Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

จากกรณีผู้ปกครองนักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยดังในจังหวัดเชียงใหม่ ร้องเรียนว่าถูกรุ่นพี่ใช้ความรุนแรงในกิจกรรมรับน้อง ทำให้มีรอยฟกช้ำตามร่างกาย ซึ่งเหตุการณ์นี้กระทบต่อจิตใจนักศึกษาคนดังกล่าวเป็นอย่างมาก ซึ่งล่าสุดได้ยื่นใบลาออก พร้อมเดินหน้าเอาผิดทางกฎหมาย

สำหรับเหตุการณ์รับน้องที่ใช้ความรุนแรงแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง นายธากฤช สิทธิประเสริฐ หรือ ทนายดิว ถึงความผิดทางอาญาและบทลงโทษ โดยแบ่งลักษณะการกระทำผิดและบทลงโทษดังนี้
1. บังคับให้เข้าร่วมกิจกรรมรับน้อง ข่มขู่ให้เกิดความกลัวว่าหากไม่เข้าจะส่งผลกระทบต่อชีวิตในด้านต่างๆ เข้าข่ายความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309 ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

2. บังคับให้เข้าร่วม โดยมีอาวุธ หรือร่วมกันทำ 5 คนขึ้นไป มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309 วรรคสอง คือกระทำโดยมีอาวุธ หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป หรือได้กระทำเพื่อให้ผู้ถูกข่มขืนใจทำ ถอน ทำให้เสียหาย หรือทำลายเอกสารสิทธิอย่างใด ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

3. กักขัง ไม่ยอมให้รุ่นนอกออกจากกิจกรรมตามความต้องการ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 310 ผู้ใดหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

4. ว้าก ตะโกน ข่มขู่ ให้กลัว มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 392 ผู้ใดทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

5.กระทำความรุนแรงต่อร่างกายและจิตใจ ทำร้ายร่างกาย มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ผู้ใดทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นนั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

6. ทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัส มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 ผู้ใดกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำร้ายรับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 1 หมื่นบาท ถึง 2 แสนบาท
อันตรายสาหัสนั้น คือ (1) ตาบอด หูหนวก ลิ้นขาด หรือเสียฆานประสาท (2) เสียอวัยวะสืบพันธุ์ หรือความสามารถสืบพันธุ์ (3) เสียแขน ขา มือ เท้า นิ้วหรืออวัยวะอื่นใด (4) หน้าเสียโฉมอย่างติดตัว (5) แท้งลูก (6) จิตพิการอย่างติดตัว (7) ทุพพลภาพ หรือป่วยเจ็บเรื้อรังซึ่งอาจถึงตลอดชีวิต (8) ทุพพลภาพ หรือป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่า 20 วัน หรือจนประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่า 20 วัน

7. ทำร้ายร่างกายจนทำให้เสี่ยชีวิต ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน2 แสนบาท

โดยอาจารย์และมหาวิทยาลัยที่ปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำ ต้องร่วมชดเชยค่าสินไหมทนแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ด้วย ซึ่งจำนวนเงินค่าสินไหมทดแทนจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการกระทำและความเสียหายที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีที่มีการอ้างว่า รุ่นน้องยินยอมที่จะถูกกระทำ ทนายดิว ระบุว่า ในทางกฎหมายในกรณียินยอมนี้ จะต้องเป็นการกระทำที่ไม่ขัดต่อศีลธรรมจริยธรรม หรือความสงบสุขของสังคมเท่านั้น

ธากฤช สิทธิประเสริฐ ทนายดิว

 

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า