เปิดตัวโปรเจกต์ Last Idol Thailand รายการใหม่เฟ้นหา 7 สมาชิกสู่วงการไอดอลไทย

 4 ยักษ์ใหญ่วงการบันเทิงไทยจับมือ คุณยาสุชิ อากิโมโตะ จากผู้สร้าง 48Group จากญี่ปุ่น เขย่าวงการไอดอล กับการเฟ้นหา Last Idol Thailand วงไอดอลหน้าใหม่ สู่ตลาดไทยพร้อมบุกตลาดโลกเปิดรับสมัครผ่านออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. – 15 พ.ย. 2563 นี้

วงการ Idol สาว ๆ จะต้องกลับมาคึกคักอีกครั้ง เมื่อ 4 พันธมิตรใหญ่ ร่วมกันค้นหาศิลปินไอดอล ผ่านรายการ Last Idol รายการประกวดร้องเพลงชื่อดังจากญี่ปุ่น โดยมี ยาสุชิ อากิโมโตะ (Yasushi Akimoto) Producer ที่ประสบความสำเร็จจากญี่ปุ่น และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการสร้างวงไอดอลชื่อดัง ให้ความร่วมมือในการสรรหาอีกด้วย

เมื่อ 4 พันธมิตรในวงการบันเทิงไทยได้แก่ บริษัท ที แอนด์ บี มีเดีย โกลบอล (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท เซิร์ช เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด, บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ดราคอนิค จำกัด ร่วมกันค้นหาศิลปินไอดอลวงใหม่ ผ่านรายการSurvival ยอดฮิตจากประเทศญี่ปุ่น Last Idol ที่แตกต่างจากรายการอื่น ๆ ที่ผ่านมา ทั้งรูปแบบรายการ และผู้เข้าแข่งขัน คือนอกจากจะเปิดรับให้บุคคลทั่วไปอายุระหว่าง 14-26 ปี สามารถสมัครเข้าร่วมรายการได้แล้ว ยังเปิดให้สมาชิกในวงไอดอลอื่น ๆ สามารถเข้ามาร่วมสมัครได้เช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ยังได้โปรดิวเซอร์มือทองอย่าง ยาสุชิ อากิโมโตะ  มาร่วมดูแลกระบวนการสรรหาด้วยตัวเอง คุณยาสุชิ อากิโมโตะ  เป็นนักเขียนบทโทรทัศน์, ผู้ผลิตเพลง, นักแต่งเพลง และเป็นที่รู้จักกันดีในการสร้างกลุ่มไอดอลชั้นนำของญี่ปุ่นอย่าง Sakamichi series, Nogizaka 46, และ  48Group ที่มีวง AKB48 รวมถึงวงในเครือ 48 ในอีกหลาย ๆ เมืองที่ญี่ปุ่น และในอีก 8 ประเทศในเอเชีย รวมทั้งวง BNK48 ในประเทศไทย

ชุดเซ็นเตอร์ ซึ่งจะมีเซ็นเตอร์ชั่วคราวทั้งหมด 7 คน ที่จะได้ใส่ชุดนี้เท่านั้น

Last Idol เป็นรายการแข่งขันแนวเซอร์ไวรัล ด้วยแนวคิดที่แปลใหม่เริ่มต้น การทำเพลง การทำคอสตูม และคิดท่าเต้นเพลงที่จะเดบิวต์มาเสร็จสรรพเรียบร้อย จึงทำการค้นหาเมมเบอร์เพื่อที่จะมาเดบิวต์ โดยเริ่มต้นจากการออดิชั่นหาสมาชิกวงชั่วคราวมาเป็นตัวยืน 7 คน โดยผู้สมัครนั้น นอกจากจะเป็นคนธรรมดาทั่วไปแล้ว สมาชิกวงไอดอล และวงอื่นๆ ก็สามารถเข้าร่วมแข่งขันได้ด้วยเช่นกัน โดยจะต้องขออนุญาตกับทางต้นสังกัดมาให้เรียบร้อย และถ้าเป็นผู้ชนะขึ้นมา ก็จะต้องทำกิจกรรมในรูปแบบ “เคงนิน” หรือการทำกิจกรรมควบทั้ง Last Idol และวงเดิมของตัวเอง

แม้ว่าสมาชิกวงชั่วคราว 7 คนนั้นจะฝ่าด่านการออดิชั่นกับผู้เข้าแข่งขันหลายพันคนมาก่อนแล้ว แต่เส้นทางของพวกเธอสู่การเป็น Last Idol นั้นเรียกได้ว่าเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น เมื่อเนื้อหาที่แท้จริงของรายการนี้คือ ในแต่ละสัปดาห์ ทางการจะนำผู้ท้าชิง 1-2 คน ที่คัดเลือกมาจากการเปิดออดิชั่นเป็นรอบๆ เพื่อเข้ามาท้าชิงตำแหน่งของสมาชิกทั้ง 7 คน ในกรณีที่ผู้ท้าชิงรู้สึกมั่นใจในตัวเอง อยากเซ็นเตอร์เบอร์ 1 ก็สามารถท้าชิงกับตำแหน่งเซ็นเตอร์เดิมได้เลย และถ้าชนะก็จะได้เข้ามาเป็นตำแหน่งเซ็นเตอร์ชั่วคราว และรอการท้าชิงจากคนอื่นๆในสัปดห์ถัดๆ ไปของการแข่งขัน ส่วนเซ็นเตอร์เดิมที่แพ้ออกไป ความฝันของเธอคนนั้นก็จบลงตรงนั้นทันที โดยไม่มีการกลับมาแก้มือ การแข่งขันจะดำเนินไปอย่างนี้เรื่อยๆ จนกระทั่งจบรายการ 7 คนสุดท้ายที่รักษาตำแหน่งสมาชิกชั่วคราวของตัวเองไว้ได้ก็จะได้เดบิวต์ในฐานะ Last Idol นั่นเอง

โดยงานแถลงข่าวจัดขึ้นที่โรภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีพล็กซ์ รัชโยธิน และได้ 2 สาว ม่านมุก – ชดาธาร ด่านกุล และ พิม – พิม ขจรเวทิน ศิลปินไอดอลจากวง Sweat16เป็นพิธีกร ภายในงานมีการเสวนา Idol 101 โดย กลุ่มเสือร้องไห้ ที่มาพูดคุยถึงความเป็นมาของวงไดดอลและประสบการณ์การเป็นโอตะของแต่ละคน, จุดเริ่มต้นของ Last Idol Thailand ว่ามีที่ไปที่มาอย่างไร, VTR จากคุณอากิโมโตะ ที่กล่าวถึงวิสัยทัศน์ในการร่วมงานกันระหว่าง 2 ประเทศ, ผู้บริหารทั้ง 4 บริษัท ร่วมพูดคุยบนเวทีถึงบทบาทของแต่ละองค์กรที่มาร่วมมือกันเพื่อสร้างไอดอลที่ดีที่สุดระดับเอเชีย, รูปแบบรายการ Last Idol คุณสมบัติผู้สมัคร ขั้นตอนการออดิชั่น, Show Band Wagon จากนักเต้นจำนวน 20 คนตัวแทนเสมือนผู้เข้าแข่งขันในรายการ, VTR กำลังใจและคำอวยพรจากศิลปิน Last Idol รุ่นพี่จากญี่ปุ่น สุดท้าย ผู้บริหาร, พันธมิตรทางธุรกิจ ผู้สนับสนุนรายการ และเหล่าศิลปิน ไอดอล วงต่าง ๆ กว่า 100 คน ขึ้นถ่ายภาพร่วมกันบนเวที

โครงการ Last Idol Thailand เป็นโครงการเพื่อค้นหาเด็กผู้หญิงที่มีความมุ่งมั่น สู่เส้นทางการเป็นไอดอลระดับโลก ภายใต้ความร่วมมือจากมิตรภาพและแรงบันดาลใจกันระหว่าง 2 ประเทศ ญี่ปุ่น และ ไทย ที่จะร่วมกันผลักดันวงไอดอลไทยให้ออกไปมีผลงานในระดับสากล

ซึ่งกลุ่มศิลปิน Last Idol จะมีผลงานด้านต่าง ๆ ในวงการบันเทิงต่อไปในอนาคต ทั้งการทำเพลง เล่นภาพยนตร์ ซีรีส์ ละคร ถ่ายโฆษณา เป็นพิธีกร รวมถึงมีผลงานเพลงในระดับสากลต่อไป โดยจะเปิดรับสมัครสาว ๆ ผู้มีความฝันสามารถส่ง ประวัติ ผลงานส่วนตัวและ clip เข้าร่วมออนไลน์ออดิชั่น ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคมถึง 15 พฤศจิกายน 2563 ทาง www.lastidol.co.th สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/LastIdolThailand  อีเมล์ [email protected] และทวิตเตอร์ @lastidol_th โดยรายการมีกำหนดจะออนแอร์ในช่วงต้นปี 2564