จากเหตุระเบิดขนาดใหญ่บริเวณท่าเรือกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2563 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตกว่าร้อยคนและผู้ได้รับบาดเจ็บหลายพันคน ท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 และภาวะเศรษฐกิจตกต่ำภายในประเทศเลบานอน หลากหลายประเทศแสดงความช่วยเหลือ และจัดส่งทรัพยากรที่จำเป็น

ฝรั่งเศส: มาครงเสนอช่วยแก้ปัญหาทางการเมือง

ฝรั่งเศสที่มีสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับเลบานอนส่งเครื่องบินสามลำพร้อมหน่วยกู้ภัยและทรัพยากรต่าง ๆ เช่นอุปกรณ์ทางการแพทย์ โรงพยาบาลสนาม และรับปากว่าจะกระตุ้นประชาคมนานาชาติให้ส่งความช่วยเหลือแก่เลบานอน โดย’วันพฤหัสบดี 6 สิงหาคม 2563 ประธานาธิบดีเอมานูเอล มาครงเดินทางเยือนกรุงเบรุตเพื่อแสดงกำลังใจ

สำนักข่าว AFP รายงานว่าประธานาธิบดีมาครงกล่าวแก่ฝูงชนที่รวมตัวต้อนรับตามท้องถนนว่าเขาจะพยายามทำให้กลุ่มก้อนทางการเมืองต่าง ๆ ของเลบานอนปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มิเช่นนั้นตนจะ “รับผิดชอบทางการเมืองในส่วนของตนเอง”

ประชาชนชาวเลบานอนตกอยู่ในท่ามกลางปัญหาทางการเมืองมาตั้งแต่ช่วงตุลาคม 2562 มีการประท้วงไปทั่วประเทศก่อนที่สถานการณ์โควิด-19 จะทำให้การชุมนุมต่าง ๆ หยุกชะงัก ประชาชนชาวเลบานอนส่วนหนึ่งก็มองว่าปัญหาการระเบิดครัั้งนี้เป็นผลมาจากการเมืองที่ไร้ประสิทธิภาพ

นานาชาติส่งทรัพยากรช่วยเหลือ

นอกจากฝรั่งเศส ความช่วยเหลือจากคูเวตก็ถึงกรุงเบรุตแล้วเช่นกันในรูปแบบของอุปกรณ์ทางการแพทย์ ขณะที่การ์ต้าและตุรกีส่งโรงพยาบาลสนามมาช่วยแบ่งเบาภาระทางการแพทย์ที่โรงพยาบาลต้องแบกรับเพิ่มเติมจากการระบาดของโรคโควิด-19

ประเทศอื่น ๆ ในโลกอาหรับ เช่น อิหร่านและจอร์แดนกล่าวว่าพร้อมส่งความช่วยเหลือทันทีที่มีการร้องขอ โดยเสนอความช่วยเหลือด้านการแพทย์เพื่อช่วยรักษาบรรเทาอาการของผู้ได้รับบาดเจ็บ

สหภาพยุโรปกล่าวว่าจะส่งทีมกู้ภัยกว่า 100 คน และสุนัขดมกลิ่นเพื่อช่วยค้นหาบุคคลภายใต้ซากปรักที่กินวงกว้างรัศมีหลายกิโลเมตร

ขณะที่องค์กรเอกชน แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ร่วมส่งกำลังใจให้ชาวเลบานอน ย้ำให้มีการสอบสวนอย่างเป็นอิสระต่อการระเบิดที่เบรุต

จูลี เวอร์ฮาร์ รักษาการเลขาธิการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า  “ไม่ว่าการระเบิดครั้งนี้จะเกิดขึ้นด้วยสาเหตุใด โดยอาจเป็นผลมาจากสารแอมโมเนียมไนเตรทจำนวนมากที่ถูกเก็บไว้อย่างไม่ปลอดภัย แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เรียกร้องให้มีการจัดตั้งกลไกระหว่างประเทศโดยทันที เพื่อสอบสวนสาเหตุของเหตุการณ์ครั้งนี้”

โดยชี้ว่าจำเป็นต้องมีการสอบสวนระหว่างประเทศที่ปลอดจากการแทรกแซงทางการเมืองในประเทศ “เพื่อประกันให้เกิดความจริง ความยุติธรรม และการเยียวยาต่อผู้รอดชีวิต”

นอกจากนี้ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลยังชี้ว่าประชาคมระหว่างประเทศควรรีบส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปยังเลบานอนอย่างเร่งด่วน เนื่องจากในช่วงที่ประเทศนี้ต้องเผชิญทั้งภาวะวิกฤติร้ายแรงด้านเศรษฐกิจ รวมทั้งการระบาดของโรคโควิด-19

นายมิเชล อาอูน ประธานาธิบดีเลบานอนกล่าวว่า การระเบิดเกิดขึ้นจากสารแอมโมเนียมไนเตรทปริมาณ 2,750 ตัน ซึ่งถูกเก็บไว้ในโกดังอย่างไม่ปลอดภัย หลังเกิดเหตุระเบิด 2-3 วันนี้ หน่วยกู้ภัยยังคงค้นหาผู้รอดชีวิตท่ามกลางซากปรักหักพัง และมีการประกาศไว้อาลัยอย่างเป็นทางการสามวัน