SHARE

คัดลอกแล้ว

KCAR เริ่มลอง EV แล้ว แต่ยังไม่ตอบโจทย์ธุรกิจรถเช่า-มือสอง เพราะประกัน-ราคา-ความไม่สะดวก ยอมรับ EV เปลี่ยนบริบทวงการรถยนต์ไทย รอดูทิศทางต่อเนื่อง ตอนนี้คนรุ่นใหม่เลือกเช่าขับมากกว่าซื้อขับ อีก 3-5 ปีเทรนด์จะยิ่งเติบโต ภาพรวมตลาดรถเช่าหดตัวเล็กน้อย-ตลาดมือสองเพิ่งเริ่มซบเซาปลายปี จากสถานการณ์ยึดรถ-การเข้ามาของ EV – EXPO คาดประกอบการปี 66 เก็บกำไร 2 พันล้าน

[ EV  ยังไม่ตอบโจทย์ธุรกิจรถเช่า-มือสอง ]

‘พิชิต จันทรเสรีกุล’ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงไทยคาร์เร้นท์ แอนด์ ลีส จำกัด (มหาชน) หรือ KCAR อธิบายว่า พอคนเริ่มให้ความสนใจรถไฟฟ้าและมีการสอบถามเกี่ยวกับ EV มาทาง KCAR มากขึ้น บริษัทจีงจัดซื้อมาให้ลูกค้าเช่าทดลองขับแล้วหลายแบรนด์ ทั้ง MG, BYD และ GWM หลากหลายรุ่น โดยมีลูกค้าองค์กรราว 200 บริษัทและรายย่อยมาเช่าทดลองขับบ้างแล้ว

แต่ก็ยังพบความไม่สะดวกหลายอย่าง ทั้งเงื่อนไขการใช้พลังงานที่จุดชาร์จไม่เพียงพอ ระยะเวลาการชาร์จนาน ชาร์จแต่ละครั้งยังขับได้ระยะทางจำกัด รวมถึงค่าเช่าที่แพงกว่ารถสันดาปในประสิทธิภาพใกล้เคียงกัน

และสิ่งที่เป็นอุปสรรคสำคัญคือเรื่อง Warranty ของรถไฟฟ้า ซึ่งแม้จะยาวถึง 8 ปี แต่จำกัดระยะทางเพียง 160,000-180,000 กม. ในขณะที่รถสัญญาเช่า 5 ปี มักวิ่งไกลกว่านั้น ทำให้ Warranty อาจหมดก่อนสัญญาเช่า ซึ่งจะส่งผลถึงราคาขายต่อ รวมถึงยังมีเรื่องอายุการใช้งานแบตเตอรีที่ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน 

“รถไฟฟ้าที่เข้าไทยในวันนี้นับเป็นรุ่นแรก ๆ ทำให้อุตสาหกรรมรถเช่าต่างรอดูทิศทางไปอีกราว 3-5 ปี ซึ่งทาง KCAR มีการปรับตัว ลองตลาด ดูฟีดแบ็กของลูกค้า และพิจารณาการกำหนดนโยบายทั้งจากผู้ผลิตและหน่วยงานรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีรถไฟฟ้าในอนาคตอันใกล้

ในส่วนของรถมือสองนั้น ‘พิชิต’ บอกว่า ในปีที่ผ่านมา รถยนต์ EV จะเข้าสู่ตลาดมือสองไม่มากนัก เพราะว่ารถ EV ส่วนใหญ่ยังใหม่ เข้าสู่ตลาดได้ไม่นาน และที่สำคัญ คือ เพราะว่ารถ EV ดาวน์สูง จึงผ่อนต่ำ ยอดผ่อนแต่ละเดือนไม่มากนัก และเพราะไม่ได้ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ค่าใช้จ่ายสำหรับพลังงานจึงค่อนข้างถูก ทำให้ลูกค้าสามารถผ่อนจ่ายไหว ถ้าจะมีการขายรถ EV เข้าสู่ตลาดมือสองน่าจะเกิดจากความต้องการเปลี่ยนรุ่นหรือไม่สะดวกในการชาร์จไฟมากกว่า

โดย ‘พิชิต’ ยอมรับว่า การเข้ามาของ EV มือหนึ่งหรือรถ EV ใหม่ย่อมกระทบบ้างอยู่แล้ว เพราะ EV ในไทยเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและเข้ามาเปลี่ยนบริบทวงการรถยนต์ไทยไปไม่น้อยเลย

[ คนรุ่นใหม่เช่าขับ มากกว่าซื้อขับ ]

อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจ คือ ตอนนี้ผู้ใช้รถทั่วโลกเริ่มตระหนักว่า ‘การเช่า’ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการคุมค่าใช้จ่ายที่ดีกว่า โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว เพราะเมื่อเช่ารถ ผู้ให้เช่าจะรวมต้นทุนทุกอย่างเบ็ดเสร็จในราคาเช่า ไม่ว่าจะเป็นค่างวดและดอกเบี้ย ค่าต่อทะเบียน ค่าประกัน ฯลฯ สามารถปลดภาระค่าใช้จ่ายแฝงที่ผู้บริโภคอาจไม่เคยนึกถึง อย่างค่าซ่อม ค่าเปลี่ยนอะไหล่ การหารถใช้ทดแทนเมื่อรถเสีย ฯลฯ ไปได้แบบ 100% โดยจะตกเป็นภาระของผู้ให้เช่าทั้งหมด

“วันนี้การเช่ารถนับว่าตอบโจทย์คนรุ่นใหม่อย่างมาก เพราะผู้ให้เช่าจะมีพนักงานให้คำปรึกษาและรับภาระความเสี่ยงทั้งหมดไว้เอง เมื่อคำนวณแล้วการเช่าจะถูกกว่าการซื้อในระยะเวลาเท่ากันมากกว่า 10% เลยทีเดียว ทำให้เทรนด์นี้เกิดขึ้นแล้วในหลายประเทศทั่วโลก วัยรุ่นหลายคนไม่ซื้อรถ แต่เช่ารถขับแทน

สำหรับประเทศไทย อาจต้องอาศัยเวลาในการทำความเข้าใจกันอีกสักพัก เหมือนกับการซื้อที่อยู่สมัยก่อนที่เชื่อว่าต้องซื้อบ้านพร้อมที่ดินเท่านั้น แต่ในปัจจุบันก็หันมาลงทุนในคอนโดมิเนียมหรือห้องชุดกันมากขึ้น เรื่องการเช่ารถนี้ก็เช่นกัน แม้ปัจจุบันส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าองค์กร แต่อีก 3-5 ปีข้างหน้า ลูกค้ารายบุคคลก็มีโอกาสเปลี่ยนพฤติกรรมได้ และเราเชื่อว่าเทรนด์การเช่ารถใช้จะแพร่หลายมากขึ้นในกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่อย่างแน่นอน”

[ ยึดรถดึงราคามือสอง บวก EV-EXPO ดึงตลาดซบเซาปลายปี ]

ภาพรวมมูลค่า ‘ตลาดรถเช่า’ คาดว่ามีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาทต่อปี ส่วนใหญ่ยังคงเป็นลูกค้า Operating Lease 60-70% และ Financial Lease 10-20% นอกนั้นเป็นเช่าท่องเที่ยวรายวันระยะสั้น โดยธุรกิจมีการหดตัวเล็กน้อยไม่ถึง 5%

ส่วน ‘ธุรกิจรถมือสอง’ ในช่วง 9 เดือนแรกนั้นดีมาก เพิ่งมาซบเซาช่วงปลายปี ทั้งจากมหกรรมยานยนต์และโดยเฉพาะเทรนด์รถไฟฟ้า รวมถึงการยึดรถที่มากขึ้น เพราะเมื่อ Supply มากขึ้นก็ส่งผลให้ราคารถมือสองต่ำลง นอกจากนั้น ไฟแนนซ์ยังเพิ่มความรัดกุมในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น

ส่งผลให้ผู้ประกอบการที่ยังปรับตัวไม่ทันได้รับผลกระทบเยอะ แต่แม้ตลาดรถมือสองดูชะลอตัวในช่วงนี้ แต่ภาพรวมก็ยังมีความต้องการที่ต่อเนื่อง เชื่อว่าในปีหน้า 2568 ราคามือสองจะดีดขึ้นไปอีก ดังนั้น ปี 2567 ก็นับเป็นนาทีทองสำหรับผู้ต้องการซื้อรถมือสอง เพราะจะได้ราคาดีมากกว่าในช่วงนี้

โดยคาดการณ์ปี 2567 ยังคงท้าทายทั้งสำหรับธุรกิจรถเช่าและรถมือสอง ย้ำรัฐบาลเร่งสถาบันการเงินผ่อนปรนมากขึ้นเพื่อเอื้อตลาดรถไทยให้เติบโต

[ คาดปี 66 เก็บกำไร 2 พันล้าน ]

ในส่วนของ KCAR ผลประกอบการ 3 ไตรมาสแรกปี 2566 ทำรายได้ทะลุ 1,000 ล้านบาท คาดยอดรวมทั้งปีเกิน 2,000 ล้านบาท กำไรขายรถมือสองเติบโต 58% ส่วนรถเช่า (EBT) เติบโต 20% สวนกระแสตลาด โดยสามารถรักษาสัดส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ต่ำสุดในกลุ่มผู้ประกอบการ Top10

เมื่อพิจารณาในด้านสินทรัพย์รวม แม้ว่า KCAR จะมีสินทรัพย์รวมที่ 5.7 พันล้านบาท คิดเป็นอันดับ 8 ในกลุ่ม TOP10 ของธุรกิจรถเช่ากลุ่ม Operating Lease และ Financial Lease แต่ KCAR  สามารถทำกำไรสัดส่วนสูงสุดที่ 4.0% และยังสามารถรักษาสัดส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ได้ต่ำสุดในกลุ่มเพียง 1.5% 

ปัจจุบัน KCAR ดำเนิน 2 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจรถเช่าและธุรกิจขายรถมือสอง ซึ่งเกิดจากการพัฒนาโมเดลธุรกิจให้เอื้อประโยชน์กัน โดยช่วงแรกบริษัทฯ มีเพียงธุกิจรถเช่า KCAR ต่อมาจึงตั้งธุรกิจรองรับการขายรถมือสองสภาพดีที่หมดสัญญาเช่าจากลูกค้าในชื่อ Toyota Sure Krungthai แม้โมเดลธุรกิจจะดูเป็นโครงสร้างการเงินที่ซื้อทรัพย์สินมาบริหารและขายต่อ หากซีอีโอเน้นย้ำว่าทั้งหมดทั้ง KCAR และ Toyota Sure Krungthai คือธุรกิจบริการ 

ธุรกิจรถเช่า KCAR มีพอร์ตรถยนต์มากกว่า 9,000 คัน และฐานลูกค้ามากกว่า 1,200 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นลูกค้า Operating Lease เช่าระยะยาว 1-5 ปี แบ่งเป็นหน่วยงานราชการ 15% และองค์กรเอกชน 85% ซึ่งสิ่งที่มัดใจลูกค้าคือการมีศูนย์บริการมากกว่า 1,200 แห่งทั่วประเทศ 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า