ส.ส.เกาหลีใต้เปิดเผยว่า คิม จอง-อึนกำลังเครียดจัด จนออกคำสั่งไร้เหตุผล

เกาหลีใต้เปิดเผยโดยอ้างข้อมูลหน่วยข่าวกรองว่า นายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือกำลังเครียดจัด จนออกคำสั่งที่ถูกมองว่าไร้เหตุผลเพื่อป้องกันโรคโควิด-19

วันที่ 28 พ.ย. 2563 สื่อต่างประเทศรายงานว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเกาหลีใต้เปิดเผยหลังรับฟังข้อมูลจากหน่วยข่าวกรองเมื่อวานนี้ (27 พ.ย.) ว่า นายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ กำลังอยู่ในภาวะเครียดจัด เห็นได้จากการออกคำสั่งที่ไร้เหตุผล เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไม่ให้เข้าไปในเกาหลีเหนือ

โดยคำสั่งที่นายคิม จอง-อึน สั่งการและถูกมองว่าไม่มีเหตุผล เช่น การสั่งห้ามทำประมงและทำเกลือสมุทร เพราะกังวลว่าน้ำทะเลอาจปนเปื้อนเชื้อโควิด-19, การสั่งระงับการนำเข้าข้าว 110,000 ตันจากประเทศจีน นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือสั่งล็อกดาวน์กรุงเปียงยาง เมืองหลวงของประเทศ และจังหวัดทางภาคเหนืออีกด้วย

นายคิม จอง-อึน ยังสั่งการให้เจ้าหน้าที่ทูตเกาหลีเหนือที่ประจำการอยู่ต่างประเทศ ระงับกิจกรรมทางการทูตที่อาจยั่วยุรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อรอท่าทีรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดใหม่ที่จะนำโดยว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ขณะเดียวกันยังมีรายงานว่า ทางการเกาหลีเหนือสั่งประหารชาวเกาหลีเหนือที่ดูแลเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา รวมทั้งประหารเจ้าหน้าที่อีกคนที่ฝ่าฝืนกฎป้องกันโรคโควิด-19 ด้วยการลักลอบนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ

รายงานจากหน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้ยังระบุด้วยว่า ทางการเกาหลีเหนือพยายามแฮ็กข้อมูลวัคซีนโควิด-19 สอดคล้องกับรายงานของไมโครซอฟท์เมื่อต้นเดือนที่ชี้ว่า มีบริษัทพัฒนาวัคซีนหลายแห่งในแคนาดา ฝรั่งเศส อินเดียและเกาหลีใต้ ถูกแฮ็กเกอร์ชาวรัสเซียและเกาหลีเหนือพยายามโจมตีข้อมูล

เช่นเดียวกับรายงานล่าสุดของสำนักข่าวรอยเตอร์ส ซึ่งอ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยชื่อระบุว่า ทางการเกาหลีเหนือพยายามแฮ็กข้อมูลวัคซีนโควิด-19 จากบริษัทแอสทราเซเนกา (AstraZeneca) ซึ่งร่วมพัฒนากับมหาวิทยาลัยอ็อกฟอร์ด โดยใช้วิธีหลอกรับสมัครงานในเว็บไซต์ เช่น LinkedIn และ WhatsApp ล่อให้พนักงานแอสทราเซเนกาสนใจ ซึ่งเมื่อมีคนสนใจแล้ว แฮ็กเกอร์จะส่งเอกสารที่อ้างว่าเป็นข้อมูลการทำงาน โดยฝังมัลแวร์ไปด้วยเพื่อหวังขโมยข้อมูล