Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว
‘ลีโอนาร์โด เดล เวคคิโอ’ นักธุรกิจมหาเศรษฐีชาวอิตาลี ผู้ครอบครองอาณาจักร ‘EssilorLuxottica’ (เอสซีลอร์ลูซอตติกา) เจ้าของธุรกิจแว่นตาแบรนด์ดังที่ครองส่วนแบ่งตลาดเบอร์หนึ่งของโลก เสียชีวิตในวัย 87 ปี เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา ความสำเร็จของธุรกิจแว่นตาที่ใหญ่ที่สุดของโลก ถูกตีมูลค่าหลังการเสียชีวิตไว้สูงถึง 2.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
.
 เราอาจไม่คุ้นเคยกับเขาบนหน้าสื่อนัก เพราะ เดล เวคคิโอ เป็นนักธุรกิจที่ไม่ชอบอยู่ใต้แสงสปอตไลท์
.
ทว่าเขาคือเจ้าของธุรกิจแว่นตาที่ครองส่วนแบ่งใหญ่ในอุตสาหกรรมนี้ มีโรงงานอยู่ทั้งในยุโรป เอเชีย อเมริกา และเป็นเจ้าของแบรนด์แว่นตาดัง Ray-Ban และ Oakley รวมทั้งเป็นผู้ผลิตแว่นตาให้แบรนด์แฟชั่นดังทั้ง Prada, Chanel, Versace, Bulgari, Burberry, Valentino เป็นต้น
.
ในต่างประเทศเราอาจจะคุ้นกับร้านขายแว่นตาอย่าง Pearle Vision, Lenscrafters และ Sunglass Hut เหล่านี้คือเครือข่ายค้าปลีกในอาณาจักรของเขาทั้งสิ้น
.
‘เดล เวคคิโอ’ เป็นคนที่รำ่รวยที่สุดอันดับสองของประเทศอิตาลี และแน่นอนว่าการจากไปของเขาทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับอนาคตของอาณาจักร ‘EssilorLuxottica’
.
ชีวิตที่เริ่มจากการเป็นผู้ประกอบการรายย่อย ขยายสู่การเป็นนักธุรกิจและจบลงด้วยตำแหน่งมหาเศรษฐีอันดับสองของอิตาลี เส้นทางชีวิตและการสร้างธุรกิจแว่นตาเบอร์หนึ่งของโลกของ เดล เวคคิโอนั้นมีบทเรียนให้เราได้ศึกษา เรียนรู้
.
จากเด็กยากจนลูกคนเข็นผัก ที่พ่อเสียชีวิตก่อนเขาลืมตาดูโลก แม่เลี้ยงดูไม่ไหวพา เดล เวคคิโอ ไปไว้ที่บ้านเด็กกำพร้า จนอายุ 14 ปี เขาเริ่มเรียนรู้ฝึกหัดเป็นช่างขึ้นรูปโลหะและหันไปเน้นที่การขึ้นรูปโลหะทำกรอบเฟรมและผลิตชิ้นส่วนกรอบแว่นตา จากนั้นเริ่มต้นทำธุรกิจด้วยการเป็นคนขายของ พอมีทุนรอนที่จะตั้งบริษัทผลิตชิ้นส่วนแว่นตาและประกอบแว่นตาสำเร็จรูปขาย
.
โดยเริ่มจากตั้งบริษัท Luxottica เป็นบริษัทเล็กๆแบบโฮมออฟฟิศ แบ่งส่วนที่เป็นสถานที่ทำงานกับส่วนอยู่อาศัยของภรรยาและลูกๆไว้ใกล้ๆกัน เขาตื่นมาเริ่มงานทุกวันตั้งแต่ตีสาม ลูกๆย้อนอดีตถึงพ่อว่า ทำงานหนักและไม่ได้ใกล้ชิดกับครอบครัวนักในช่วงที่พวกเขายังเด็กๆ และแน่นอนเขาก็ยังทำงานจนนาทีสุดท้าย
.
ลีโอนาร์โด เดล เวคคิโอ นับหนึ่งธุรกิจนี้จากศูนย์ เขาเป็นคนที่ริเริ่มและบุกเบิกให้แว่นตา ซึ่งเป็นสินค้าจำเป็น มาบวกเข้ากับความเป็นแฟชั่น จนกลายเป็นธุรกิจแฟชั่นที่ทำให้เขาขายแว่นตาได้ราคาสูงขึ้นมากๆ ขยายธุรกิจจนพาบริษัท Luxottica เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ฯ
.
และเริ่มต้นสร้างอาณาจักรด้วยโมเดลธุรกิจผลิต “แว่นตาแฟชั่น” ที่มีคุณภาพสูง สวยงามพร้อมกับมีความเป็นแบรนด์หรูหรา ขณะเดียวกันก็เดินหน้าขยายธุรกิจผ่านการซื้อและควบรวมกิจการกับบริษัทแว่นตาคู่แข่ง อาทิ Ray-Ban และ Oakley รวมทั้งซื้อกิจการร้านค้าปลีกจำหน่ายแว่นเพื่อเพิ่มช่องทางการขายให้มากขึ้นทั่วโลก เช่น Pearle Vision, Lenscrafters และ Sunglass Hut
.

หนึ่งในกรณีศึกษาที่ถูกนำมาแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นจะสร้างอาณาจักรแว่นตาของเดล เวคคิโอ ให้ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่างไม่ลดละ คือ การตัดสินใจเข้าซื้อกิจการของ United States Shoe Corporation กลุ่มบริษัทสหรัฐอเมริกาที่มีเครือข่ายค้าปลีกและแบรนด์ต่างๆหลายแห่ง เน้นสินค้าประเภทรองเท้า เสื้อผ้า และแว่นตา ซึ่งขณะนั้น US Shoe มีมูลค่าตลาดมากกว่า Luxottica ถึง 5 เท่า แต่การทุ่มเงิน 1.4 พันล้านดอลลาร์ซื้อกิจการนี้ เดล เวคคิโอ หมายตาแค่เพียงจะครอบครองธุรกิจค้าปลีกแว่นตา Lenscrafters ที่มีเครือข่ายใหญ่ที่สุดในอเมริกาเท่านั้น นั่นทำให้หลังซื้อกิจการ US Shoe มาแล้วเขาจึงขายทุกอย่างออกไป เหลือเว้นไว้แค่ธุรกิจ Lenscrafters

.
ไม่ได้ขายแต่แว่นตาราคาแพงเท่านั้น การครองเบอร์หนึ่งทำให้โมเดลธุรกิจของ Luxottica พยายามเข้าถึงทุกกลุ่มตลาด มีตั้งแต่ขายกรอบแว่นราคาถูกในประเทศกำลังพัฒนา บางครั้งก็ถึงกับแจกแว่นตาผ่านงานการกุศลด้วย ขณะเดียวกันขาอีกข้างก็เกาะเกี่ยวกับแบรนด์ดีไซเนอร์รายใหญ่หลายแห่งที่เขามีสัญญาใบอนุญาตได้เป็นผู้ผลิตแว่นตาให้แบรนด์หรูเหล่านั้น ส่งผลให้ Luxottica มีอำนาจกำหนดราคาในตลาดทั่วทั้งอุตสาหกรรมแว่นตา
อีกหนึ่งตัวอย่างความคลั่งไคล้และความทะเยอทะยานของ เดล เวคคิโอ ในการครองส่วนแบ่งตลาดในอุตสาหกรรมแว่นตาและทำให้กิจการของเขาใหญ่โตขึ้นมา ก็คือแม้แต่ตอนที่เขาอายุใกล้จะ 70 ปี เดล เวคคิโอประกาศเกษียณอายุ ส่งไม้ต่อให้ผู้บริหารรุ่นถัดมาที่มีอายุน้อยกว่า แต่ผ่านไป 10 ปี เขาก็สร้างเซอร์ไพรส์ให้วงการธุรกิจ เมื่อเขากลับมานั่งแท่นบริหาร Luxottica อีกครั้ง
.
การกลับมานั่งบริหารธุรกิจที่เขาสร้างขึ้นมาเองรอบสอง ได้สร้างปรากฎการณ์ดีลใหญ่ เมื่อตอนที่เขาอายุมากถึง 81 ปีแล้ว เดล เวคคิโอ ประกาศควบรวมกิจการระหว่าง Luxottica และ Essilor บริษัทผู้ผลิตเลนส์สายตาชื่อดังสัญชาติฝรั่งเศสที่มีส่วนแบ่งตลาดเลนส์สายตาเกือบครึ่งหนึ่งของโลก เดล เวคคิโอ ขึ้นเป็นประธานกรรมการบริหารของ EssilorLuxottica สร้างธุรกิจแว่นตาเป็นเบอร์หนึ่งของโลกจนได้
.
เดล เวคคิโอ บอกว่า “นี่คือความสำเร็จและความฝันตลอดชีวิตของเขา” แต่ด้านหนึ่งแน่นอนว่าเขาก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสื่อว่าธุรกิจของเขาอาจมีลักษณะอำนาจเหนือตลาดหรือไม่ โดยหลังการควบรวมกิจการเป็น EssilorLuxottica ทำให้เขามีร้านค้าปลีกแว่นตากว่า 16,000 แห่งทั่วโลก
.
นอกจากนี้ เขายังยกระดับไปเป็นพันธมิตรกับบริษัทเทคโนโลยีบุกเบิกใหม่ๆทางนวัตกรรม เมื่อ EssilorLuxottica จับมือกับมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก แห่ง Meta เปิดตัว Ray-Ban Stories แว่นตาอัจฉริยะที่ถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ ฟังเพลง ฟังพอดแคสต์ รวมทั้งคุยโทรศัพท์ได้ด้วย
.
การเสียชีวิตในวัย 87 ปี ทำให้อาณาจักรแว่นตา EssilorLuxottica มูลค่า 2.9 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ถูกจับตาว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเปลี่ยนมืออะไรครั้งสำคัญหรือไม่ แต่สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานล่าสุดว่า อนาคตของกลุ่มธุรกิจยังถูกมองว่าปลอดภัย ภรรยาของเขายืนยันที่จะสืบทอดหุ้นทั้งหมดของสามี ที่มี 25% ส่วนหุ้นที่เหลืออีก 75% ถูกแบ่งเท่าๆกันระหว่างลูกทั้ง 6 คน ที่เกิดจากภรรยาคนแรก 3 คน คนปัจจุบัน 1 คน และอีก 2 คน เป็นบุตรจากความสัมพันธ์ที่ไม่เปิดเผย
.
และนี่คือเรื่องราวปิดตำนาน ‘ลีโอนาร์โด เดล เวคคิโอ’ มหาเศรษฐีชาวอิตาลีที่ผงาดขึ้นจากความยากจน สร้างธุรกิจยักษ์ใหญ่ระดับโลกมีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมแว่นตา

นักธุรกิจผู้เริ่มต้นชีวิตจากเด็กทำกรอบแว่น มาสู่ผู้บุกเบิกธุรกิจแว่นตาแฟชั่น และกำลังอยู่ในช่วงปูทางสร้างอนาคตของแว่นตาอัจฉริยะ ที่น่าเสียดายว่าเขายังไม่ได้เห็นว่าธุรกิจที่เขารักจะเปลี่ยนแปลงโลกนี้ไปได้อีกมากแค่ไหนในยุคเมตะเวิร์ส

อ้างอิง

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า