สรุปที่มาที่ไป สงครามแร็ปเปอร์ เมื่ออิลสลิก เปิดฉากดิสเดือดใส่ Meyou

เรื่องราวดราม่าสุดเข้มข้นของศิลปินสองรุ่น ระหว่าง “อิลสลิก” หนึ่งในตำนานวงการแร็ป กับ “มิว” นักร้องหน้าใหม่ที่มาแรงสุดๆในปีนี้

ประเด็นนี้น่าสนใจตรงที่ มันเกี่ยวข้องกับระบบ Monetization หรือการทำเงินในยูทูป รวมถึงการอาจละเมิดกฎหมายทางลิขสิทธิ์ในวงการดนตรี จนทำให้คนที่ปกติชอบทำเพลงอยู่ในสตูดิโอของตัวเอง ไม่ค่อยออกหน้าท้าชนกับใคร ถึงกับลุกมาแต่งเพลง “Dis” ใส่อีกฝ่ายอย่างหนักหน่วง

Workpoint News สรุปสาระสำคัญ พร้อมกับพูดคุยกับผู้เกี่ยวข้องของเหตุการณ์เอาไว้แล้ว โดยเรื่องทั้งหมดจะสรุปจบภายใน 20 ข้อ

1) Illslick (อิลสลิก) มีชื่อจริงว่า ทิฆัมพร เวชไทยสงค์ ชื่อเล่นคือ โต้ง เขาเป็นแร็ปเปอร์เสียงมีเสน่ห์ โดยเริ่มสร้างชื่อเสียงในวงการเพลงตั้งแต่ปี 2008

2) จุดเด่นของ “อิล” คือการนำ Beat หรือดนตรีจากต่างประเทศ เอามาเขียนเนื้อร้อง และเรียบเรียงทำนองขึ้นมาใหม่ ก่อนสร้างเป็นเพลงของตัวเอง แต่จะไม่สามารถเอาไปใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ โดยวิธีการนี้จะถูกเรียกว่า Mixtape ซึ่งแม้จะไม่ทำเงินจากการ Mixtape แต่ด้วยเนื้อเพลงคมๆที่เขาแต่ง บวกกับเสียงร้องที่รื่นหู ส่งผลให้ซิงเกิ้ลที่เขาปล่อยออกมา สร้างกระแสนิยมโด่งดังอย่างมากสำหรับคนชอบเพลงแร็ป

เพลง “จูบ” มียอดวิวในยูทูปสูงถึง 258 ล้านวิว รวมถึงเพลง รักเมียที่สุดในโลก, ดาวค้างฟ้า ฯลฯ หลายต่อหลายเพลง ที่ได้รับความนิยมสูง โดยเฉพาะกับกลุ่มเด็กวัยรุ่น

3) สำหรับอิลสลิก นอกเหนือจาก Mixtape แล้ว เขายังแต่งเพลง Original ของตัวเองอีกด้วย โดยเพลงที่โด่งดังมากๆ คือ M-Leg ที่แต่งเนื้อ และดนตรีเองทั้งหมด 100% ร่วมกับวงชื่อ Thaiblood

4) อิลสลิก มีโอกาสขึ้นมาอยู่บนดิน และสังกัดค่ายใหญ่ๆหลายครั้ง แต่เขาปฏิเสธโอกาสเหล่านั้นทั้งหมด เพราะเอ็นจอยกับการใช้ชีวิตเป็นศิลปินอิสระ ปัจจุบัน อิลสลิกมีสตูดิโอทำเพลงอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ และขอนแก่น เจ้าตัวมีผลงานปล่อยออกมาต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ทั้งแบบ Mixtape และ แบบ Original

5) ข้ามมาที่ปี 2016 มีศิลปินหน้าใหม่ ชื่อ ชิษณุชา ตันติเมธ หรือ “มิว” แจ้งเกิดขึ้นมาจากโครงการ MBO The Audition และได้โอกาสแสดงซีรีส์ทางเครือ GMM ด้วย

6) ด้วยหน้าตาที่ดี และมีเสียงที่เพราะ ทำให้ในปี 2017 มิว ออกซิงเกิ้ลเพลงของตนเองเป็นครั้งแรก กับค่าย MBO Teen Entertainment และจากนั้นก็ทำงานในวงการเพลงมาเรื่อยๆ จนมาถึงปี 2019 ได้ย้ายไปอยู่ค่าย White Music ในฐานะศิลปินชื่อ “Meyou” และได้ออกซิงเกิ้ลใหม่ชื่อ “ภาวนา” ออกมา ช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

เพลงภาวนา ของมิว ขึ้นอันดับ 1 Youtube Trending และขึ้นอันดับ 1 ยอดขายของ Itunes เรียกได้ว่า กระแสความนิยมของเขาเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว นี่คือศิลปินที่ได้รับการจับตามองอย่างมากในปีนี้

7) ประเด็นดราม่าของเรื่องนี้เกิดขึ้น ในช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยมิว จะมีแชนแนลของตัวเองในชื่อ MEYOU ซึ่งเวลาเขาร้องเพลง หรือคัฟเวอร์ ซิงเกิ้ลของใครมา ก็จะเอามาอัพโหลดลงในช่อง ปรากฏว่าในแชนแนล มิวลงเพลงใหม่ชื่อ M-Leg ซึ่งเป็นเพลง Original ของอิลสลิกนั่นเอง

8) ตามปกติแล้วระบบ Monetization ของ Youtube หรือการคิดเงินค่ายอดวิวนั้น จะคิดยอดวิวให้เจ้าของลิขสิทธิ์ผลงานเพลงตัวจริง โดยเมื่อเจ้าของผลงานบันทึกซาวน์เอาไว้ในระบบของยูทูป ระบบจะทำการจดจำเอาไว้ และเมื่อไหร่ก็ตาม ถ้ามีคน “รีอัพ” ซาวน์แบบเดียวกันขึ้นมา ทาง Youtube จะทำการลบทิ้ง หรือเก็บไว้แต่โอนรายได้ 100% ไปให้เจ้าของลิขสิทธิ์ตัวจริง

อย่างไรก็ตาม กับเคสของมิว เขาได้ทำซาวน์ดนตรี M-Leg ขึ้นมาใหม่ จนระบบของ Youtube ไม่สามารถตรวจจับได้ และทำการเปิดระบบ Monetization หรือหาเงินจากโฆษณา และยอดวิวของคลิป

9) นอกจาก M-Leg แล้ว ในแชนแนลของ Meyou ยังมีเพลงของอิลสลิกเพลงอื่นด้วย เช่น “ใจร้าย” ซึ่งใช้ทริกเดียวกันนั่นคือ ใช้เนื้อเพลงออริจินอลเดิมของอิลสลิก แต่เปลี่ยนดนตรีใหม่ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับของ Youtube พร้อมทั้งเปิดรับโฆษณาเช่นเดิม โดยเพลงใจร้ายของมิว มียอดวิวเกิน 10 ล้านแล้ว

10) สิ่งที่ทำให้ฝั่งอิลสลิกไม่พอใจมากยิ่งขึ้น นั่นคือ ทั้ง M-Leg และ ใจร้าย ไม่มีการเขียนเครดิตต้นฉบับ ว่านำเพลงมาจากใคร ส่งผลให้แฟนเพลงรุ่นใหม่มีความสับสนว่าเพลงออริจินอลจริงๆเป็นของใครกันแน่ โดยเฉพาะอย่างเคส M-Leg ที่แต่งไว้นานถึง 7 ปีแล้ว ส่งผลให้แฟนรุ่นใหม่ยังคิดว่ามิวคือต้นฉบับด้วยซ้ำ

11) นอกจากนั้น ยังมีคลิปบันทึกการแสดงสดของ มิว ได้นำเพลงใจร้าย และ M-Leg ไปเล่นในงานแสดงสดหลายงาน เสมือนเป็นผลงานของตัวเอง โดยไม่ได้ขออนุญาตจากอิลสลิก ซึ่งเป็นเจ้าของเพลงต้นฉบับเลย

“ทั้งหมดนี้ ทางเรารู้สึกว่าไม่ถูกต้อง และคิดว่าเกินกว่าจะปล่อยไป คือในเคสอื่นๆ ศิลปินทุกท่านจะติดต่อมาพูดคุยกันก่อนจะเอาเพลงไปใช้ในโชว์ ซึ่งทางเราก็ไม่ได้หวงหรือคิดเงินเลย” หนึ่งในทีมงานอิลสลิก เผยกับ Workpoint News

12) นั่นทำให้มีปฏิกริยาจากฝั่งอิลสลิก โดยไมค์ หนึ่งในศิลปินจากวง Thaiblood ที่ร่วมสร้างสรรค์เพลง M-Leg ได้โพสต์สเตตัส ในเฟซบุ๊กว่า “ใครที่เอาเพลง M-Leg ของพวกผมไปเล่นคอนเสิร์ต ขอดำเนินการทางกฎหมายนะครับ ส่วนเพลงใน Youtube ถ้ายังไม่ลบ เดี๋ยวผมให้ทนายทักไปนะครับ”

“สิ่งที่เราคาดหวังจาก มิว คือเขามีเบอร์โทรศัพท์ของอิลสลิกอยู่แล้ว เราอยากให้เขามาคุยกันตรงๆ หรือแค่กล่าวคำขอโทษอย่างจริงใจ เราก็จะไม่มีอะไรติดใจ และเดินหน้าต่อไป โดยลืมเรื่องที่ผ่านมาไว้เบื้องหลัง” ทีมงานของอิลสลิกกล่าว

13) อย่างไรก็ตาม ทางมิว ไม่ได้ติดต่อกลับมา ซึ่งทำให้ฝั่งอิลสลิก เริ่มใช้แรงกดดันทางกฎหมายเข้าต่อสู้ จนในที่สุด 26 กันยายน มิวตัดสินใจลบ M-Leg ฉบับ Remix ของตัวเองออกจากแชนแนล โดยอธิบายว่า “สาเหตุที่ผมนำเพลงนี้มาลง เพราะว่าพวกเราชอบเพลงนี้กันมากๆมานานแล้ว โดยที่ไม่ได้มีเจตนาอื่นแต่อย่างใด ฉะนั้น ถ้า Remix นี้ ทำให้ฝ่ายทีมทำเพลงของพี่อิล หรือ ตัวพี่อิล ไม่พอใจ ผมเคารพ และขอโทษครับ”

14) อย่างไรก็ตาม ทางฝั่งมิว ก็ยังคงไม่โทรหาอิลสลิก และพูดคุยกันตัวต่อตัว โดยอิลสลิกมีโอกาสคุยแค่ผ่านผู้จัดการส่วนตัวของ Meyou เท่าน้ั้น ส่งผลให้ทางอิลสลิกไม่แน่ใจว่า ตัวมิวรู้สึกว่าที่ตัวเองทำมันผิดจริงหรือเปล่า หรือว่าเลือกจะโพสต์ขอโทษเพราะหลีกเลี่ยงไม่ได้

15) เรื่องเมื่อเข้าสู่เดือนตุลาคม ทุกอย่างก็เหมือนจะจบ โดยในโลกออนไลน์มีเหตุการณ์ของแฟนๆ Meyou ที่โจมตีฝั่งอิลสลิกอยู่เป็นระยะ ขณะที่เรื่องทางกฎหมาย ถึงประเด็นรายได้ ที่มิวสร้างมาแล้วก่อนหน้านี้ โดยใช้ผลงานของอิลสลิก ก็อยู่ในขั้นตอนสอบสวนกันอยู่

16) ดราม่าเกิดขึ้นอีกระลอก ในวันที่ 13 พฤศจิกายน เมื่ออิลสลิก ปล่อยเพลงใหม่ในชื่อ Set Zero ซึ่งกระโดดขึ้นไปอยู่อันดับ 1 ในเทรนดิ้ง ของ Youtube อย่างรวดเร็วมาก

โดยเนื้อเพลงนั้น มีส่วนหนึ่งระบุว่า

“มึงควรจะภาวนาก็เพราะมันเกี่ยวกับเรทราคา
เสือกเอาไปขายเป็นโฆษณาแต่บอกไม่เกี่ยวกับเจตนา
มึงลอกไปได้แค่เศษ กูแค่สมเพชและเวทนา
น้องคงศึกษามาผิดประเภท

นี่มันไม่ใช่ประเทศกะลา
ควรหลบออกนอกประเทศ ถ้าหากว่ามึง Afraid ขึ้นมา
กูมีความเป็นปัจเจก So, Bitch, You Ain’t No Friend Of Mine
ไม่ต้องห่วงคอนเสิร์ตกูมีให้เล่นเหลือๆ
บอกแฟนคลับมึงกลับไปเล่นมะเขือ อย่าเสือกมาเล่นกับเสือ”

ขณะที่ใน MV เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่สวมหมวกไหมพรม กำลังวิ่งหนีตาย ซึ่งก็อนุมานได้ว่า คนนั้นใน MV อิลสลิกจงใจจะสื่อถึงมิวนั่นเองที่ใส่หมวกไหมพรมถ่าย MV เพลงภาวนา

17) ลักษณะเพลง Set Zero คือเพลง “ดิส” (Disrespect) ที่แต่งมาเพื่อโจมตีอีกฝ่ายโดยเฉพาะ ซึ่งแม้ฝั่งอิลสลิกจะไม่ได้ยืนยันว่า คนที่อยู่ในเพลงคือ Meyou แต่ก็เป็นอันรู้กันว่า ไม่มีคนอื่นอีกแล้ว ที่จะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้

18) เมื่อเพลง Set Zero ปล่อยออกมา ทำให้ฝั่ง Meyou โมโหหนักทันที โดยเฉพาะมือกลองของวง ได้โพสต์รัวๆใน IG ของตัวเองว่า

“อย่าใช้คำว่ารุ่นใหญ่เลย มึงมันเด็กกระโปกอยู่เลย เกาะกระแสไปเรื่อย สันดานแบบมึงเนี้ยเขารู้กันหมดแล้ว ไอ้คxย”

“โตเป็นควายแล้วยังเกาะกระแสเด็กอีกหรอวะ”

“เคยตามดูใน Youtube นะ มึงยังร้องผิดคีย์อยู่เลยไอ้สัสเอ้ย กูว่าทำไมไม่รับงาน 555555555″

เรียกได้ว่ามีการด่าโจมตีคืนกันอย่างดุเดือด ซึ่งล่าสุดผู้โพสต์ได้ลบข้อความเหล่านี้ใน IG ไปเรียบร้อย แต่ว่าดราม่าระหว่างแฟนคลับของสองกลุ่มก็เกิดขึ้นแล้ว และมีการแขวะกันไปมา ในหน้าพื้นที่วีดีโอของแต่ละคนกันอย่างดุเดือด

19) สำหรับสถานการณ์ล่าสุด Meyou ยังไม่ได้ออกมากล่าวถึงในประเด็นนี้ ขณะที่เพลงใจร้าย อีกหนึ่งเพลงของอิลสลิกโดนลบออกจากแชนแนล ของ Meyou ไปเรียบร้อยแล้ว โดยในแชนแนล ณ เวลานี้ เหลือวีดีโอเพียงแค่ 8 คลิปเท่านั้น

20) ขณะที่ฝั่งอิลสลิก ผู้จัดการส่วนตัวได้เปิดเผยว่า “จริงๆเราไม่ได้เจาะจงใครในภาพรวมของเพลง ไม่ได้มีการกล่าวถึงชื่อ แต่ก็อยากสื่อไปถึงทุกๆคน ในวงการนี้ด้วยว่า ไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ดังนั้นเพลง Set Zero ในมุมของศิลปิน เหมือนเป็นเพลงระบายความในใจ และแสดงทัศนคติมากกว่า”