Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

วันที่ 30 ม.ค. ที่รัฐสภา ภาคประชาชน 12 องค์กร เช่น เครือข่ายกระเหรี่ยง ที่นำโดย น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ หรือ “มึนอ” ภรรยาของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือ “บิลลี่” นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนชาวกะเหรี่ยงที่หายตัวไป ก่อนจะพบชิ้นส่วนกระดูกในถังน้ำมัน, นายสมศักดิ์ ชื่นจิตร บิดาเหยื่อซ้อมทรมาน และเครือข่ายนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน นำรายชื่อประชาชนกว่า 100 คนยื่นร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ฉบับประชาชนยื่นต่อนายปิยบุตร แสงกนกกุล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร

สุรพงษ์ กองจันทึก ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรม

นายสุรพงษ์ กองจันทึก ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ในฐานะตัวแทนภาคประชาชน 12 องค์กร กล่าวว่า คมไทย เรามีปัญหาเรื่องการซ้อมทรมาน ทำให้บุคคสูญหายในหลายกรณี และเป็นเรื่องที่สร้างปัญหาให้บ้านเมืองตลอดมา โดยทั่วโลกได้เห็นปัญหานี้ และได้ออกอนุสัญญาระหว่างประเทศขึ้นมา 2 ฉบับ ซึ่งประเทศไทยเราเห็นด้วยในหลักการเหล่านี้ และพยายามนำมาผลักดันให้เป็นกฎหมายในประเทศ แต่สุดท้ายก็ยังไม่ออกมา รวมถึงร่างของรัฐบาลยังเป็นร่างที่ไม่สอดคล้องกับอนุสัญญาระหว่างประเทศ

กฎหมายฉบับนี้ยืนยันที่จะให้อนุวัติการมีสารบัญญัติที่ครบถ้วนตามที่ประเทศไทยได้เข้าเป็นภาคีของอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการปฏิบัติหรือการลงโทษที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรม ตั้งแต่ปี พ.ศ 2527 และได้ลงนามอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการสูญหายสาบสูญโดยถูกบังคับ พ. ศ. 2549

สำหรับกฎหมายฉบับนี้ได้เคยนำเสนอร่างเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติแล้วโดยเริ่มดำเนินไปถึงขั้นกรรมาธิการสมัยยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยมีการแก้ไขในหลายประเด็นทำให้คณะรัฐมนตรีโดยการเสนอของกระทรวงยุติธรรมขอถอนร่างพ.ร.บ. ฉบับนี้จากการพิจารณาของรัฐสภาในสมัยที่แล้ว และเพื่อให้เป็นไปตามกระบวนการพิจารณากฎหมายตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ดังนั้น จึงขอให้นำเสนอเข้าสู่คณะกรรมาธิการกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนสภาผู้แทนราษฎรในสมัยนี้

ด้านนายสมศักดิ์ ชื่นจิตร บิดาเหยื่อซ้อมทรมาน ระบุว่า ต้องการให้ ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้เกิดขึ้นในช่วงอายุขัยตน

ขณะที่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ในฐานะประธาน กมธ.กฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า กมธ.ให้ความสำคัญกับเรื่องสิทธิมนุษยชนอย่างต่อเนื่อง ทั้งในแง่การตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายให้สอดคล้องกับพันธะกรณีระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน

กมธ. พร้อมทำงานร่วมกับภาคประชาชนและองค์กรสิทธิมนุษยชนทั้งในและระหว่างประเทศ ซึ่งเห็นด้วยกับหลักการที่ภาคประชาชนนำเสนอพร้อมผลักดันให้กรรมาธิการที่มาจากหลายพรรคการเมืองไปพิจารณา เพื่อลงชื่อร่วมกันเสนอร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร

พร้อมกันนี้เชื่อว่าร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้จะกลายเป็นร่างของสภาผู้แทนราษฎร ที่มาจากหลากหลายพรรคการเมืองเพื่อทำให้สังคมเห็นว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้ความสำคัญกับการป้องกันและปราบปรามการทรมานและบังคับให้บุคคลสูญหาย และเชื่อว่ากฎหมายฉบับนี้ไม่ใช่เพียงแค่การเดินหน้าเพื่อเป็นไปตามพันธกรณีระหว่างประเทศเท่านั้น แต่ร่างกฎหมายฉบับนี้จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในการป้องกันไม่ให้เกิดกรณีการสูญหาย การซ้อมทรมาน หรือกรณีที่มีอำนาจรัฐใบบังคับบุคคลให้สูญหาย และประเทศไทยจะต้องไม่มีบุคคลที่ถูกซ้อมทรมานอีกต่อไป

“ประเทศไทยจะต้องไม่มีเหยื่อแบบ หะยีสุหลง, ทนง โพธิ์อ่าน, สมชาย นีละไพจิตร, พอละจี รักจงเจริญ, นายเด่น คำแหล้, อับดุลเลาะ อีซอมูซอ, ฤทธิรงค์ ชื่นจิต, สุรชัย แซ่ด่าน ฯลฯ อีกต่อไป ประเทศไทยต้องผลักดันให้เกิดกฎหมายฉบับนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้การใช้อำนาจรัฐซ้อมทรมานผู้คนหรือบังคับให้บุคคลสูญหาย”

ทั้งนี้ เครือข่ายภาคประชาชนยังได้ยืนร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ให้กับนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกพรรคการเมืองร่วมกันปรับปรุงแก้ไขให้สมบูรณ์ และบัญญัติเป็นกฎหมายต่อไป

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า