หลังจากเปิดตัวครั้งแรกเมื่อ 3 ปีก่อน ตอนนี้ ‘LINE BK’ ผู้ให้บริการ Social Banking รายแรกในเมืองไทยก็เดินทางมาถึงครบรอบ 3 ปี พร้อมฉลองยอดผู้ใช้งานกว่า 6 ล้านคน จึงได้เปิดเผยสถิติการใช้งาน LINE BK ที่น่าสนใจออกมา
[ ด้านธุรกรรมทางการเงิน ]
3 ฟีเจอร์ยอดฮิต คือ
– ฟีเจอร์โอนเงินผ่านแชท (In chat transfer)
– สแกนจ่ายด้วย QR (Scan QR)
– แชร์เงิน (Split bill)
3 อันดับเป้าหมายออมเงินในบัญชีออมเงินดอกพิเศษ
อันดับ 1 เพื่อลูก
อันดับ 2 เพื่อความมั่งคั่ง
อันดับ 3 เพื่อท่องเที่ยว
3 ซองเงินโอกาสพิเศษที่ถูกส่งมากที่สุด
อันดับ 1 บอลโลก
อันดับ 2 ลอยกระทง
อันดับ 3 ตรุษจีน ส่วน ได้แก่
[ ด้านบริการสินเชื่อ – วงเงินให้ยืมและวงเงินให้ยืมนาโน ]
เพราะ LINE BK มุ่งเป้าเจาะลูกค้าที่เข้าไม่ถึงสินเชื่อของระบบธนาคาร ให้สามารถเข้าถึงสภาพคล่องทางการเงินในช่วงเวลาวิกฤต ระหว่างการออกออกบูธประชาสัมพันธ์บริการ พบว่าลูกค้าที่สนใจเข้ามาสอบถามเกี่ยวกับบริการยืมเงิน กว่า 70% จะเป็นกลุ่มพ่อค้า แม่ค้า และไรเดอร์
สำหรับภาพรวมลูกค้าสินเชื่อของ LINE BK สัดส่วนอยู่ที่ภาคกลาง 56% ตามด้วยภาคตะวันออกและภาคเหนือ 15% เท่ากัน ภาคอีสานและภาคใต้ 5% เท่ากัน และภาคตะวันตก 4%
โดยเป็นกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระมากกว่า 53%
และได้วงเงินเฉลี่ยคือราว 36,000 บาท
ด้านเหตุผลที่คนยืมเงิน LINE BK พบว่า 3 เหตุผลหลักคือ
– เพื่อใช้จ่ายส่วนตัว
– เพื่อเป็นวงเงินสำรองเผื่อไว้ในกรณีฉุกเฉิน
– เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนหรือกระแสเงินสดสำรองสำหรับธุรกิจ
โดย LINE BK ระบุว่า ยังได้เพิ่มวงเงินให้กับลูกค้าที่มีความต้องการและชำระคืนได้ดีกว่า 80,000 ราย
[ ด้านประกัน ]
ก่อนหน้านี้ LINE BK ได้เปิดตัวบริการ LINE BK Insurance Broker ภายใต้บริษัทกสิกร ไลน์ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ ปัจจุบัน ลูกค้าที่ซื้อประกันผ่าน LINE BK ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุ 25-44 ปี และเป็นเพศหญิงมากถึง 62%
ประกันที่ได้รับความนิยม 3 อันดับ ได้แก่
1 ผู้ป่วยนอกเบาเบา
2 โรคร้ายเจอจ่าย
3 ผู้ป่วยในเหมาเหมา
โดยลูกค้ามีความสนใจซื้อประกันมากกว่า 1 กรมธรรม์ โดยจะเลือกซื้อแบบประกันที่มีความคุ้มครองคนละด้านเพื่อครอบคลุมความกังวล
‘ธนา โพธิกำจร’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กสิกร ไลน์ จำกัด ผู้ให้บริการ Social Banking รายแรกในเมืองไทย ภายใต้ชื่อ LINE BK เปิดเผยว่า นับเป็นเวลา 3 ปี ที่ LINE BK ได้ส่งมอบประสบการณ์ใหม่ให้กับคนไทย และมุ่งพัฒนาบริการให้ตอบโจทย์การเงินที่สะดวกกว่าเดิม ทำให้เรื่องเงินเป็นเรื่องง่ายในแอปพลิเคชัน LINE ท่ามกลางความท้าทายจากหลากหลายปัจจัย
แต่บริษัทฯ ก็สามารถเดินหน้าธุรกิจได้ตามแผนที่วางไว้ ซึ่งนอกจากจำนวนผู้ใช้บริการจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องที่ปัจจุบันมีมากกว่า 6 ล้านรายแล้ว ตลอดเส้นทางความสำเร็จ LINE BK ยังได้ทำความรู้จักลูกค้าในหลายแง่มุมจากพฤติกรรมการใช้งาน พร้อมสรุปออกมาเป็นสถิติการใช้งานที่น่าสนใจ
“การก้าวสู่ปีที่ 4 LINE BK ยังคงมีการพัฒนาระบบ AI หลังบ้านอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความเข้าใจลูกค้าและนำเข้ามาช่วยในเรื่องการอนุมัติสินเชื่อ ช่วยให้คนไทยที่เข้าไม่ถึงสินเชื่อในระบบสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ทั้งกลุ่มคนที่มีรายได้น้อย และกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระ ซึ่งจะเป็นก้าวแรกที่นำคนเหล่านี้เข้าสู่ระบบธนาคาร พร้อมทั้งเดินหน้าพัฒนาบริการใหม่ ๆ เพื่อขยายขอบเขตการนำเสนอบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าให้มากขึ้นในอนาคตและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการอย่างครอบคลุม”