SHARE

คัดลอกแล้ว

Kia Corporation (เกีย คอร์ปอเรชัน) บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์สัญชาติเกาหลี ที่เป็นส่วนหนึ่งของ กลุ่ม Hyundai-Kia Automotive Group ที่เป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 5 ของโลก ได้เปิดตัว ‘เกีย เซลส์ ประเทศไทย’ ให้เข้ามาทำหน้าที่ดูแลการดำเนินงานในประเทศไทยอย่างเป็นอย่างทาง

ครอบคลุมตั้งแต่ด้านการขาย การตลาด การบริการหลังการขาย และเครือข่ายผู้จำหน่ายรถยนต์ ‘KIA’ โดยตั้งเป้าเป็น TOP5 แบรนด์รถในใจคนไทยและขยับส่วนแบ่งขึ้นเป็น 5%

ในระยะ 5 ปีต่อจากนี้ ‘เกีย เซลส์ ประเทศไทย’จะใช้กลยุทธ์ ‘Plan S-5’ ที่มีเป้าหมายหลัก 4 ข้อ 

1) ครองส่วนแบ่ง 5% ของตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล

2) เพิ่มการทำตลาด BEV เป็น 50% ของยอดขาย KIA ในไทย

3) กลายเป็นแบรนด์ที่คนไทยรู้จักสูงที่สุด 5 อันดับแรก

4) ขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายทั่วประเทศให้เติบโตขึ้น 5 เท่าตัว

[ ลูกค้าเปลี่ยนวิธีซื้อรถ สนใจยี่ห้อน้อยลง เลือกแบรนด์ตอบโจทย์ EV โตต่อ ]

‘ณัฏฐ์ชัย สุรวรรธนกุล’ รองประธานฝ่ายขาย เครือข่ายผู้จำหน่ายและบริการหลังการขาย อธิบายว่า เมื่อก่อนคนไทยตัดสินใจซื้อรถยนต์จากความคุ้นเคยและอาศัยคนรอบข้างแนะนำ แต่ในช่วงปี 2022 เป็นต้นมามีแบรนด์รถยนต์ใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดจำนวนมากและมาพร้อมกับนวัตกรรมใหม่ๆ ทำให้ผู้บริโภคมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไป หันมาเลือกแบรนด์ที่ตอบโจทย์และเลือกแบรนด์จากเทคโนโลยีมากขึ้น

ประกอบกับลูกค้าส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับ ‘ต้นทุนค่าใช้จ่าย’ ในการมีรถยนต์มากขึ้น ดังนั้น BEV จึงได้รับความนิยมอย่างมาก ขณะที่รถยนต์ HEV/PHEV เติบโตขึ้น 51% ในปี 2023 ที่ผ่านมา แต่รถ BEV เติบโตมากถึง 748% เพราะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลงและได้รับการสนับสนุนส่วนลดจากรัฐบาล ดังนั้น จึงสรุปได้ว่า “ลูกค้าชาวไทยมีพฤติกรรมการซื้อรถเปลี่ยนไปและมองหารถที่ตอบโจทย์มากกว่าแค่ยี่ห้อ”

อย่างไรก็ตาม แม้หลายปีที่ผ่านมาตลาดรถยนต์ในไทยจะมีขาขึ้นและขาลงสลับกัน และยอดจำหน่ายรถในตลาดต่ำกว่า 8 แสนคัน เพราะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ แต่ตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลก็ยังมีการเติบโตโดยเฉพาะในกลุ่ม EV

ในปี 2567 คาดว่า ตลาดรถยนต์ในไทยจะกลับมาฟื้นตัวดี และยอดจำหน่ายจะขยับตัวขึ้นเป็น 850,000 – 860,000 คันจากอานิสงส์ของรถ BEV ที่มียอดจำหน่ายเพิ่มสูงขึ้น

ทำให้ ‘เกีย เซลส์ ประเทศไทย’ ที่ต้องการขยายส่วนแบ่งตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลสู่ 5% จึงเตรียมจะใช้ 4 กลยุทธ์หลักอย่าง 

1) ดีไซน์สวย คุณภาพดี 

2) โปรดักส์ครอบคลุมเซกเมนต์ 

3) ประสบการณ์ในตลาดอเมริกาและยุโรป

4) โกลบอลแบรนด์อายุมากกว่า 80 ปี มาเจาะกลุ่มตลาดไทย 

พร้อมเสริมความมั่นใจในด้านงานขาย 3 อย่างให้กับรถยนต์รุ่นใหม่ที่เปิดตัวในตลาดตั้งแต่เดือนมีนาคม 2567 เป็นต้นไป จะได้รับประกันรถนาน 7 ปี (หรือ 150,000 กิโลเมตร) รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี (หรือ 160,000 กิโลเมตร) และบริการช่วยเหลือเร่งด่วนยาวนาน 7 ปี

‘ฌ็อง–ดาวิด คริสติญอง อาเรล’ รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์และการตลาด อธิบายว่า สำหรับเป้าหมายระยะยาวของ ‘เกีย เซลส์ ประเทศไทย’ จะเน้นเดินหน้า 4 ด้านหลัก อย่าง 

1) ปรับปรุงโชว์รูมใหม่เพื่อรองรับรถรุ่นใหม่ที่กำลังจะเปิดตัว

2) เตรียมพร้อมฝึกอบรมงานขายและบริการ

3) นำระบบออนไลน์เข้ามาซัพพอร์ตออฟไลน์ สร้างการเชื่อมต่อ

4) ขยายบริการโมบายเซอร์วิส มีบริการ Roadside และรถใช้ระหว่างซ่อมบำรุง

โดยแบ่งแผนการพัฒนาแบรนด์ในไทย ออกเป็น 3 ระยะ

– ระยะที่ 1 สร้างมาตรฐานการบริการและขยายโชว์รูมในกรุงเทพให้ครบเขตและครบในหัวเมืองใหญ่ (ปัจจุบัยมีโชว์รูมรวม 19 แห่งและจะเพิ่มเป็น 26 แห่งในปีนี้ โดยมีผู้จำหน่ายใหม่เข้าร่วม 10 ราย)

– ระยะที่ 2 ขยายจากหัวเมืองใหญ่ไปหัวเมืองรอง ให้สอดคล้องกับการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ ที่เปิดตัวในปีถัดไป

– ระยะที่ 3 รักษาพื้นที่การให้บริการอย่างยั่งยืนและขยายให้ครบ 100 สาขาในปี 2028

และ KIA ยังมีเป้าหมายระยะสั้นอย่างปี 2024 ตั้งเป้าขยายส่วนแบ่งสู่ 20% ของตลาด MPV (รถยนต์หลายที่นั่งลักษณะคล้ายรถตู้) และ C SUV (รถยนต์อเนกประสงค์ขนาดกลาง) ที่ได้เปิดตัวไปแล้ว โดยมีรุ่น Carnival ที่เปิดตัวไปแล้วและวิ่งอยู่บนถนนไทยราว 10,000 คัน 

พร้อมเตรียมจะเปิดตัว ‘KIA EV9’ รถยนต์เอสยูวีขนาดใหญ่รุ่นแรกในประเทศไทยที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% ในวันที่ 1 และ 2 มีนาคมนี้ เพื่อเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า