กรุงโซลสั่งปิดโรงเรียน หลังโควิด-19 กลับมาระบาดในเกาหลีใต้อีกครั้ง

จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในเกาหลีใต้พุ่งขึ้นกว่า 300 คน ซึ่งผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เชื่อมโยงกับโบสถ์ซารางเซอิล ขณะที่เกาหลีใต้สั่งปิดโรงเรียนทั่วกรุงโซล

ภาพ ซินหัว

วันที่ 26 ส.ค. 2563 สำนักข่าว koreaherald รายงานว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งเกาหลีใต้ (KCDC) รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 320 คน ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 18,265 คน เสียชีวิตแล้ว 312 คน และรักษาหาย 14,368 คน

ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อที่มาจากการเข้าร่วมพิธีที่โบสถ์ซารางเซอิล ล่าสุดมีจำนวนกว่า 915 คน นอกจากนี้ ยังมีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เกิดจากสมาชิกของโบสถ์ดังกล่าวได้เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ เช่นอาคารสำนักงานหลายแห่ง, ศูนย์รับเลี้ยงเด็ก, โรงเรียนกวดวิชา และสถาบันทางการแพทย์ที่สมาชิกจากโบสถ์ได้เดินทางไปเยี่ยม

รวมไปถึงผู้ป่วยที่เข้าร่วมชุมนุมในกรุงโซลช่วง ล่าสุดมีจำนวนกว่า 193 คน ขณะที่ร้านกาแฟ Starbucks ใน พาจู ทางตอนเหนือของกรุงโซล มีรายงานผู้ติดเชื้อ 66 คน และธุรกิจที่ตั้งอยู่ใน Gwanak Ward ของกรุงโซล มีจำนวนผู้ติดเชื้อ 44 คน

ด้านหน่วยงานด้านสุขภาพเตือนว่า การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วยอย่างรวดเร็วในครั้งล่าสุด เลวร้ายยิ่งกว่าการระบาดครั้งใหญ่ครั้งก่อนในเมืองแทกู เนื่องจากไวรัสสามารถแพร่กระจายได้เร็วยิ่งขึ้นในกรุงโซลที่มีประชากรหนาแน่น

ทางการกรุงโซลได้ประกาศปิดโรงเรียนทุกแห่งในพื้นที่ของกรุงโซล และปรับการรูปแบบการเรียนเป็นชั้นเรียนออนไลน์แทนการเข้าเรียนในชั้นเรียนจริง เพื่อเป็นมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในระดับสูง

เกาหลีใต้ ได้ประกาศการควบคุมระยะห่างทางสังคมในระดับ 2 ทั่วประเทศเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา  แต่ในเมืองใหญ่ๆ ได้เริ่มใช้มาตรการที่เข้มงวดมากขึ้น

หน่วยงานด้านสุขภาพกล่าวว่า การใช้มาตรการระยะห่างทางสังคมในระดับ 3 ระดับสูงสุด อาจหลีกเลี่ยงไม่ได้หากตัวเลขยังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆในสัปดาห์นี้

ขณะที่เว็บไซต์ worldometers รายงานจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ทั่วโลกล่าสุดทะลุ 24 ล้านคน อยู่ที่ 24,050,333 คน เสียชีวิต 823,278 คน และรักษาหายแล้ว 16,599,377 คน