เปิดธุรกิจ โคบี้ ไบรอันต์ กับแนวคิดแบบงูแบล็กแมมบ้า

หลังเกิดเหตุสลด โคบี้ ไบรอันต์ อดีตสุดยอดนักกีฬาบาสเกตบอลชื่อดังของโลก วัย 41 ปี เสียชีวิตพร้อมลูกสาวในเหตุเครื่องบินตกที่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา

แม้หลายคนรู้จักเขาในฐานะซูเปอร์สตาร์ระดับตำนานของเอ็นบีเอแต่ในอีกด้านนอกสนามบาสฯ แล้ว เขายังเป็นที่รู้จักในโลกธุรกิจในฐานะผู้สร้างแบรนด์, นักลงทุน, โค้ชให้กับนักกีฬารายอื่น และผู้ก่อตั้งบริษัท

ซีเอ็นเอ็นวิเคราะห์มูลค่าของแบรนด์โคบี้

โดยเขาเปลี่ยนอาชีพของเขาด้วยการบุกเข้าไปในโลกการลงทุนก่อนออกจากเอ็นบีเอ โดยในปี 2013 เขาร่วมก่อตั้งบริษัทร่วมลงทุน หรือ venture capital ชื่อ ไบรอันต์ สตีเบล (Bryant Stibel) ร่วมกับ เจฟฟ์ สตีเบล ผู้ก่อตั้ง web.com

ในการก่อร่างสร้างบริษัท โคบี้ ไบรอันต์ ได้ดำเนินรอยตามตำนานนักกีฬารายอื่นๆ ที่สามารถเปลี่ยนทักษะในสนามมาสู่ความสำเร็จบนเส้นทางธุรกิจ อย่างเช่น ผู้เล่นตำแหน่งพอยท์การ์ดที่มีชื่อเสียงสุดโด่งดัง เมจิค จอห์นสัน ที่ถือเป็นนักกีฬาบาสเกตบอลคนแรกที่ก้าวสู่โลกธุรกิจในปี 1987 ด้วยการก่อตั้งบริษัทด้านการลงทุน เมจิค จอห์นสัน เอนเตอร์ไพรส์ (Magic Johnson Enterprise) ที่ลงทุนในธุรกิจขนาดใหญ่จำนวนมากซึ่งรวมถึงสตาร์บัคส์และสนามบิน ลา การ์เดีย ในนิวยอร์ก

ปัจจุบันบริษัทของ โคบี้ ไบรอันต์ มีสินทรัพย์มากกว่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยลงทุนในบริษัทด้านเทคโนโลยี, สื่อ และบริษัทด้านข้อมูล รวมแล้วนับสิบแห่ง ทั้งนี้ ไบรอันต์ สตีเบล  อ้างว่ามีบริษัทที่ไบรอันต์ สตีเบล ลงทุนอย่างน้อย 10 บริษัทที่เข้าตลาดหลักทรัพย์ได้อย่างประสบความสำเร็จ อาทิเดลล์ (Dell) และอาลีบาบา (Alibaba)

นอกจากนี้ Bryant Stibel ยังลงทุนในบริษัทผู้สร้างเกม Fornite อย่าง เอพิค เกมส์ (Epic Games), บริษัทด้านดิจิทัลเพย์เมนต์ คลาน่า (Klarna) และบริษัทสินค้าในครัวเรือนอย่าง The Honest Company ด้วย

“คุณต้องมีผู้ประกอบการที่แข็งแกร่ง นั่นคือกุญแจสำคัญของเรา คือการมองหา ‘คน’” ไบรอันต์กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ CNBC เมื่อเดือนกันยายนปีก่อน “ใช่ จริงอยู่ที่การมองเรื่องผลตอบแทนของบริษัทพวกเขาเป็นสิ่งสำคัญ แต่สิ่งสำคัญไม่แพ้กันก็คือการมีโอกาสที่ดี, มีความสัมพันธ์ที่ดีกับนักลงทุนของเรา, มีโอกาสดีๆ ร่วมกับผู้ประกอบการของเรา เพื่อช่วยให้พวกเขาเติบโตและอยู่ในสถานการณ์ที่ทำให้พวกเขาจะประสบความสำเร็จได้”

นอกจาก ไบรอันต์ สตีเบล แล้วไบรอันต์ยังทำเงินได้อีกหลายล้านเหรียญจากการลงทุนในเครื่องดื่มเกลือแร่ บอดี้ อาร์มอร์ (Body Armor) ซึ่งในปี 2018 มูลค่าของบริษัทเครื่องดื่มเกลือแร่นี้ได้เพิ่มขึ้นจากการที่ โคคา โคล่า (Coca Cola) เข้าซื้อหุ้นของบริษัทนั่นเอง

โคบี้ ไบรอันต์ หลังจากสำเร็จในฐานะนักบาสเก็ตบอล ก็พยายามต่อยอดแบรนด์ของตนเองต่อ

ชื่อเสียงของ Bryant ในฐานะนักกีฬาดาวเด่นและผู้สร้างแบรนด์

“เมื่อโคบี้ประทับตราความชื่นชอบของเขาบนบางสิ่ง และกลายมาเป็นพันธมิตรของคุณ โลกกีฬาและทุกคนในวงการกีฬาจะรู้จักเรื่องราวของคุณ และคุณจะเติบโตขึ้นมาทันทีในแบบที่สตาร์ทอัพส่วนใหญ่ไม่ได้สัมผัสจนกว่าจะถึงเวลา” ไบรอัน ลี (Brian Lee) และ มัธเธียส แมทเทอร์นิช (Matthias Metternich) ผู้ก่อตั้งแบรนด์สกินแคร์ Art of Sport (บริษัทหนึ่งที่ ไบรอันต์ สตีเบล ลงทุน) ระบุในแถลงการณ์การพัฒนาบริษัทบนเว็บไซต์ ไบรอันต์ สตีเบล

ขณะที่นักกีฬารายอื่นๆ ก็จดจำโคบี้ในฐานะนักลงทุนด้วย

“เราได้รับสิทธิพิเศษและโอกาสในวงการกีฬาเพื่อให้ไปสู่ความสำเร็จและถึงจุดสูงสุดของชีวิต ซึ่งเรารู้ว่าต้องทำอย่างไรถึงจะไปสู่จุดนั้นได้ แต่นอกเหนือไปจากวงการกีฬาแล้ว มันก็เป็นอะไรที่ท้าทายสำหรับนักกีฬาเสมอ” ไมเคิล เฟลป์ส (Michael Phelps) นักว่ายน้ำโอลิมปิค กล่าวกับ Wall Street Journal เมื่อเดือนสิงหาคมปีก่อน

ทั้งนี้ ในปี 2016 ไบรอันต์ยังก่อตั้ง กรานิตี้ สตูดิโอ (Granity Studios) บริษัทสื่อที่โฟกัสไปที่การทำเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา และในนามบริษัทนี้ ดาวบาสเกตบอลรายนี้ยังเขียนบทและพากย์เสียงในภาพยนตร์สั้นเรื่อง “Dear Basketball” ซึ่งได้รับรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์สั้นแอนิเมชั่นยอดเยี่ยมในปี 2018 นอกจากนี้ กรานิตี้ยังออกหนังสือชุดสำหรับคนหนุ่มสาว รวมถึงอัตชีวประวัติของ Bryant อย่าง “The Mamba Mentality: How I Play.”

สร้างแบรนด์ Black Mamba

ไบรอันต์ผู้ที่เป็นที่รู้จักในวงการบาสเกตบอลในฉายางูแมมบ้าสำดำ (Black Mamba) ยังได้เริ่มสร้างแบรนด์ให้กับตัวเองในฐานะนักกีฬาตั้งแต่เริ่มเข้าสู่อาชีพนี้ โดยการร่วมงานกับยักษ์สปอร์ตแวร์ของโลกอย่างไนกี้

ไบรอันต์เซ็นสัญญาครั้งแรกกับไนกี้ในปี 2003 เขาเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้เล่นเอ็นบีเอชั้นยอดที่เซ็นสัญญากับไนกี้ ในปีนั้น รวมถึง เลบรอน เจมส์ และ คาร์เมโล่ แอนโธนี่ ซึ่งนักกีฬาดังเหล่านี้เป็นสิ่งที่ช่วยให้บริษัทรองเท้าอย่าง ไนกี้ ยังรักษาความแข็งแกร่งในโลกบาสเกตบอลไว้ได้อีกหลายทศวรรษถัดมาหลังจากการเกษียณของ ไมเคิล จอร์แดน ในปี 2003

และด้วยความสำเร็จในสนามของไบรอันต์ที่เพิ่มขึ้น ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและไนกี้ก็เติบโตต่อเนื่องเช่นกัน ไนกี้เปิดตัวรองเท้าหลายรุ่นที่มีไบรอันต์เป็นพรีเซ็นเตอร์ (ซึ่งใช้ชื่อ Kobe เป็นชื่อรุ่นด้วย) กระทั่งในปี 2017 บริษัทยังดึงไบรอันต์มาขึ้นเวทีร่วมกับซีอีโอในขณะนั้นอย่าง มาร์ค ปาร์เกอร์ (Mark Parker) ซึ่งเป็นการประชุมผู้ถือหุ้นพร้อมเปิดตัวกลยุทธ์ใหม่ของไนกี้

ไนกี้ยังเป็นพาร์ทเนอร์ร่วมกับไบรอันต์และ Los Angeles Boys and Girls Club ในการเปิดตัวลีกบาสเกตบอลรุ่นเยาวชนที่มีชื่อว่า Mamba League ในปี 2017  เพื่อให้เด็กหลายร้อยคนสามารถเข้าถึงกีฬานี้ได้ หลังจากนั้นเขาได้ก่อตั้ง Mamba Sports Academy เพื่อใช้ฝึกสอนบาสเกตบอลอีกด้วย

และ Mamba Sports Academy ก็เป็นสถานที่ที่เขากำลังจะเดินทางไปเยือนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา กระทั่งพบกับอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกระหว่างการเดินทาง

“เรารู้สึกเสียใจกับข่าวน่าเศร้าในวันนี้ เราขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งไปยังผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับโคบี้ โดยเฉพาะครอบครัวและเพื่อนๆ ของเขา” แถลงการณ์ของไนกี้ ที่เผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาระบุ “เขาเป็นหนึ่งในนักกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรุ่นของเขา ทั้งเป็นบุคคลที่มีอิมแพคต์ต่อโลกกีฬาและคอมมูนิตี้ของบาสเกตบอลเป็นอย่างยิ่ง เขาเป็นสมาชิกอันเป็นที่รักในครอบครัวไนกี้ และเราจะคิดถึงเขายิ่งขึ้นไป”

ทั้งนี้ไนกี้ จัดวัน Mamba Day เพื่อเป็นเกียรติแก่การลาสนามอย่างเป็นทางการของนักกีฬาผู้โด่งดังรายนี้ โดยไนกี้ยังคงสัญญากับไบรอันต์ แม้เมื่อปลายปี 2003 เขาจะถูกตั้งข้อหาพัวพันการข่มขืนหญิงสาวอายุ 19 ปี อย่างไรก็ตาม ราวหนึ่งปีหลังจากนั้นคดีถูกยกฟ้อง หลังหญิงคนดังกล่าวปฏิเสธมาพิสูจน์ความจริง ขณะที่ไบรอันต์ออกมาขอโทษต่อพฤติกรรมของเขา แต่เขาก็ระบุว่าความสัมพันธ์นั้นเป็นไปอย่างยินยอมพร้อมใจ และเขาไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย

ไบรอันต์ยังมีส่วนร่วมกับเอ็นบีเอในความพยายามขยายฐานคนดูออกไปนอกสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะในประเทศจีน โดยในปี 2015 เขาทำงานร่วมกับ Alibaba Group เพื่อเผยแพร่สารคดีเกี่ยวกับดาราบาสเกตบอลอย่าง “Kobe Bryant’s Muse” ผ่าน Tmall Magic Box TV ในประเทศจีน

โดย Alibaba ได้เผยแพร่ข่าวการร่วมมือกันในครั้งนั้น ซึ่งระบุว่า ดีลนี้เกี่ยวข้องกับการทำงานร่วมกับไบรอันต์เพื่อสร้างแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียใหม่ “เพื่อนำไปสู่ช่องทางใหม่ในการเชื่อมต่อเยาวชนชาวจีนเข้ากับโคบี้และปรัชญาของเขาโดยตรง” นอกจากนี้ จะมีการขายสินค้าที่มีแบรนด์ Kobe บนแพลตฟอร์มค้าปลีกของ Alibaba ด้วย

ตลอดอาชีพของไบรอันต์เขายังมีดีลร่วมกับแบรนด์อื่นๆ อีกมากมาย เช่น แมคโดนัลด์, สไปรท์, นินเท็นโด รวมถึงสายการบิน Turkish Airlines