่ผู้มีความมั่งคั่งสูงยังไม่ได้เริ่มวางแผนโครงสร้างการถือครองทรัพย์สินและบางกลุ่มยังไม่เห็นความสำคัญ แต่ก็เริ่มมีมากขึ้นแล้วเป็นลำดับ สำหรับในประเทศไทยเองมีกลุ่มผู้มีความมั่งคั่งสูงถึง 45% ที่ยังไม่ได้จัดทำธรรมาภิบาลครอบครับ แต่มีความสนใจ

โดยปัจจุบันบริการที่ผู้มีความมั่งคั่งสูงในเอเชียโดยเฉลี่ยให้ความสำคัญมากที่สุด คือ บริการด้านสินเชื่อ ความสามารถเข้าถึงเครือข่ายผู้ประกอบการ และการเข้าถึงการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ในขณะที่ผู้มีความมั่งคั่งสูงในไทยมองว่าบริการสำคัญสูงสุดคือ การบริหารจัดการด้านการเงิน

นอกจากนั้น ผู้มีความมั่งคั่งสูงยังสัมผสได้ถึงการหมุนกลับของโลกาภิวัฒน์ หลังจากโควิด-19 ทำให้ห่วงโซ่อุปทานระหว่างประเทศหยุดชะงัก ดังนั้น ผู้มีความมั่งคั่งสูงจึงกลับมาให้คามสำคัญกับการบริหารจัดการสินทรัพย์ในประเทศหรือโดยบริษัทฯ ภายในประเทศมากขึ้น