‘สิ่งที่ต้องทำ’ vs. ‘สิ่งที่อยากทำ’ เข้าใจดีเอ็นเอของ ‘กรุงศรี’ ชีวิตง่าย ได้ทุกวัน

ต้องยอมรับว่าทุกวันนี้ เราใช้เวลาไปกับ ‘สิ่งที่ต้องทำ’ มากกว่า ‘สิ่งที่อยากทำ’ จะด้วยภาระ ด้วยหน้าที่ หรือด้วยเวลาที่จำกัด ทำให้เราต้องใช้เวลากับสิ่งที่ต้องทำก่อนแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้

ยิ่งเป็นเรื่องเงิน เรายิ่งต้องใช้เวลากับมันมากขึ้น เพราะความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ อาจกระทบกับเงินทั้งหมดที่มีในกระเป๋า ซึ่งปัจจุบันก็มีเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วยเสริม ทำให้เรามีทางเลือกมากขึ้น มีตัวเลือกมากขึ้น

แต่ตัวเลือกที่มากขึ้น ก็มาพร้อมกับข้อมูลที่มากมายมหาศาล ข้อมูลต่างๆ ที่เข้ามา ทำให้เราต้องใช้เวลาศึกษา ใช้เวลาเรียนรู้มากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องเงิน อย่างที่กล่าวไปว่า คงไม่มีใครอยากพลาด

[ เรื่องเงิน เรื่องง่าย ]

ถึงเรื่องเงินจะยังดูยุ่งยากซับซ้อนสำหรับใครหลายคน แต่คงไม่ใช่กับลูกค้ากรุงศรี เพราะธนาคารประกาศจุดยืนชัดเจนว่า เรื่องเงิน ต้องเป็นเรื่องง่าย กลายเป็น Motto ติดหูคนไทยจนถึงทุกวันนี้ว่า ‘เรื่องเงิน เรื่องง่าย’

เล่าย้อนกลับไปในช่วง ‘เรื่องเงิน เรื่องง่าย’ (ประมาณปี 2554) กรุงศรีออกผลิตภัณฑ์เงินฝาก ‘ออมทรัพย์ มีแต่ได้’ ซึ่งเป็นบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูงเจ้าแรกในประเทศที่ให้ถอนเงินออกมาใช้ได้ ถือเป็นความง่ายแรกๆ ที่กรุงศรีนำเสนอให้ลูกค้า

นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์และบริการอื่นๆ ที่ช่วยให้เรื่องเงินเป็นเรื่องง่ายมากขึ้น เช่น ในยุคที่ธนาคารเก็บค่าธรรมเนียมจุกจิก กรุงศรีก็ออกเงินฝาก ‘ออมทรัพย์ จัดให้’ ที่เก็บค่าธรรมเนียมแรกเข้าแค่ครั้งเดียว หลังจากนั้นฟรีทุกธุรกรรม

นอกจากโปรดักต์ที่ง่ายแล้ว กรุงศรียังใส่ ‘ความง่าย’ หรือ Simplicity เข้าไปในดีเอ็นเอของพนักงาน กระบวนการทำงานภายในต้องง่าย เพราะถ้าธนาคารง่ายตั้งแต่ภายใน ท้ายที่สุดก็จะส่งผ่านความง่ายออกให้ลูกค้าได้ด้วย

[ กรุงศรีอยู่นี่นะ ]

อีก 7 ปีต่อมา (2561) กรุงศรีออกแคมเปญ ‘กรุงศรีอยู่นี่นะ’ เป็นอีกหนึ่งความง่ายในช่วงที่อุตสาหกรรมธนาคารกำลัง Go Digital ซึ่งตอนนั้นเป็นยุคของ ‘พร้อมเพย์’ (PromptPay) สังคมไร้เงินสด (Cashless Society)

หลายธนาคารประกาศว่า เราต้อง Go Digital แล้ว บางธนาคารสนับสนุนให้ลูกค้าหันมาใช้บริการออนไลน์ ผ่านการยกเลิกบางบริการที่สาขา เป็นต้น

แต่กลับมาที่ ‘ความง่าย’ กรุงศรีมีมุมมอง Go Digital ที่ต่างกับอุตสาหกรรม เพราะแม้ว่าเทรนด์โลกอนาคต เราทุกคนต้องย้ายไปใช้บริการบนโลกดิจิทัลเป็นหลัก แต่เวลามีปัญหา หลายคนก็ยังอยากคุยกับมนุษย์อยู่ดี

ซึ่งสุดท้าย ธนาคารก็ต้องเอาลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ถ้าลูกค้าอยาก Go Digital ธนาคารก็ต้องให้บริการได้ แต่ถ้าวันนี้ยังอยากไปสาขา ธนาคารก็ยังต้องให้บริการลูกค้าได้เหมือนเดิม #กรุงศรีอยู่นี่นะ

[ ความห่วงไม่เคยห่าง ]

ถัดมาในปี 2563 เป็นปีที่เปลี่ยนชีวิตเราทุกคนไปตลอดกาล จากการระบาดของโควิด-19 แน่นอนว่าสถานการณ์ต่างๆ มันไม่ง่ายอีกต่อไป แม้แต่ธนาคารเองก็ต้องปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน ไม่ต่างจากคนทั่วไป

ในช่วงที่ลูกค้ากำลังเจอความยากลำบากในชีวิต กรุงศรีก็ออกแคมเปญสื่อสารใหม่ว่า ‘ความห่วงไม่เคยห่าง’ ผ่านมาตรการความช่วยเหลือทางการเงินต่างๆ และสำคัญที่สุดคือ การให้ความรู้ทางการเงิน (Financial Literacy) เพื่อให้ลูกค้าสามารถวางแผนการเงินได้ง่ายที่สุด ในช่วงเวลาที่ยากที่สุด

อันที่จริงแล้ว การให้ความรู้ทางการเงิน เป็นสิ่งที่กรุงศรีทำมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งช่วงก่อนโควิด-19 หรือแม้กระทั่งตอนนี้ ผ่านฮับคอนเทนต์ Plearn เพลิน by Krungsri GURU

หลายคนที่ค้นหาหัวข้อเกี่ยวกับการเงิน หรือการลงทุนบน Google เช่น Passive Income ผ่อนบ้านให้หมดไว เล่นหุ้นมือใหม่ ฯลฯ ก็น่าจะมีโอกาสที่ได้เห็นบทความดีๆ ของกรุงศรี Plearn เพลิน เหมือนกัน

[ ชีวิตง่าย ได้ทุกวัน ]

ส่วนปีนี้ (2566) กรุงศรีก็ยังคงคอนเซปต์ ‘ความง่าย’ เหมือนเดิม แต่ยกระดับเป็น ‘ชีวิตง่าย ได้ทุกวัน’ ด้วยสโลแกนภาษาอังกฤษเดิมว่า Make Life Simple เรื่องเงินยังไงก็ต้องเป็นเรื่องง่าย แต่ชีวิตเราต้องง่ายด้วย

ความตั้งใจของกรุงศรีในครั้งนี้ คือ ‘เราจะทำให้ทุกคนได้มีชีวิตที่ง่ายขึ้น’ ซึ่งนอกจากความง่ายในระดับประเทศแล้ว กรุงศรีจะยกระดับความง่ายไปในระดับโลกด้วย ผ่านการสนับสนุนจากบริษัทแม่ กลุ่ม MUFG สถาบันการเงินอันดับ 5 ของโลก

โดยปลายทางความง่ายในระดับโลก คือการเป็นธนาคารที่ตอบโจทย์ชีวิตของลูกค้าได้ทั้งภูมิภาค สอดคล้องกับจุดยืนของกรุงศรี ที่อยากเป็นผู้ให้บริการทางการเงินที่มีมุมมองและเครือข่ายชั้นนำระดับโลก

จะเห็นว่าเป้าหมายในครั้งนี้ ไม่ใช่แค่ ‘เรื่องเงิน เรื่องง่าย’ แต่ลูกค้าต้องมีชีวิตที่ง่ายขึ้นในทุกๆ วัน ผ่านโซลูชันทั้งผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน เพื่อเป้าหมายสุดท้ายคือ อยากให้ลูกค้ามีเวลามากขึ้น จะได้ทำสิ่งที่อยากทำมากขึ้น

[ ถ้ามีเวลา ก็อยากจะ… ]

ในช่วงเดือนที่ผ่านมา กรุงศรีเริ่มเล่าเรื่องราวความง่ายฉบับใหม่ผ่านหนังสั้น ซึ่งก็มีหลายประเด็นที่ทัชใจหลายคน เพราะถ้าเรามีเวลามากขึ้น เราก็คงอยากจะใช้มันไปกับสิ่งที่ชอบ สิ่งที่อยากทำจริงๆ

ไม่ว่าจะเป็นคอสเพลย์, นั่งเฉยๆ มองผู้ชาย, เลี้ยงแมว เกาพุงแมว, นั่งโง่ๆ กับคนที่เรารัก, กลับบ้านไปหาพ่อแม่ที่ต่างจังหวัด, เต้นโพลแดนซ์, ถ่ายรูปต้นไม้, เล่นน้ำกับช้าง, ขี่รถเล่น เล่นสเก็ต ฯลฯ

อาจฟังดูคลีเช แต่เมื่อทุกเวลามีค่า กรุงศรีก็อยากจะทำทุกทางให้ลูกค้าได้มีเวลาไปทำเรื่องสำคัญ ไม่ว่าเรื่องสำคัญนั้นจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม และพร้อมทำทางเพื่อให้ทุกคนมีชีวิตที่ง่ายได้ทุกวัน

สำหรับคนที่อยากเข้าใจดีเอ็นเอของ ‘กรุงศรี’ ชีวิตง่าย ได้ทุกวันมากขึ้น สามารถแวะไปอ่านกันได้ที่ https://bit.ly/3UIFHrI