ทนาย “ปารีณา” แย้มแนวทางสู้คดี พิสูจน์ที่ดินถูกยกเลิกความเป็นป่าไปก่อนแล้ว

วันที่ 2 ธ.ค. ช่วงบ่าย ที่ศาลอาญา รัชดา นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ รับมอบอำนาจให้ยื่นฟ้องนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน ในกรณีแจ้งความเท็จและหมิ่นประมาท รวมทั้งนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ในข้อหาหมิ่นประมาท
.
ทนายความระบุว่า การยืนฟ้องเพื่อเปิดโอกาสให้พิสูจน์ความจริงที่คลาดเคลื่อนอยู่ตอนนี้ หวังว่าทั้ง 2 คนจะพร้อมที่จะนำความจริงที่มีอยู่มาพิสูจน์กัน ส่วนตนเตรียมข้อมูลไว้พร้อมแล้ว

ส่วนที่หมิ่นประมาทนำความเท็จไปกล่าวใส่ร้าย นายวีระและนายอัจฉริยะ ต้องชี้ให้ศาลเห็นว่าความจริง ความเท็จคืออะไร ซึ่งมีหลายจุดพูดไว้เยอะ ไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะอยู่ในคำฟ้อง ที่ยกตัวอย่างได้คือ นายวีระ กล่าวว่า คุณปารีณา ถือครองที่ดิน 3 แปลงย่อยเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกยึดคืน เขาต้องพิสูจน์ว่าอยู่ตรงไหนบ้าง ส่วนนายอัจฉริยะ เช่น การเหยียดหยามและดูถูก กล่าวหาว่าเป็น ส.ส.กระจอก

เมื่อสอบถามถึงเรื่องการยื่นฟ้องอธิบดีกรมป่าไม้ นายธีรยุทธ กล่าวว่า จากการแถลงในช่วงเช้าข้อมูลหลายส่วนตรงกับหลักฐานที่เรามี อธิบดีแถลงระมัดระวังขึ้นเยอะ โดยเราเตรียมหลักฐานไว้รอ ถ้าท่านกลับเข้าสู่วิถีทางดำเนินงานของข้าราชการเราก็พร้อมที่จะหยุด แต่ทั้งนี้ เท่าที่ฟังท่านอธิบดี เรายังสงสัยว่าจะสงวนเรื่องแผนที่ไว้ทำไม ควรเปิดเลยสังคมจะได้ทราบ
.
เมื่อถามว่า ประเด็นที่ น.ส.ปารีณา ติดใจคือ การที่มาตราวัดของกรมป่าไม้และ ส.ป.ก.ไม่ตรงกันใช่หรือไม่ นายธีรยุทธ กล่าวว่า น.ส.ปารีณา เหมือนประชาชนทั่วไป ท่านไม่ได้มีความรู้กฎหมายหรือข้อมูลราชการมากนัก ส่วนปัญหาที่นักกฎหมายมองไม่ใช่แค่เรื่องแผนที่ มีเรื่องอื่นซ้อนอยู่อีก เรารอว่าท่าน (กรมป่าไม้) จะเดินทางไหน ถ้าเดินในทางที่ไม่ถูกไม่ควรและล้ำสิทธิ์ เราจำเป็นต้องป้องกันสิทธิของ น.ส.ปารีณาเช่นกัน

“แค่ยืนยันว่าเป็นที่ป่าไม้ 46 ไร่ เมื่อวันก่อน วันนี้ท่านพูดแค่เล็กๆ เองว่ายังยืนยัน แต่ถามว่า จากวันที่มีข่าว ส.ป.ก.ไม่ควรเข้ามายุ่งเกี่ยว ทำไมวันนี้ท่านพูดว่าที่ดินอยู่ในเขต ส.ป.ก. สป.ก.จะเป็นผู้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ก็แสดงว่า ส.ป.ก.เกี่ยวนี่ มันต่างจากวันก่อนนะครับ”
.
นายธีรยุทธ กล่าวต่อว่า ความกระจ่างของสังคมคือ ต้องได้รู้ว่าที่ดินแปลงนี้การเข้ามาสู่อำนาจดำเนินงานของ ส.ป.ก. เกิดขึ้นเพราะกฎหมายใด ก่อนมาอยู่กับ ส.ป.ก. ต้องมีการเพิกถอนที่ป่าและที่ป่าสงวนหรือไม่ ถ้าเพิกถอนเกิดขึ้นในจังหวะไหน ถ้าเพิกถอนแล้วความเป็นป่าก็ไม่เกิดขึ้นถูกต้องไหม

“เรายังรอข้อมูลข้างลึกอยู่อีก 20% เท่านั้นเอง อีก 80% ที่เราเก็บรวบรวมไว้แล้วค่อนไปในทางที่จะทำอะไรได้บางอย่างที่เรายังไม่ควรต้องพูด”

สำหรับหลักฐานในการครอบครองที่ดิน การที่ น.ส.ปารีณา ยื่นข้อมูลต่อ ป.ป.ช. เป็นการแสดงให้เห็นว่า น.ส.ปารีณา ไม่ได้ปกปิด มีหลักฐานการเสียภาษี ภ.บ.ท.5 ซึ่งตนเคยทำคดีลักษณะนี้ DSI เคยรวบรวมข้อเท็จจริงและยืนยันว่าการใส่ชื่อของบุคคลหรือนิติบุคคลบนใบ ภ.บ.ท.5 ทำได้ ดังนั้น จึงแสดงว่าที่ดินที่ชำระภาษีท้องที่ ต้องมีการยืนยันได้ในระดับหนึ่ง ภ.บ.ท.5 ที่เราเห็นเป็นแค่ท่อนหนึ่ง แต่ตัวจริงขนาด เอ4 จะบอกได้ว่า ใครเป็นผู้ถือครองและก่อนหน้านั้นเป็นใคร และมีแผนที่ที่ผ่านการรังวัดแนวเขตมา ถึงจะไม่ได้หมายความว่าเราได้กรรมสิทธิ์ แต่ก็ยืนยันได้ระดับหนึ่ง

ส่วนกรณีที่ น.ส.ปารีณา ให้ข้อมูลว่า การแสดงบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.เรื่องที่ดิน 1,706 ไร่ซ้ำซ้อนและขอแก้ไข ไม่ถือว่ายื่นเป็นเท็จ เพราะการแจ้งว่าเป็นเท็จต้องหมายถึง การไม่มีอยู่จริงแล้วอ้าง แต่กรณีนี้ลูกน้องของ น.ส.ปารีณา นำเอกสารเสียภาษีที่ดินแปลงเดียวกันคนละปีไปยื่นรวมกัน เป็นความผิดพลาดเล็กน้อย