Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

หุ้นโกดัก (Kodak) ทะยานขึ้นถึง 15 เท่าใน 3 วัน หลังได้รับอนุมัติเงินกู้จากรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อผลิตยารักษาโรค แต่โดยตั้งคำถามเรื่องความโปร่งใสในตลาดหุ้น

เว็บไซต์ของนิตยสาร Fortune รายงานว่า โกดักจะได้รับเงินกู้จากรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นจำนวน 765 ล้านดอลลาร์ (24,000 ล้านบาท) เพื่อเป็นเงินลงทุนในการผลิตส่วนประกอบของยารักษาโรค โดยรัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพยายามส่งเสริมการผลิตยารักษาโรคและวัตถุดิบภายในประเทศ เพื่อลดการพึ่งพาจากจีนและอินเดีย เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หน่วยงานที่ชื่อว่า International Development Finance Corporation (DFC)  ได้ประกาศว่าจะอนุมัติเงินกู้ให้กับโกดัก ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้ราคาหุ้นของบริษัทพุ่งสูงขึ้นในทันที

จิม คอนติเนนซา ซีอีโอของโกดัก ออกมาเผยว่าธุรกิจในส่วนที่ผลิตยารักษาโรคนั้น เป็นสัดส่วนประมาณ 30-40% ของบริษัท และอาจใช้เวลาอีก 3 ปีครึ่งจึงจะเพิ่มกำลังการผลิตไปถึงจุดที่ต้องการได้

แต่สำหรับผู้ถือหุ้นของบริษัท พวกเขาไม่ต้องรอถึง 3 ปีครึ่งเพื่อที่จะเริ่มทำกำไรจากดีลนี้ เมื่อข่าวดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้นพุ่งขึ้นกว่า 15 เท่าตัวภายใน 3 วัน

โดยเฉพาะในวันที่ 29 ก.ค.วันเดียว มูลค่าหุ้นของโกดัก ขยับเพิ่มขึ้นถึง 25.26 ดอลลาร์ต่อหุ้น หรือคิดเป็น 318.24%

ข้อสงสัยเรื่องความไม่โปร่งใส

ด้วยมูลค่าที่เพิ่มขึ้นมากขนาดนี้ ก็ทำให้สื่อการเงิน ย้อนไปดูถึงข้อมูลซื้อขายที่ผ่านมา และพบว่าในวันที่ 27 ก.ค. ก่อนจะมีการประกาศเรื่องเงินกู้ต่อสาธารณชน มีการซื้อขายหุ้นโกดักเป็นจำนวนมากผิดปกติ

ปริมาณการซื้อขายในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

  • 28 ก.ค. = 272,359,100
  • 27 ก.ค. = 1,645,700
  • 24 ก.ค. = 74,900
  • 23 ก.ค. = 80,800
  • 22 ก.ค. = 52,400
  • 21 ก.ค. = 107,200

โดยปริมาณซื้อขาย 1.6 ล้านในวันที่ 27 ทำให้หลายฝ่ายเกิดความสงสัยว่าอาจมีใครบางคนใช้ข้อมูลวงในในการซื้อหุ้น เพราะ 4 วันก่อนหน้ามีการซื้อขายในจำนวนหลักหมื่นหรือแค่ 1 แสนเท่านั้น ปริมาณที่เพิ่มขึ้นมาทั้งๆ ที่ในวันที่ 27 ยังไม่มีการประกาศใดๆ ทั้งสิ้น

ส่วนปริมาณซื้อขาย 272 ล้านในวันที่ 28 ที่ทางการสหรัฐฯ ประกาศว่าจะให้กู้เงิน เป็นตัวเลขที่ดูไม่น่าสงสัยอะไร เพราะมีข่าวออกมาแล้ว

เกี่ยวกับเรื่องนี้ทางซีอีโอของโกดักยืนยันว่าบริษัทพยายามอย่างดีที่สุดแล้วในการเก็บข้อมูลนี้เป็นความลับ และเชื่อว่าการที่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นเพียง 20-30 เซนต์ในวันที่ 27 ก.ค.ก็ไม่ใช่จำนวนที่มากมายอะไร

ตำนานโกดัก แมวเก้าชีวิตที่พลิกฟื้นธุรกิจหลังความล้มเหลว

โกดักเป็นบริษัทที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของโลกที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1888 และดำเนินกิจการผลิตอุปกรณ์บันทึกภาพจนเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกจากการ แต่สุดท้ายต้องล้มละลายในปี 2012 หลังยึดติดกับธุรกิจฟิล์มถ่ายรูปมากเกินไป

ย้อนไปเมื่อปี 1975 วิศวกรของโกดัก ประดิษฐ์กล้องดิจิตัลได้เป็นครั้งแรก แต่บริษัทกลับละเลยที่จะต่อยอดพัฒนาไปให้สุด ทำให้คู่แข่งอย่างฟูจิฟิล์ม (Fujifilm) ของญี่ปุ่นที่ตามมาทีหลัง ชิงเปิดตัวกล้องดิจิตัลแบบพกพาในปี 1988 และเปลี่ยนผ่านจากยุคฟิล์มสู่ยุคดิจิตัลได้เร็วกว่า

ในปี 1989 บอร์ดบริหารของโกดักทำการตัดสินใจครั้งสำคัญในการเลือกซีอีโอมาบริหารงาน มีตัวเลือกคนแรกคือ เคย์ วิทมอร์ ที่ต้องการจะโฟกัสที่ธุรกิจฟิล์มซึ่งทำกำไรได้ดีอยู่แล้ว และคนที่สอง ฟิล แซมเปอร์ ที่มีความชื่นชอบในเทคโนโลยีแบบดิจิตัล เป็นสองตัวเลือกสำคัญที่จะชี้ว่าบริษัทจะดำเนินกิจการไปในทิศทางใด

บอร์ดชุดนั้นเลือกวิทมอร์มาบริหารงาน และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้โกดัก กลายมาเป็นกรณีศึกษาในแง่ของธุรกิจที่ไม่ยอมปรับตัวจนล้มละลาย

จากบริษัทที่เมื่อก่อนเคยยิ่งใหญ่ระดับโลก มีพนักงานกว่า 145,000 คน ปัจจุบันเหลือพนักงานเพียง 5,000 คนเท่านั้น

โกดักยังคงดำเนินกิจการเรื่อยมา ผ่านการเปลี่ยนแปลงหลายรอบ ปรับตัวมาเริ่มผลิตส่วนประกอบของยารักษาโรคในปี 2016 จนทำให้ ณ ปัจจุบันที่โลกต้องเผชิญกับภาวะวิกฤติจากโควิด-19 พวกเขาเริ่มเห็นหนทางในการกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า