หลังจากเว้นว่างจากซีรีส์โรแมนติกไปสักพัก ‘ยอจินกู’ ก็กลับมาพร้อมกับผลงานใหม่ล่าสุดกับซีรีส์ Link: Eat, Love, Kill (링크: 먹고 사랑하라, 죽이게) จาก Disney+ Hotstar ที่เขาได้กลับมาร่วมงานกับ ‘มุนกายอง’ อีกครั้งหลังจากที่เคยพบกันมาแล้วในซีรีส์ จามยองโก และ The Reputable Family เมื่อปี 2009 ซึ่งทั้งสองเคยให้สัมภาษณ์ไว้ในงานแถลงข่าวว่าการได้กลับมาร่วมงานกันให้ความรู้สึกสดใหม่และน่าตื่นเต้นมาก เพราะเป็นการร่วมงานกันครั้งแรกในช่วงเวลาที่ยาวนาน และทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองตัวละครลึกซึ้งขึ้นด้วย
Series Society ได้โอกาสพูดคุยกับทั้งสองนักแสดงที่เผยถึงความสนุกและน่าสนใจของตัวละครที่พวกเขาได้รับใน Link: Eat, Love, Kill ที่เป็นการผสมผสานระหว่างหลากหลายแนวทั้ง โรแมนซ์ ฆาตกรรม ทริลเลอร์ และแฟนตาซี กับเรื่องราวของเชฟหนุ่มที่อยู่ ๆ ก็มี ‘ลิงก์’ ที่เขารู้สึกได้ถึงความรู้สึกของหญิงสาวอีกคน ทั้งความทุกข์ สุขและอ่อนไหว ต่าง ๆ ของเธอ เหมือนกับที่เขาเคยรู้สึกได้กลับน้องสาวฝาแฝดของเขา
ยอจินกูแนะนำตัวละครของเขาไว้ว่า
“ครั้งนี้ ใน Link: Eat, Love, Kill ผมรับบทเป็น อึนกเยฮุน ครับ มีอาชีพเป็นเชฟ และถึงแม้เขาอาจจดูเป็นคนเย็นชา และเป็นคนสไตล์แข็ง ๆ หน่อย ไม่ค่อยช่างพูดเท่าไรโดยเฉพาะในเวลาทำงาน แต่ว่าถ้าได้รู้จักตัวตนเขา เขาเป็นคนค่อนข้างอ่อนไหว เขาผ่านอะไรมามากในชีวิต และที่จริงแล้วเป็นคนที่มีหัวใจอันอบอุ่นต่างกับภาพลักษณ์ภายนอก แล้วเขาก็เป็นคนที่ไม่อยากสร้างอะไรที่สำคัญขึ้นมาในชีวิตเพราะเขาไม่อยากที่จะสูญเสียสิ่งนั้นไป”
ด้านมุนกายองก็กล่าวติดตลกถึงตัวละครของเธอว่าเป็น ‘นักหางาน’
“สวัสดีค่ะ ฉัน มุนกายอง รับบทเป็น ดาฮยอน ใน Link: Eat, Love, Kill นะคะ ดาฮยอน เป็นนักหางานค่ะ ฉะนั้นก็เลยยังไม่มีอาชีพนะคะตอนนี้ แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นคนที่มีแพชชั่นในการใช้ชีวิต เธอพยายยามใช้ชีวิตให้เต็มที่ที่สุด และเปิดรับประสบการณ์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ เธอได้พบกับอึนกเยฮุน และพบกับเรื่องราวต่าง ๆ มากมายตลอดเรื่อง และเพราะเธอได้พบประสบการณ์ใหม่ ๆ เหล่านั้น เธอจึงเติบโตเป็นคนที่มีความกล้าและอดทน และการเติบโดตของดาฮยอนก็เป็นส่วนที่สำคัญของเรื่องราวด้วยค่ะ”
และทั้งสองก็เผยถึงเหตุผลว่าอะไรทำให้พวกเขาเลือกจะรับบทนี้ หลังจากที่มุนกยองเองก็เว้นว่างจากการรับซีรีส์ไปกว่าหนึ่งปีหลัง True Beauty และ ยอจินกู แม้จะมีผลงานต่อเนื่องแต่ก็ห่างหายจากแนวโรแมนติกไปพักใหญ่ ซึ่งมุนกายองเผยว่าชื่อเรื่องนั้นคือหนึ่งในสาเหตุหลักที่ดึงดูดให้เธอสนใจซีรีส์เรื่องนี้
“อย่างแรกเลยก็คือชื่อของเรื่องซึ่งก็คือ Link: Eat, Love, Kill และสามคำนี้ Eat, Love, Kill มันเข้มข้นจนฉันคิดว่ามันน่าสนใจ แล้วพอฉันได้อ่านบทละคร ฉันก็ชอบเรื่องราวและข้อความที่เรื่องต้องการจะสื่อ ฉันคิดว่ามันเข้าถึงได้ง่ายมาก และดาฮยอนเองก็เป็นตัวละครน่ารักมาก ฉันก็เลยหาเหตุผลที่จะปฏิเสธโปรกเจกต์นี้ไม่ได้ค่ะ และในแง่ของความโรแมนติก มันมีส่วนของ ‘ลิงก์’ ที่เชื่อมกับความเป็นเมโลดราม่า และฉันก็เลยสนใจว่า ‘ลิงก์’ ปมของมันจะคลี่คลายออกมาอย่างไร
อย่างเช่น ปรกติแล้วในซีรีส์โรแมนติดราม่า มันมักจะมีความเข้าใจผิด จังหวะเวลาที่ผิดพลาดที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง แต่ในเรื่องนี้ด้วยความที่ตัวเอกของเรื่องมี ‘ลิงก์’ ความรู้สึกที่เชื่อมโยงกัน ทั้งสองก็เลยจะมีความเข้าใจกันอยู่แล้ว ฉันก็เลยสนใจว่ามันจะออกมาเป็นอย่างไรค่ะ”
สำหรับยอจินกู มันคือความหลากหลายและสดใหม่ของเรื่องที่ทำให้เขาสนใจเข้าร่วมโปรเจกต์
“ผมคิดว่าซีรีส์ Link: Eat, Love, Kill มีข้อดีของซีรีส์หลายแนวมารวมกัน และผมคิดว่ามันเป็นเสน่ห์ของเรื่องเลย และมันก็มีความเยียวยาหัวใจด้วย ซึ่งน่าจะปลอบโยนใจของผู้ชมได้ดี ผมคิดว่านักเขียนถ่ายทอดมันออกมาได้ดีมาก ๆ
ส่วนในแง่ของความโรแมนติกระหว่างดาฮยอนกับกเยฮุน ผมคิดว่าด้วยความที่พวกเขาทั้งสองมี ‘ลิงก์’ ที่เชื่อมหากัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ร้อยเรียงแนวต่าง ๆ ของเรื่องเข้าไว้ด้วยกัน ในแง่ของความโรแมนซ์ มันจึงเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับผู้ชม มันแตกต่างกับซีรีส์เมโลดราม่าเรื่องอื่น ๆ ที่พวกเราเคยได้ชมกันมาก่อน และด้วยเหตุนี้ผมก็เลยคิดว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองจะให้มุมมองที่สดใหม่และอินโนเวทีฟแก่ผู้ชมครับ
ทั้งความหลากหลายของแนวเรื่อง ปรากฏการณ์ของ ‘ลิงก์’ และการที่มันเชื่อมโยงตัวละครเอกทั้งสองเข้าด้วยกันในแง่ของความรัก เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ผมเลือกโปรเจกต์นี้ครับ”
ผู้ชมในประเทศไทย สามารถติดตาม Link: Eat, Love, Kill ได้แล้วทาง Disney+ Hotstar เท่านั้น
อ้างอิง