‘กรุงศรี คอนซูมเมอร์’ พลิกเกมสู้อย่างไร ในยุคที่บัตรเครดิตมีแต่คู่แข่งล้อมหน้าล้อมหลังเต็มไปหมด

ค่ายบัตรเครดิตและสินเชื่อทำงานกันเหนื่อยขึ้น เพราะธุรกิจแทบทุก platform หันมาเพิ่ม section นี้กันหมด

ไม่ว่าจะเป็นเซ็นทรัล โลตัส บลูการ์ดของ ปตท. และอื่นๆ อีกมากมาย

เรียกว่ามีคู่แข่งล้อมหน้าล้อมหลังเต็มไปหมด

ค่ายบัตรเครดิตยักษ์ใหญ่อย่าง กรุงศรี คอนซูมเมอร์ เอง ก็หาทางออกใหม่ๆ เช่นกัน พร้อมประกาศ สู้สุดใจ !

โดยมุ่งขยายธุรกิจสู่ตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูงในภูมิภาคอาเซียนก่อนเป็นอันดับแรก โดยเฉพาะการขยายตลาดที่ประเทศเวียดนาม

ในงานแถลงผลการดำเนินงาน กลยุทธ์พลิกเกมธุรกิจ และนวัตกรรมด้านบริการทางการเงินของ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา หัวเรือใหญ่อย่าง ฐากร ปิยะพันธ์ ประธานกรรมการ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ก็ได้ประกาศแผนกลยุทธ์พลิกเกมธุรกิจในปี 2563

ฐากร ปิยะพันธ์ ประธานกรรมการ กรุงศรี คอนซูมเมอร์

พร้อมลุยตลาดบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลด้วย 5 แนวทางสำคัญ ได้แก่

1. การขยายธุรกิจสู่ตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูงในภูมิภาคอาเซียน
2. การนำข้อมูลมาใช้ในเชิงธุรกิจ
3. การใช้ AI และเทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน
4. การใช้แอปพลิเคชั่น ‘UCHOOSE’ ที่พัฒนาเป็นเวอร์ชั่นใหม่ ซึ่งพร้อมให้บริการในเดือนมีนาคม 2563 นี้ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า โดยเฉพาะการบริการ-การตลาด-การขยายฐานลูกค้า
5. การสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ

เมื่อตลาดบัตรเครดิตและสินเชื่อในประเทศเสมือนอยู่ในสมรภูมิรบที่เต็มไปด้วยคู่แข่งมากมาย กรุงศรี คอนซูมเมอร์ จึงให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจสู่ตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูงในภูมิภาคอาเซียนก่อนเป็นอันดับแรก

“ตอนนี้การเติบโตในตลาดต่างประเทศของกรุงศรีฯ ที่ประเทศลาว ตัวเลขอยู่ที่ 6,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อรถยนต์ ส่วนกัมพูชาเป็นพวก micro finance โดยทางเราตั้งเป้าการเติบโตในตลาดต่างประเทศ 10% ใน 3 ปี ซึ่งเล็งเวียดนามกับพม่าไว้ แต่โฟกัสเวียดนามเป็นหลัก” ฐากร กล่าว

นอกจากการบุกตลาดต่างประเทศแล้ว สิ่งที่ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ให้ความสำคัญไม่แพ้กันคือ การศึกษาและวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค โดยการเก็บข้อมูลต่างๆ และนำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้ในเชิงธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นความชอบ กิจวัตรประจำวัน สถานที่ที่ชอบไปเที่ยว หรือชอบซื้อสินค้าประเภทไหน ในช่วงเวลาใด เป็นต้น

พฤติกรรมของผู้บริโภคจึงเปรียบเหมือนกุญแจสำคัญที่นำไปสู่การแตกไลน์พัฒนาด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี AI, การพัฒนาแอปพลิเคชั่น ‘UCHOOSE’ หรือแม้แต่การสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ไม่จำเพาะแค่เรื่องเทคโนโลยีเท่านั้น หากสิ่งที่เราคุ้นชินในชีวิตประจำวัน เมื่อนำกลยุทธ์ธุรกิจเข้ามาปรับใช้ ก็ถือเป็นนวัตกรรมใหม่เช่นกัน

ประธานกรรมการ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ได้ยกตัวอย่างเคสที่น่าสนใจ อย่าง “กล้วย” ที่แน่นอนว่า ซื้อ 1 หวี มักกินไม่ทัน มันเน่าเสียก่อน เลยมีบริษัทที่ทำแพ็กกล้วยให้สุกไล่ไปตามจำนวนวัน ตั้งแต่จันทร์ถึงเสาร์ ขึ้น

เช่นเดียวกับ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ที่กำลังพัฒนาทั้งด้านเทคโนโลยี อย่างระบบ AI ที่ น้องมะนาว ซึ่งเป็นระบบตอบรับอัตโนมัติ สามารถพูดคุยกับลูกค้าได้เหมือนคนมากขึ้น ใครทำบัตรหายก็โทร.อายัดกับน้องมะนาวได้เลย ยิ่งไปกว่านั้นหากเคยได้คุยกับน้องมะนาวสักครั้ง เจ้าระบบ AI มะนาว ก็จะจดจำเสียงเราไว้ พอคุยกันครั้งต่อไป มะนาวก็จะจำชื่อลูกค้าได้ว่าเป็นคุณทันที

นอกจากนี้ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ยังหันมาพัฒนาบุคลากรในรูปแบบ สตาร์ทอัพ ยูนิคอร์น โดยฝึกพนักงานให้ทำงานประจำ พร้อมกับคิดโปรเจกต์ใหม่เพื่อเป็นเจ้าของธุรกิจเองด้วย หากโปรเจกต์ผ่าน พนักงานก็จะได้เป็นเจ้าของธุรกิจนั้น โดยมีกรุงศรีฯ ถือหุ้น และให้เงินสนับสนุน ซึ่งที่ผ่านมาหลายๆ องค์กรก็หันมาใช้กลยุทธ์นี้กันบ้างแล้ว

ส่วนคนที่ไปชอปปิ้งแล้วชอบลืมเอาบัตรเครดิตไป ในอนาคตอันใกล้ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ก็กำลังพัฒนาให้ลูกค้าสามารถจ่ายเงินได้ ผ่านการสแกนใบหน้า (Face Payment) ซึ่งหลายคนอาจกังวลใจว่า แล้วถ้าไม่ได้ไปชอปในสถานที่นั้นๆ แต่เป็นการชอปปิ้ง ออนไลน์ แล้วเกิดมีมิจฉาชีพเอารูปภาพเราไปสแกน แทนหน้าจริงของเราจะทำอย่างไร

เรื่องนี้ ฐากร บอกว่า สบายใจได้ เพราะระบบ Face Payment ที่กำลังพัฒนาอยู่ ไม่สามารถใช้ภาพหรือวิดีโอเพื่อสแกนในการชำระเงินได้ เนื่องจากกรุงศรี คอนซูมเมอร์ มีการทำ Liveness Detection เพื่อตรวจสอบว่า หน้าที่สแกนใช่หน้าของคนคนนั้นจริงๆ หรือไม่

สำหรับผลประกอบการปี 2562 กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต 330,000 ล้านบาท (เติบโต 10%), ยอดสินเชื่อใหม่ 100,000 ล้านบาท (เติบโต 14%), จำนวนบัญชีอนุมัติใหม่รวม 978,000 บัญชี (เติบโต 24%) และยอดสินเชื่อคงค้างรวม 150,000 ล้านบาท (เติบโต 11%)

“กลุ่มลูกค้าของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ 30% มีบัญชีกับกรุงศรี อีก 70% ไม่มี มีแต่บัตรเครดิต แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะเรามีอีกหนึ่งกลยุทธ์คือ การพัฒนาแอปพลิเคชั่น ‘UCHOOSE’  เป็นเวอร์ชั่นใหม่ ซึ่งพร้อมให้บริการในเดือนมีนาคม 2563 นี้ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า ที่ผ่านมาเราศึกษาพบว่า ลูกค้าใช้ UCHOOSE 2 ครั้ง/วัน ครั้งละ 3 นาที แต่เขาไปเล่นโซเชียลมีเดียอื่นๆ กันมาก เราจึงนำโซเชียลมีเดียมาใช้ เช่น Facebook ซึ่งต่อไปแม้ว่าลูกค้าจะไม่ได้เข้าแอปฯ UCHOOSE แต่เล่น Facebook เมื่อเลื่อนฟีดหน้าจอก็จะเจอเราอยู่ดี” ฐากร กล่าว

นอกจากนี้ ฐากรยังได้กล่าวถึงปัญหาหนี้เสีย ซึ่งเป็นปัญหาที่ค่ายบัตรเครดิตส่วนใหญ่พบ โดยกล่าวว่า กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ใช้วิธีการเจรจากับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยแนะนำวิธีการแบ่งชำระและทางออกต่างๆ ให้ ก่อนที่จะถึงกำหนดและกลายเป็นหนี้เสีย ซึ่งเป็นวิธีที่ได้ผล

ภาพยนตร์ 10 เรื่อง ที่ผู้ใช้ยูชูสแลกคะแนนไปชมสูงสุด

และสำหรับ ‘The New UCHOOSE’ แอปพลิเคชั่นยูชูสเวอร์ชั่นใหม่สำหรับสมาชิกบัตรเครดิตในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ที่ช่วยให้การบริหารการใช้จ่ายง่ายยิ่งขึ้น ลูกค้าจะได้พบตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคมนี้เป็นต้นไป ซึ่งมีทั้ง U Manage บริการบริหารบัญชีบัตรเครดิตง่ายๆ ด้วยตนเอง, U Pay บริการชำระค่าบัตรเครดิตผ่านโมบายล์ แบงก์กิ้ง, U Card บริการสมัครบัตรเครดิตในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์แบบออนไลน์ และบริการอื่นๆ อีกมากมายที่พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของสมาชิกบัตร ภายใต้แนวคิด “ชีวิตที่คุณเลือกได้” (Choose the Life You Live) เช่น คัดสรรโปรโมชั่นตรงใจพิเศษเฉพาะคุณ, สนุกกับการช้อปดีลสุดคุ้มจากพันธมิตรหลากหลายผ่านแอป, เลือกแบบประกันภัยที่มอบความคุ้มครองที่ตอบโจทย์, พร้อมติดตามเทรนด์ร้านอาหาร ที่เที่ยว ที่ช้อปใหม่ๆ และเกร็ดความรู้ที่น่าสนใจด้านการบริหารเงิน โดยทางกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ตั้งเป้าเพิ่มยอดดาวน์โหลดและลงทะเบียนบัตรครบ 6 ล้าน ภายในสิ้นปี 2563 นี้

จากการสำรวจและเก็บข้อมูลของ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ พบตัวเลขที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง นั่นคือ การชอปปิ้ง ออนไลน์ ที่เติบโตสูงในทุกระดับอายุ ไม่เว้นแม้คนวัยเกษียณ ที่ชอบชอปปิ้ง ออนไลน์…ไม่แพ้วัยรุ่นเลย

แม้ศึกแห่งธุรกิจบัตรเครดิตจะเข้มข้นขนาดไหน หากบริษัทที่อยู่ในสมรภูมินี้ไม่หยุดนิ่ง และหาทางออกใหม่ๆ รวมทั้งไม่ทิ้งการเก็บข้อมูลเพื่อนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์อยู่เรื่อยๆ ก็ย่อมมีโอกาสเติบโตและต่อยอดไปได้อีกมากมาย ดังเช่นที่ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ กำลังทำอยู่