แพทย์จุฬาฯ แนะการให้ความรู้เกี่ยวกับภาวะ Long COVID กับประชาชนมีความสำคัญ คู่ไปกับการเตรียมระบบตรวจรักษาและฟื้นฟู ล่าสุดในต่างประเทศพบผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 หายป่วยแล้วเกิดความผิดปกติของหลอดเลือดในสมอง
นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ข้อมูลเกี่ยวกับปัญหา Long COVID (ลองโควิด) ว่า ในต่างประเทศนั้นมีกรณีคนใหญ่คนโต นักการเมือง ดารา นักร้อง นักดนตรี นักกีฬา คนดัง หรือมีชื่อเสียง ติดโควิดแล้วประสบปัญหาลองโควิด โดยได้ออกมาถ่ายทอดประสบการณ์ให้สังคมได้รับทราบ เข้าใจ ตระหนักถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น และให้ความสำคัญกับการป้องกันตัวไม่ให้ติดเชื้อ ไม่ทราบเหมือนกันว่าในไทยนั้นมีหรือไม่ มากน้อยเพียงใด ที่แน่ๆ คือ ทุกสัปดาห์ที่ออกตรวจคนไข้ จะมีผู้ป่วยที่เคยติดโควิด-19 และมีอาการคงค้าง หรือเกิดภาวะผิดปกติในระบบต่างๆ ของร่างกาย มาปรึกษาอยู่ทุกครั้ง และมากขึ้นเรื่อยๆ
การให้ความรู้เกี่ยวกับ Long COVID แก่ประชาชนนั้นมีความสำคัญมาก ควบคู่ไปกับการเตรียมระบบบริการตรวจ รักษา ฟื้นฟูสภาพ และเหนืออื่นใด การป้องกันตัวไม่ให้ติดเชื้อย่อมดีที่สุด
อัปเดตความรู้เกี่ยวกับ Long COVID การติดเชื้อโรคโควิด-19 ทำให้เกิดความผิดปกติของหลอดเลือดในสมอง
ล่าสุดงานวิจัยจาก US NIH ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ด้านระบบประสาท Brain และเผยแพร่สรุปผลการศึกษาในเว็บไซต์ของ National Institute of Neurological Disorders and Stroke เมื่อ 7 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา
ทำการศึกษากลุ่มตัวอย่าง 9 คน อายุตั้งแต่ 24-73 ปี พบว่า หลังการติดเชื้อโรคโควิด-19 พบว่าระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ โดยทำให้เกิดการทำลายผนังหลอดเลือดในสมอง นำไปสู่โอกาสอุดตัน และกระบวนการอักเสบต่างๆ ของหลอดเลือดในสมองได้
กลไกความผิดปกติดังกล่าว จึงอาจเป็นหนึ่งในคำอธิบายการเกิดภาวะ Long COVID ในผู้ป่วยที่มีอาการผิดปกติทางสมองหรือระบบประสาทได้
ดังนั้นการป้องกันไม่ให้ติดเชื้อย่อมจะดีที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา Long COVID ในระยะยาว
วิธีปฏิบัติตัวในสถานการณ์ระบาดของไทย
- ใส่หน้ากากเสมอ เวลาออกตะลอนนอกบ้าน
- เลี่ยงการเข้าร่วมงาน/กิจกรรมที่มีคนจำนวนมาก หากจำเป็นต้องไป หรือทนไม่ไหวอยากไปจริงๆ ก็ป้องกันตัวให้ดี ไม่ถอดหน้ากากระหว่างงาน แยกตัวไปกินดื่มห่างจากคนอื่น ระหว่างพูดคุยควรใส่หน้ากาก
- เชียร์กีฬา ร้องเพลง โดดเล่นเต้นระบำ ควรใส่หน้ากาก และไม่ควรตะโกน เพราะจะเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อติดเชื้อกันมากขึ้น
- ออกกำลังกาย แบบเดี่ยวจะดีกว่ากลุ่ม กลางแจ้งจะดีกว่าอินดอร์ หากจะไปฟิตเนส ใส่หน้ากากจะดีกว่า และใช้เวลาสั้นๆ
- ไข้ ปวดหัว ปวดเมื่อยตามตัว ไอ เจ็บคอ คัดจมูก ท้องเสีย ให้นึกถึงโควิด-19 ด้วยเสมอในยามนี้ ตรวจ ATK ด้วยตนเอง
หากได้ผลบวก แยกตัวจากคนอื่นอย่างน้อย 10-14 วัน (ถ้าบางอาชีพต้องกลับไปทำงานก่อนเวลาที่บอกไว้ ก็ควรใส่หน้ากาก N95 หรือเทียบเท่า และระมัดระวังป้องกันตัวอย่างเคร่งครัดมากๆ จนครบ 14 วัน)
แต่หากมีอาการป่วย แต่ตรวจได้ผลลบ อย่าวางใจ เพราะมีโอกาสผลลบปลอมสูง อาการป่วยจะเชื่อได้มากกว่า ดังนั้นจึงควรตรวจ ATK ซ้ำเป็นระยะตลอดช่วงอาการป่วย หรือไปตรวจ RT-PCR ถ้าสงสัยและมีประวัติเสี่ยงชัดเจน ย้ำอีกครั้งว่า ด้วยข้อมูลทางการแพทย์ปัจจุบัน หากติดเชื้อแล้วแยกตัว 5 วันไม่เพียงพอ
“ใครจะว่าเอาอยู่ เพียงพอ เวฟเล็กๆ ก็ว่ากันไป คนหน้างาน และประชาชนในสังคมย่อมประเมินสถานการณ์รอบตัวด้วยตา และด้วยประสบการณ์ตรงของตนได้ว่าเป็นอย่างไร จากที่เห็น จากที่คลุกคลี บอกได้ว่า ไม่ใช่ การหนีความจริงนั้นยากนะครับ” นพ.ธีระ ระบุและว่า สุดท้ายแล้วที่ยากที่สุดคือ การมองหน้า สบตากับทุกคนได้อย่างสนิทใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน้าและสายตาของตนเองในกระจกที่ส่องทุกเช้าค่ำ และสมาชิกในครอบครัว
อ้างอิง : Lee M-H, et al. Neurovascular injury with complement activation and inflammation in COVID-19. Brain. 2022.
ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.facebook.com/thiraw