คุยกับ LINE ประเทศไทย อยากให้คนไทยใช้ LINE เข้าถึงบริการภาครัฐได้เหมือนญี่ปุ่น

LINE สำหรับคนไทย กลายเป็นช่องทางหลักในการติดต่อสื่อสาร ทั้งสื่อสารหาครอบครัว เพื่อน ไปจนถึงการสื่อสารในหน้าที่การงาน เพราะ LINE มีการเข้าถึงคนไทยอย่างมหาศาลกว่า 54 ล้านราย 

LINE ให้บริการทั่วโลก เช่นเดียวกับ Messaging App หลายตัวที่เรารู้จักกันอย่าง Facebook Messenger, WhatsApp, Telegram แต่ LINE มีประสิทธิภาพสูงมากในเอเชีย โดยเฉพาะในญี่ปุ่นซี่งเป็นสำนักงานใหญ่ และในไทย 

แม้ LINE ให้บริการในหลายประเทศ แต่ในแต่ละประเทศ LINE มีคาแรกเตอร์ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว ผู้พัฒนาในแต่ละประเทศมีความเป็นปัจเจกสูง เมื่อโจทย์ของผู้ใข้งานต่างกัน หน้าตาของแอปก็ต่างกัน แม้จะใช้ชื่อ LINE เหมือนกันก็ตาม

TODAY Bizview ได้พูดคุยสบายๆ กับ ดร.พิเชษฐ ฤกษ์ปรีชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE ประเทศไทย พูดถึงคาแรกเตอร์ของ LINE ในแต่ละประเทศ และ LINE ประเทศไทย จะมีหน้าตาแบบไหนต่อไปในอนาคต

[ คาแรกเตอร์ของ LINE ในแต่ละประเทศ ไม่เหมือนกัน ]

ดร.พิเชษฐ เล่าเริ่มต้นที่เคส LINE ญี่ปุ่น พวกเขาใช้ตัวแพลตฟอร์ม LINE มากกว่าแชท ใช้อีโคซิมเต็มและโปรดักต์ที่มีหลากหลายของ LINE มากกว่าตัวแชท ซึ่งในมุมมองคนญี่ปุ่น LINE เป็นแพลตฟอร์มและพอร์ทัลที่เขาจะใช้เข้าถึงเนื้อหาต่างๆ โดยเฉพาะบริการภาครัฐ ซึ่งเป็นหมุดหมายของ LINE ประเทศไทยที่อยากไปให้ถึง คือเมื่อพูดถึง LINE ไม่อยากให้คิดถึงแชทเพียงอย่างเดียว 

LINE Bank และ LINE Shopping ในญี่ปุ่นก็ถือว่าทำได้ดี ซึ่งต่างจากไทยเล็กน้อย เพราะไทยมีกฎเรื่องบริการการเงิน LINE จึงต้องไปหาพันธมิตรที่มีใบอนุญาต กลายเป็นบริการ LINE BK ขึ้นมา 

บางโปรดักต์ก็ทำมาเพื่อให้คนญี่ปุ่นใช้เป็นหลัก เช่น LINE Clova ระบบผู้ช่วยอัจฉริยะ เหมือน Siri หรือ Alexa ซึ่งเชื่อมต่อกับลำโพงอัจฉริยะของ LINE อีกที 

ส่วนคนไต้หวัน ใช้ LINE Points กันเป็นพื้นฐานเลยก็ว่าได้ และใช้กันในวงกว้างมากๆ LINE Points คือแต้มที่ผู้ใช้บริการ LINE ได้รับจากการช้อปผ่าน LINE SHOPPING หรือจากกิจกรรมการแจกพอยท์ต่างๆ ซึ่ง LINE POINTS สามารถใช้แทนเงินสดได้ ไทยเองก็มีบริการนี้เช่นกัน แต่ยังมีสเกลไม่มาก ซึ่งโมเดลแบบไต้หวันก็เป็นอีกเป้าหมาย ที่ไทยอยากไปให้ถึง 

ส่วนพฤติกรรมคนไทย ใช้ LINE ในการแชทเป็นหลัก แต่นอกจากแชท คนไทยยังใช้ดูคอนเทนต์เยอะด้วย ซึ่งมากกว่าญี่ปุ่นเสียอีก คอนเทนต์ในที่นี้รวมถึงข่าวสารใน LINE Today, LINE Open Chat ซึ่งคนไทยมีอัตราส่วนใช้ Open Chat มากที่สุดในโลก

[ การใช้ LINE กับบริการภาครัฐ ]

จริงๆ แล้ว คนไทย สามารถใช้บริการภาครัฐบางส่วนผ่าน LINE OA ได้เหมือนกัน เช่น บริการหมอพร้อม, ประกันสังคม, การไฟฟ้า เมื่อเร็วๆ นี้ LINE ยังเปิดตัว LINE Alert บัญชีแจ้งเตือนภัยพิบัติร้ายแรง ร่วมมือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยฯ และกรมอุตุนิยมวิทยาฯ ที่จะนำเข้าข้อมูลเข้ามาแจ้งเตือนคนไทยอีกที แต่การเข้าถึงภาครัฐยังไม่อยู่ในสเกลที่สู้ญี่ปุ่นได้ 

ดร.พิเชษฐ บอกว่าตอนนี้ยังมีหน่วยงานภาครัฐที่เข้ามาร่วมกับ LINE น้อยมากเมื่อเทียบกับหน่วยงานเอกชนที่มาอยู่บน LINE OA ลองนึกชื่อบริษัทเอกชนใหญ่ๆ ขึ้นมาสักหนึ่งชื่อ แล้วเสิร์ชหาช่องทางติดต่อ เชื่อว่าส่วนใหญ่มี LINE OA แต่หน่วยงานรัฐกลับกัน 

จุดที่ทำให้หน่วยงานรัฐตื่นตัวคือโควิด-19 ทั้ง สปสช., หมอพร้อม, การไฟฟ้าถือเป็นตัวอย่างที่ทำได้ดีมาก ประชาชาสามารถจ่ายค่าไฟผ่าน LINE ได้เลย และยังมี M Flow ระบบจัดเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติของกระทรวงคมนาคม ที่เราสามารถใส่ทะเบียนรถลงในบัญชีบน LINE ของ M Flow เพื่อให้ระบบแจ้งยอดทางด่วนได้เลย 

อนาคต เป้าหมายของเราก็คืออยากให้มีหน่วยงานรัฐขึ้นมาอยู่บน LINE ให้มากๆ ซึ่งก็ต้องย้อนกลับมาที่เรา ที่ต้องทำงานหนัก และเดินสายพูดคุยให้เยอะ 

ซึ่งประโยชน์ของการเชื่อมต่อข้อมูลภาครัฐกับ LINE ช่วยลดค่าใช้จ่าย ลดภาระการพัฒนาแอปพลิเคชั่นเพิ่ม และลดภาระคนไทยในการต้องดาวน์โหลดแอปเพิ่ม เพราะ LINE เข้าถึงคนไทยอยู่แล้ว 

“ เรื่อง App Economy เป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้ว 8-10 ปี เมื่อก่อนใครสร้างแอปคือเป็นที่ฮือฮามาก แต่ทุกวันนี้ การสร้างแอปง่ายขึ้นมาก แต่ที่บากคือ ทำยังไงให้คนดาวน์โหลดไปใช้” ดร.พิเชษฐ กล่าว

[ โปรดักต์ไหนของ LINE ที่จะโตได้อีกในไทย ]

ดร.พิเชษฐ มองว่า LINEMAN จะมีโอกาสโตได้อีกมากในตลาดโลจิสติกส์แพลตฟอร์ม ไม่ใช่ตลาดเดลิเวอรี่ เพราะ LINEMAN มีมากกว่าส่งอาหาร ยังมีบริการส่งคนส่งของยิบย่อยอยู่ในแอปเดียว ดังนั้นจึงวัดกันที่โลจิสติกส์ ไม่ใช้ฟู้ดเดลิเวอรี่ 

อีกโปรดักต์ที่คาดหวังว่าจะโตคือ LINE Shopping ที่จะมีฟีเจอร์ใหม่ๆ ออกมาให้คนซื้อง่ายขึ้น คนขายง่ายขึ้น และ LINE OA จะมีอีโคซิสเต็มที่ใหญ่ขึ้น ผู้ค้ารายเล็กจะหันมาใช้ LINE OA กันมากขึ้น เพราะพฤติกรรมเฉพาะอย่างหนึ่งของคนไทยคือ เวลาซื้อของ ชอบแชทคุยกับพ่อค้าแม่ค้า

[ ตัวเลขน่าสนใจของ LINE ในไทย ]

• ผู้ใช้งาน LINE 54 ล้านคน 
• ร้านอาหารบน LINE MAN กว่า 1 ล้านร้าน 
• มีร้านค้าบน LINE SHOPPING กว่า 540,000 ร้าน 
• มีครีเอเตอร์กว่า 1.16  ล้านราย สร้างสติกเกอร์ถึง 5.7 ล้านชุด
• LINE OFFICIAL ACCOUNT มีธุรกิจแล้ว 6 ล้านบัญชี