เปิดแล้ว ‘LITTLE WALK’ กรุงเทพ-กรีฑา ปักธงทำเลทองแห่งอนาคต ย่านที่อยู่อาศัยลักชัวรี-กำลังซื้อสูง

บมจ.อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ หรือ ILM  เปิดโครงการ LITTLE WALK (แห่งที่ 4) สาขากรุงเทพ-กรีฑา ทุ่มงบกว่า 150 ล้านบาท บนพื้นที่ขาย 5,300 ตร.ม. ปั้นไลฟ์สไตล์ช้อปปิ้งมอลล์โซนกรุงเทพฯ ตะวันออก ตอบโจทย์คอมมูนิตี้การอยู่อาศัยสู่การใช้ชีวิตชานเมืองที่สมบูรณ์แบบอย่างลงตัว

นายเอกลักษณ์ ปัทมสัตยาสนธิ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายพัฒนาธุรกิจ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า LITTLE WALK ถือเป็น Business Model ขนาดเล็กแบบ Convenience Shopping Mall ออกแบบลักษณะ Strip Mall (ร้านค้าเรียงแถวในแนวเดียวกัน ซ้าย-ขวามีที่จอดรถสะดวกแก่การช้อป)

“บริษัทฯ ได้มองเห็นโอกาสและศักยภาพของทำเลโซนกรุงเทพฯ ตะวันออก ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2566 จึงเดินหน้าขยาย LITTLE WALK สาขากรุงเทพ-กรีฑา (สาขาแห่งที่ 4) จากปัจจุบันมีทั้งหมด 3 แห่ง ได้แก่ LITTLE WALK ลาดกระบัง,  LITTLE WALK บางนา และ LITTLE WALK พัทยา

โดยครั้งนี้ได้พัฒนาจากพื้นที่ขนาด 7 ไร่  ให้เป็นโครงการ “LITTLE WALK สาขากรุงเทพ-กรีฑา” ตั้งอยู่บนถนนกาญจนาภิเษก แขวงทับช้าง เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร

โดยจัดอยู่ในโซนกรุงเทพฯ ตะวันออก ที่เรียกได้ว่ามีการพัฒนาครบในทุกๆ ด้านอย่างต่อเนื่อง พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ทั้งห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ โรงเรียนนานาชาติและสถาบันการศึกษา โรงพยาบาล สนามกอล์ฟ รวมถึงโครงการที่อยู่อาศัยหลากรูปแบบมูลค่ารวมราวแสนล้านบาท

และบวกกับการเดินทางที่สะดวกสบายสามารถเชื่อมต่อถนนสายหลักหลายเส้นทาง ทั้งถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ (ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า) ตอบโจทย์การคมนาคมที่หลากหลาย ทั้งการเดินทางด้วยรถยนต์เข้า-ออกจากตัวเมืองง่าย สะดวก รวดเร็ว เชื่อมต่อบนถนนพระรามเก้า – มอเตอร์เวย์กรุงเทพฯ-ชลบุรี, เส้นทางขาออกของภาคตะวันออกไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ และจังหวัด ชลบุรี-ฉะเชิงเทรา-ระยอง และถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนตะวันออก)

โดยเชื่อมสู่ถนนเส้นหลักอย่างถนนกรุงเทพกรีฑา, พัฒนาการ, รามคำแหง, หัวหมาก พร้อมกับรองรับเส้นทางการเดินทางรถไฟฟ้า 2 สาย คือ สายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ตามแนวถนนศรีนครินทร์ และสายสีส้ม เชื่อมระหว่างกรุงเทพฯ ตะวันออกและตะวันตก (จะแล้วเสร็จปี 66)

รวมถึง รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์, รถไฟความเร็วสูง ที่เชื่อมต่อ 3 สนามบิน จากดอนเมืองมาสุวรรณภูมิ และจากสุวรรณภูมิไปอู่ตระเภาอีกด้วย

โดยภายในโครงการมีพื้นที่เช่ารวม 5,300 ตร.ม. รวมร้านค้าทั้งสิ้น 76 ร้าน เปิดประสบการณ์ใหม่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์อย่างครบครัน “ช้อป กิน ชิลล์”

มี Villa Market ซูเปอร์มาร์เก็ต เป็น Anchor หลักขนาดพื้นที่ 1,200 ตร.ม. รวมถึงร้านอาหารหลากหลายสไตล์ทั้งไทย เกาหลี ญี่ปุ่น จีน เม็กซิกัน เวียดนาม ร้านเบเกอรี่และเครื่องดื่ม, ร้านขายยา, คลินิกเสริมความงาม, คลินิกทำฟัน, ร้านนวด&สปา, โรงเรียนสอนพิเศษและเสริมทักษะสำหรับเด็ก, ร้านค้าเบ็ดเตล็ด, ร้านอุปกรณ์กอล์ฟ, Yoga-Pilates, สินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง รวมถึงบริการอื่นๆ

ด้วยศักยภาพของถนนกรุงเทพ-กรีฑา และละแวกใกล้เคียงมีการพัฒนาพื้นที่ย่านนี้อย่างก้าวกระโดด ทำให้ LITTLE WALK สาขากรุงเทพ-กรีฑา สามารถปิดดีลจากร้านค้าเช่า 100% ในเวลาไม่กี่เดือน

ทั้งนี้ จากปัจจัยหนุนของราคาที่ดินในย่านนี้ที่มีการปรับตัวสูงขึ้นแบบก้าวกระโดดราว 150% ในช่วงเวลา 10 ปี  (ปี 2555-2566) จะเห็นได้ว่าราคาซื้อขายที่ดินในปี 55 ราว 58,000บาท/ตร.ว. และปัจจุบันปี 66 ราคาซื้อขายราว 140,000บาท/ตร.ว.

อีกทั้งยังมี Developer แบรนด์อสังหาริมทรัพย์หลายรายเข้ามาพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง  มีทั้งโครงการบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรีมูลค่าระดับ 30-100 ล้านบาทหลายโครงการ รวมถึงทาวน์โฮม, คอนโด ฯลฯ

รวมถึงนักลงทุนที่ซื้ออสังหาฯ เพื่อปล่อยเช่า เนื่องจากทำเลนี้เปิดอัตราค่าเช่าดี-ราคาสูงกว่าทำเลอื่น ทั้งยังรองรับลูกค้าทั้งไทย-ต่างชาติ (ชาวยุโรป) ที่ทำงานในโรงเรียนนานาชาติในย่านนี้ รวมถึงกลุ่มนักธุรกิจชาวจีน

คาดว่า LITTLE WALK สาขากรุงเทพ-กรีฑา จะเป็นอีกจุดเช็กอินของนักช้อปทุกกลุ่มที่อยู่ย่านนี้ ทั้งลูกค้ากลุ่มครอบครัว 60%, พนักงานออฟฟิศ 20%, กลุ่มเด็ก 10% และอื่นๆ 10%

โดยชูจุดแข็งทำเลที่ดีที่สุด หาง่าย ดีไซน์โดดเด่น มีความครบครันของร้านค้าตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ สามารถรองรับที่จอดรถได้มากถึง 200 คัน

นอกจากนี้คาดการณ์จะมี Traffic จากลูกค้าที่สัญจรบนเส้นทางนี้เพื่อเดินทางไปโซนตะวันออกสู่พื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ครอบคลุม 3 จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง รวมถึงเมืองท่องเที่ยวต่างๆ ละแวกใกล้เคียง

“สำหรับแผนงานในอนาคต บริษัทฯ ตั้งเป้าขยายสาขา LITTLE WALK เพิ่มอีก 2 แห่งในปี 2567 เป็นไปตามแผนบริษัทฯ ที่ต้องการเพิ่มพื้นที่เช่าประมาณปีละ 5,000-8,000 ตร.ม. นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการหาพาร์ทเนอร์ใหม่ๆ ในรูปแบบการขยายธุรกิจหรือสร้างธุรกิจโมเดลใหม่ๆ ให้เข้าถึงและสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคมากที่สุด” เอกลักษณ์กล่าวทิ้งท้าย