SHARE

คัดลอกแล้ว

เชื่อว่าคนไทยจำนวนมากน่าจะรู้จักแอปพลิเคชัน Klook บางคนอาจใช้บริการอยู่บ่อยๆ ตอบโจทย์สายท่องเที่ยว เพราะ Klook เป็นแอปที่สามารถจองกิจกรรมบันเทิงและท่องเที่ยวได้อย่างหลากหลาย ครอบคลุมหลายประเทศทั่วโลก ตั้งแต่จองตั๋วเข้าสวนสนุก มิวเซียม รถสาธารณะ โรงแรม ไปจนถึงเช่ารถและจองซิมการ์ดหรือ Pocket Wi-Fi สำหรับใช้งานอินเทอร์เน็ต เรียกได้ว่าให้บริการครบจบในแอปเดียว สมกับคอนเซ็ปต์ “จองง่าย จ่ายจบ” 

Klook ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 2014 โดยสำนักงานใหญ่ของ Klook ตั้งอยู่ที่ฮ่องกง ผู้ก่อตั้งคือ Ethan Lin และ Eric Gnock Fah ชาวฮ่องกง ที่เคยมี Pain Point เกี่ยวกับการเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ แต่กลับไม่สะดวกสบายเวลาจ่ายเงินตั๋วเครื่องบิน โรงแรม รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ทำให้ทั้งคู่คิดโซลูชั่นเพื่อแก้ไขปัญหานี้ 

แอป Klook จึงเกิดขึ้นมา โดยได้รวมบริการต่างๆ ครบในแอปเดียว และไม่จำเป็นต้องใช้เงินสด สามารถจ่ายค่าบริการล่วงหน้าผ่านบัตรเครดิตหรือเดบิตได้ พร้อมทั้งมีรีวิวจากผู้ใช้จริงเพื่อช่วยในการตัดสินใจ รองรับหลายภาษา หลายสกุลเงิน และเมื่อถึงเวลาจอง ผู้ใช้สามารถเปิดตั๋วหรือหลักฐานการจองผ่านแอปเพื่อเข้าไปใช้บริการได้เลยทันที 

ยกตัวอย่างบริการที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้งาน Klook เช่น จองบัตรเข้าสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง  บัตรเข้าสวนสนุกอย่าง Tokyo Disneyland, Universal Studios Japan, หรือ Hong Kong Disneyland ที่สามารถจองล่วงหน้าได้และเข้าช่อง Fast Track ได้ทันที ลดเวลาการต่อแถวยาว

นอกจากนี้ยังมีบริการจองบัตรโดยสารรถสาธารณะ อย่างบัตร JR Pass สำหรับเดินทางในญี่ปุ่น, บัตรรถไฟความเร็วสูงในไต้หวัน หรือแม้แต่บัตรโดยสารรถไฟฟ้า BTS และ MRT ในประเทศไทยเอง ก็สามารถซื้อผ่านแอปได้เช่นกัน

บริการยอดนิยมอื่นๆ ยังรวมถึง การเช่ารถพร้อมคนขับ, การจองกิจกรรมทัวร์แบบวันเดียว เช่น ล่องเรือที่ฮาลองเบย์ในเวียดนาม หรือทัวร์ชมภูเขาไฟฟูจิในญี่ปุ่น ไปจนถึงการจองซิมการ์ดหรือ Pocket Wi-Fi สำหรับใช้งานอินเทอร์เน็ตระหว่างเดินทาง นอกจากนี้ Klook ยังมีดีลพิเศษและโปรโมชั่นลดราคาที่หมุนเวียนเปลี่ยนผ่านอยู่ตลอด ทำให้ผู้ใช้ติดตามเพื่อวางแผนทริปได้อย่างคุ้มค่าและประหยัดมากขึ้น

ความน่าสนใจของ Klook ดึงดูดนักลงทุนต่อเนื่อง

ความสะดวกสบายนี้ ทำให้ปัจจุบันแอปพลิเคชัน Klook มีผู้ใช้บริการทั่วโลก รองรับหลายภาษา กับกิจกรรมในท้องถิ่นรวมมากกว่า 100,000 กิจกรรม มีออฟฟิศอยู่ในหลายประเทศ ทั้งในภูมิภาคเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ปัจจุบันมีพนักงานมากกว่า 1,000 คน

ซึ่งกว่า Klook จะมาถึงจุดนี้ กลายเป็นสตาร์ทอัประดับยูนิคอร์น และเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง บริษัทได้พัฒนาแอปมาต่อเนื่องมากกว่า 10 ปี และประสบความสำเร็จกับการระดมทุนจากบริษัทลงทุนระดับโลกมากมายหลายครั้ง เช่น Sequoia Capital, TCV, Matrix Partners, Goldman Sach และล่าสุดกับ Vitruvian

ผลประกอบการของ Klook เติบโตอย่างต่อเนื่อง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

  • ปี 2021 รายได้ 71.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2.1 พันล้านบาท
  • ปี 2023 รายได้ 123.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 4 พันล้านบาท 
  • ปี 2024 รายได้ 201.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 6.6 พันล้านบาท 

อย่างที่บอกว่าในปี 2023 Klook สามารถทำกำไรได้เป็นครั้งแรก หลังผ่านพ้นโควิด 19 และยังมีมูลค่าการจองรวมต่อปี (Annualized Gross Booking Value) ถึง 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2019 ซึ่งเป็นช่วงก่อนหน้าโควิด ตัวเลขนี้ชี้วัดว่าแพลตฟอร์มนี้มีคนใช้งานเยอะและมีเงินสะพัดสูงมากในระบบ

ส่วนทางด้านการระดมทุนและการขยายธุรกิจก็ทำได้ดีเลยทีเดียว โดยในเดือนธันวาคม 2023 Klook ได้ระดมทุนในรอบ Series E+ จำนวน 210 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนำโดย Bessemer Venture Partners และมีผู้ร่วมลงทุนจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลายราย ส่งผลให้ยอดการระดมทุนรวมของบริษัทตั้งแต่ก่อตั้งสูงถึง 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 

ล่าสุดในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Klook ได้รับเงินทุนเพิ่มอีก 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากบริษัทไพรเวทอิควิตี้ Vitruvian Partners ซึ่งเป็นนักลงทุนรายใหญ่ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ผู้ลงทุนมองว่า Klook มีผลงานด้านนวัตกรรมที่โดดเด่น และมีศักยภาพในการเป็นผู้นำด้านประสบการณ์ท่องเที่ยวในเอเชียแปซิฟิก

Vitruvian เคยลงทุนในธุรกิจท่องเที่ยวหลายรายก่อนหน้านี้ สำหรับการเพิ่มเงินทุนให้ Klook ครั้งล่าสุด จะส่งผลให้ยอดการระดมทุนรวมของ Klook พุ่งทะลุ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3.3 หมื่นล้านบาท ช่วยหนุนการขยายธุรกิจของ Klook ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยเงินทุนก้อนใหม่นี้จะถูกนำไปสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยี AI ของ Klook เช่น การปรับปรุงระบบปฏิบัติการของร้านค้าพันธมิตร ผ่านความร่วมมือที่ขยายตัวกับ Google Cloud รวมถึงการนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ให้บริการลูกค้า 

ยุคดิจิทัลอยู่ในมือผู้บริโภค ดัน Klook เติบโตอย่างต่อเนื่อง

ตลาดการจองกิจกรรมท่องเที่ยวออนไลน์กำลังเติบโตแบบก้าวกระโดด แนวโน้มอาจมีมูลค่ามากกว่า 1 ล้านล้านบาททั่วโลกภายในไม่กี่ปีข้างหน้านี้ โดยมีปัจจัยสนับสนุน เช่น การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว, การเร่งเข้าสู่ยุคดิจิทัลของผู้ให้บริการท่องเที่ยวรายย่อย, ความต้องการของผู้บริโภคที่สามารถจองทุกอย่างได้เองผ่านมือถือ ไปจนถึงการแข่งขันด้านราคาและโปรโมชั่นจากแพลตฟอร์มต่างๆ

เมื่อพฤติกรรมนักเดินทางในยุคใหม่เริ่มเปลี่ยนไปสู่การ ‘วางแผน-จอง-จ่าย’ ผ่านมือถือทั้งหมด ต้องการความ สะดวก รวดเร็ว และไม่ยุ่งยาก ซึ่ง Klook ตอบโจทย์ได้ครบ ทั้งด้านการใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน, ตัวเลือกกิจกรรมหลากหลาย, ระบบจ่ายเงินแบบไร้เงินสด และการยืนยันการจองแบบเรียลไทม์ 

นอกจากนี้ ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะ กลุ่ม Millennials และ Gen Z ที่นิยม เที่ยวสั้นแต่บ่อย และมักแชร์ประสบการณ์หรือรีวิวผ่านโซเชียล รวมถึงมองหาดีลคุ้มค่าอยู่เสมอ ล้วนส่งเสริมให้แพลตฟอร์มแบบ Klook กลายเป็นเครื่องมือทางเลือกในการวางแผนทริปทั้งในและต่างประเทศ

จากปัจจัยบวกที่ว่ามานี้ ทำให้ Klook มีโอกาสเติบโตต่อไปในฐานะผู้นำตลาด แต่อย่างไรก็ตาม Klook ก็ยังต้องเผชิญกับคู่แข่งหลายรายที่กำลังเร่งพัฒนาบริการและขยายการเติบโตเช่นกัน เพราะตลาดนี้ยังเปิดกว้างให้กับผู้เล่นหน้าใหม่ๆ เข้ามาเสมอ

ดังนั้นการแข่งขันจึงไม่ได้อยู่แค่เรื่องของ ‘จำนวนกิจกรรม’ แต่รวมถึงการออกแบบ UX/UI, ความคุ้มค่า, ความน่าเชื่อถือของแอป และการสนับสนุนในแต่ละภูมิภาค ยิ่งแอปสามารถต่อยอดบริการให้ลึกขึ้น เช่น มีแพ็กเกจแบบ Dynamic Trip (จองทีเดียวครบทั้งทริป), ราคาคุ้มค่ามากกว่าคู่แข่ง, มี AI แนะนำกิจกรรมตามความสนใจ, เพิ่มบริการแบบ Local Experience และให้ความสำคัญกับการบริการลูกค้าเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดี ก็จะยิ่งดึงดูดผู้บริโภคให้มากขึ้นได้

ใครอยากใช้บริการ Klook ในช่วงนี้ สามารถใช้ส่วนลดได้มากถึง 7% ทุกกิจกรรม เพียงจองบริการผ่านทุกบัตรเครดิตกรุงศรี (https://s.klook.com/c/E3_roJmvXY) ใส่โค้ด KCCKLK7OFF หรือจองผ่านทุกบัตรเครดิต TTB (https://s.klook.com/c/23A0ZnpBwl) โดยใส่โค้ด TTBKLK7OFF

อ้างอิงข้อมูล

https://getlatka.com/companies/klook?utm_source

https://www.klook.com/newsroom/funding-seriesE%2B/?utm_source 

www.forbes.com/sites/catherinewang/2024/02/21/with-900-million-in-total-funding-klook-targets-asias-travel-obsessed-millennials-and-gen-z/?utm_source 

https://skift.com/2025/02/11/klook-raises-100-million-from-vitruvian-to-fuel-travel-experience-sales/ 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า