คุยกับผู้บริหาร ‘ลัมโบร์กินี’ ท้าทายแค่ไหน เมื่อซูเปอร์คาร์ต้องไป EV

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ‘รถยนต์ไฟฟ้า’ หรือ EV กำลังเป็นเทรนด์ยานยนต์ที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนค่ายรถยนต์ที่ยังไม่ขยับเข้าสู่เทรนด์ใหม่อาจเรียกได้ว่ากำลังตกขบวนได้

เทรนด์ EV ไม่ได้เกาะกลุ่มอยู่แค่รถยนต์ทั่วไปหรือรถหรูพรีเมียมเท่านั้น แม้แต่รถระดับ ‘ซูเปอร์คาร์’ ก็อย่าง ‘ลัมโบร์กินี’ ก็กระโดดเข้าเทรนด์ EV แล้ว โดยล่าสุดได้เปิดตัวรถรุ่น Lamborghini Revuelto ซึ่งเป็นรถปลั๊กอินไฮบริดรุ่นแรกของแบรนด์

แต่ถึงอย่างนั้น เอาเข้าจริงๆ การเข้าสู่วงการ EV ของรถซูเปอร์คาร์อาจไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะความสามารถของซูเปอร์คาร์หลายอย่างนั้นถูกพัฒนามาพร้อมกับเครื่องยนต์สันดาป ไม่ว่าจะเป็นพละกำลัง ความเร็ว ความแรง น้ำหนักรถ ความสามารถในการควบคุมรถ

จึงเรียกได้ว่านี่เป็นความท้าทายครั้งใหญ่ที่ต้องไปกับเทรนด์ แต่ต้องรักษาหัวใจสำคัยของซูเปอร์คาร์ไว้

‘ฟรานเชสโก้ สกาดาโอนิ’ ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี ยอมรับว่า การเปลี่ยนผ่านไปสู่รถ EV นั้นไม่ง่ายเลย แต่ลัมโบร์กินีก็ตั้งเป้าหมายว่ารถยนต์ไฟฟ้าล้วนคันแรก หรือเป็น EV 100% ของลัมโบร์กินีที่จะออกในปี 2028 จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วนที่ต้องถูกพัฒนาขึ้นมาโดยที่รักษาดีเอ็นเอของลัมโบร์กินีไว้ได้อย่างครบถ้วน ชนิดที่ว่าขับตาปิด คนขับก็ไม่รู้ว่านี่คือรถยนต์ไฟฟ้า 100%

“คำว่ารถยนต์มี 2 ส่วน คือ performance และความสามารถในการควบคุมตัวรถยนต์ด้วย ซึ่งตรงส่วนนี้จะมีความเกี่ยวข้องคือการปรับน้ำหนักรถให้เหมาะสมกับความสามารถที่จะควบคุมได้อย่างมีความเร้าใจเหมือนเดิม

“อีกส่วนคือเรื่อง ‘เสียง’ การเป็นเครื่องยนต์สันดาปนั้นให้เสียงที่เร้าใจ แต่รถยนต์ไฟฟ้านั้นให้ความเงียบ ซึ่งเราก็ต้องหาวิธีในการมีเสียงให้เร้าใจ แต่แน่นอนว่ามันจะเป็นเสียงแบบเครื่องยนต์สันดาปภายในไม่ได้อีกแล้ว นี่คือจุดที่ท้าทาย”

‘ฟรานเชสโก้’ บอกว่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น กระบวนการเปลี่ยนผ่านขอแบ่งออกเป็น 2 เฟส

โดยเฟสแรกคือการทำให้รถเครื่องยนต์สันดาป เปลี่ยนผ่านไปสู่เครื่องยนต์ไฮบริด ซึ่งเป็นช่วงที่จะทำให้ได้เรียนรู้ว่า จากไฮบริดแล้วก้าวไปสู่รถยนต์ไฟฟ้าล้วน จะมีความท้าทายส่วนใด ต้องพัฒนาอะไรเพื่อให้เข้าสู่เฟสที่สองหรือยุค Electrification คือเป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วนแบบที่ยังรักษา DNA ของลัมโบร์กินีไว้ได้

ทั้งนี้ แผนของลัมโบร์กินีในการเข้าสู่วงการยานยนต์ไฟฟ้า มีดังต่อไปนี้

-ปี 2023 เปิดตัวรุ่น Revuelto และ Aventador ในรูปแบบรถปลั๊กอินไฮบริด

-ปี 2024 เปิดตัวรถรุ่น Urus และ Hurucan ในรูปแบบรถปลั๊กอินไฮบริด

-ปี 2025 รถยนต์ทุกรุ่นของลัมโบร์กินีจะเป็นรถปลั๊กอินไฮบริด

-ปี 2028 เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าล้วนคันแรก

แต่ความท้าทายของการเข้าสู่วงการยานยนต์ไฟฟ้าดูเหมือนจะไม่ได้เป็นประเด็นที่แฟนๆ แบรนด์รถกระทิงดุให้ความกังวลในตอนนี้

‘ฟรานเชสโก้’ บอกว่า ก่อนหน้าที่จะมีการเปิดตัวรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด ลูกค้าของลัมโบร์กินีก็สงสัยและจับจ้องอยู่ว่าแบรนด์ที่ทำเครื่องยนต์สันดาปมายาวนาน จะไปอย่างไรกับเทรนด์นี้

จนเมื่อ Lamborghini Revuelto เปิดตัวมาด้วยการคงเอกลักษณ์ของแบรนด์อย่างเครื่องยนต์ V12 เอาไว้ แล้วนำมอเตอร์ไฟฟ้ามาใส่เข้าไป ทำให้เกิดการผสมผสานที่ลงตัว คือยังรักษาเอกลักษณ์ไว้ได้ พร้อมๆ กับลดการปล่อยคาร์บอนไปด้วย

นั่นทำให้ Lamborghini Revuelto ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากลูกค้า สะท้อนจากยอดสั่งจองที่เต็มโควต้าการผลิตไปจนถึงปี 2025 แล้ว เรียกได้ว่าแค่เปิดตัวมาก็ขายได้หมดแล้ว

และนี่คือทิศทางของลัมโบร์กินี ซูเปอร์คาร์ 60 ปีที่กำลังก้าวสู่ทศวรรษใหม่ของแบรนด์ไปกับเทรนด์ใหม่อย่าง EV

แต่ถึงอย่างนั้นฟรานเชสโก้ทิ้งท้ายว่า แน่นอนว่าเขาเห็นด้วยว่า EV จะกลายเป็นรถยนต์ส่วนใหญ่ในตลาดหรูในปี 2030 อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องติดตามต่อคือ กฎกติกาว่าด้วยเรื่องการลดโลกร้อนของประเทศต่างๆ ทั่วโลกจะมีความเข้มงวดขนาดไหน จะยังอนุญาตให้มีรถยนต์สันดาปภายในมากน้อยขนาดไหน

“ซึ่งในจุดนั้นก็ต้องมาพิจารณากันต่อว่าจะมีเครื่องยนต์สันดาปอยู่ในโปรดักต์ของบริษัทอีกหรือไม่ และการพัฒนาโปรดักต์เข้มข้นขึ้นขนาดไหนมากกว่า”

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง: ซูเปอร์คาร์ก็ไป EV ‘ลัมโบร์กินี’ เปิดตัวปลั๊กอินไฮบริดคันแรก วิ่งได้เร็วสุด 350 กม./ชม.