SHARE

คัดลอกแล้ว

“การออกแบบไม่ได้เป็นเรื่องราวของรูปทรงหรือสีสัน แต่แท้จริงแล้วคือเรื่องราวเบื้องหลังผลงานชิ้นนั้น” 

โอกิ ซาโตะ เจ้าของสตูดิโอออกแบบเนนโดะ (Nendo Studio) กล่าวเอาไว้ และนี่น่าจะเป็นไพ่ตายใบสำคัญ ที่ทำให้งานออกแบบแต่ละชิ้นของสตูดิโอแห่งนี้กว่าปีละร้อยชิ้น เข้าถึงความรู้สึกผู้คนทั่วโลกได้อย่างง่ายดาย และขายดีชนิดได้รับการว่าจ้างตลอดทั้งปี

เนนโดะเป็นสตูดิโอที่รับออกแบบตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ สถาปัตยกรรม ตกแต่งภายใน ไปจนถึงการทำงานร่วมกันแบรนด์ดังทั่วโลกเพื่อสร้างสรรค์สินค้าคอลเล็กชั่นใหม่ๆ นำเสนอความรู้สึกแปลกใหม่ให้กับผู้คนในทุกช่วงวัย โดยล่าสุด เนนโดะได้ร่วมงานกับกระเป๋าแบรนด์ฝรั่งเศสที่ได้รับความนิยมในหมู่คนไทยมาเป็นระยะเวลาหลายปีอย่าง ลองฌอมป์ (Longchamp) โดยนำกระเป๋ารุ่นไอคอน เลอ ปลิยาจ (Le Pliage) มาดีไซน์ใหม่ ใส่ตัวตนความเป็นเนนโดะเข้าไป ในคอลเล็กชั่นพิเศษ Le Pliage x Nendo

ย้อนกลับไปราว 26 ปีที่แล้วในปี 1993 กระเป๋าลองฌอมป์ เลอ ปลิยาจ ถูกออกแบบโดยฟิลิป กาสแกร็ง (Philippe Cassegrain) ทายาทของแบรนด์ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะการพับกระดาษเก่าแก่ของญี่ปุ่น ‘โอริงามิ’ เลอ ปลิยาจ จึงเป็นกระเป๋าไนลอนที่พับเก็บได้เป็นทรงสี่เหลี่ยมจตุรัตเล็กๆ พกสะดวกเวลาเดินทาง ที่มีทำหูกระเป๋า และช่วงฝาปิดกระเป๋าทำโดยหนังรัสเซียน

การกลับมาใหม่ของเลอ ปลิยาจ ในปี 2019 ผ่านฝีมือการตีความใหม่ของสตูดิโอเนนโดะ เราบอกได้ว่ามันสร้างความตื่นเต้นแปลกใหม่อยู่ไม่น้อย เพราะในขณะที่โปรดักส์ยังคงความรู้สึกเรียบง่าย แต่ก็แฝงความหวือหวา ผ่านลูกเล่นการดีไซน์ที่สมศักดิ์ศรีของโอกิ ซาโตะ

Le Pliage x Nendo นำเสนอกระเป๋า 3 รูปทรงเรขาคณิต ทั้งทรงลูกเต๋า ทรงกรวย และทรงกลม ทั้งหมดดีไซน์เรียบง่าย ใช้ได้จริง โดยมีฟังก์ชั่นที่เพิ่มขึ้นมากกว่าเลอ ปลิยาจ รุ่นเบสิก เพราะทั้ง 3 รูปทรง สามารถพับได้ 3 แบบ 1. พับเก็บ 2. พับใช้งาน และ 3. พับเพื่อตกแต่งบ้าน

เลอ ปลิยาจ ทรงลูกเต๋า ซึ่งมาด้วยกัน 3 ไซซ์ สามารถพับให้กลายเป็นกล่องเก็บของใช้ภายในบ้าน ส่วนทรงกรวย ซึ่งวางขาย 2 ไซซ์ เมื่อพับให้เล็กลงและประกอบเข้ากับส่วนที่จับ สามารถใช้ห้อยในตู้เสื้อผ้า หรือเก็บแอคเซสเซอรีต่างๆ ได้ ขณะที่กระเป๋าทรงกลม ซึ่งได้รับอิทธิพลการออกแบบมาจากการห่อผ้าญี่ปุ่นโบราณฟุโรชิกินั้น จะแขวนตกแต่งบ้านก็สวยไปอีกแบบ แต่หากใช้งาน ก็สามารถจุของได้ตามต้องการ ซึ่งขนาดและรูปร่างกระเป๋าจะยืดหยุ่นไปตามจำนวนของที่ถูกบรรจุ

Sophie Delafontaine ครีเอทีฟ ไดเร็กเตอร์ ของ ลองฌอมป์ เผยว่า สิ่งที่น่าประทับใจเกี่ยวกับการออกแบบของสตูดิโอเนนโดะ ก็คือการที่ดีไซน์ใหม่ยังคงเอกลักษณ์ความเป็นเลอ ปลิยาจ ไว้อย่างชัดเจน

“เนนโดะเคารพเอกลักษณ์ของเลอ ปลิยาจ อย่างยิ่ง พวกเขาต้องการรักษาดีเอ็นเอของสินค้าออริจินัลเอาไว้ ทั้งผ้าไนลอน หนังรัสเซียน และการพับเก็บได้ โดยนำเสนอผ่านวิธีการพับใหม่ทั้งหมด”

โอกิ ซาโตะ เจ้าของสตูดิโอออกแบบเนนโดะ

ดีไซน์ของเนนโดะ

หากพูดถึงลองฌอมป์ รุ่น เลอ ปลิยาจ เรามักนึกถึงคำว่า ‘คลาสสิก’ ส่วนเนนโดะ การออกแบบของเขา มักสื่อสารความ ‘เรียบง่าย’ แต่เปี่ยมด้วย ‘ความหมาย’

สตูดิโอเนนโดะ ก่อตั้งโดยโอกิ ซาโตะ หลังจากเขาจบปริญญาโทจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยวาเซะดะ ในกรุงโตเกียว หลังจากนั้นเป็นต้นมา งานออกแบบของเขาก็ได้สั่นสะเทือนวงการในระดับโลก ผ่านปรัชญาการออกแบบที่ว่า ‘งานดีไซน์ที่ดีคืองานที่ทุกคนเข้าถึงได้’ โดยที่ไม่ต้องเข้าใจองค์ประกอบพื้นฐานการออกแบบใดๆ หรือไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ เด็ก หรือแก่ชราก็ตาม

งานออกแบบของซาโตะอาจกล่าวได้ว่า สากกะเบือยันเรือรบของจริง เพราะเขาออกแบบทั้งสถานที่ อย่างห้างสรรพสินค้าสยามดิสคัฟเวอรีโฉมใหม่ของบ้านเรา ก็มีเขาเป็นหัวหน้าทีมออกแบบ ภายในคอนเซ็ปต์ห้างที่เชื่อมถึงกันทุกในทุกพื้นที่ เขายังได้รับว่าจ้างในการออกแบบศิลปะจัดวาง รวมไปถึงดีไซน์ถ้วยราเมงสำหรับงานนิทรรศการ มีดโดนหนวดสำหรับขายจริง ฯลฯ ซาโตะเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า การออกแบบของเขานั้นคือการทดลองที่ไม่มีที่สิ้นสุด

“นักออกแบบก็เหมือนเชฟแหละครับ ถ้านักออกแบบคนอื่นคิดดีไซน์จากผักหรือเนื้อสัตว์ ผมจะเป็นนักออกแบบที่เหมือนคุณแม่เสียมากกว่า คุณแม่ที่เปิดตู้เย็นเพื่อดูว่าในตู้เย็นมีอะไรบ้างสำหรับเป็นวัตถุดิบในการทำอาหาร และพบว่ามีวัตถุดิบอย่างนั้นนิด อย่างนี้หน่อย ไอเดียของผมมักจะเกิดมาจากจุดนั้น” ซาโตะให้สัมภาษณ์กับ GQ British ไว้เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยในหนึ่งปีเขาทำงานมากกว่า 100 โปรเจ็กต์ แม้ว่าการออกแบบของเนนโดะจะเน้นความเรียบง่าย มินิมัล และใช้ได้จริง อันเป็นสไตล์แบบเจแปนนิสก็จริง แต่สิ่งสำคัญที่ทำให้ทำให้งานออกแบบของเนนโดะโดดเด่น ก็คือการนำเสนอผ่านสื่ออันหลากหลายโดยไม่ยึดติดกับรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง และการค้นหาข้อมูลและแรงบันดาลใจผ่านสิ่งรอบตัวในชีวิตประจำวัน ที่สามารถสร้างความรู้สึกร่วมให้กับผู้คนที่ได้รับชม ซึ่งนั่นก็คือ ความหมายของ ‘เนนโดะ’ ที่แปลว่าดินเหนียว และมักถูกใช้อย่างยืดหยุ่นเพื่อขึ้นรูปวัตถุต่างๆ

อีกหนึ่งสิ่งที่การออกแบบเนนโดะที่โดดเด่นก็คือ การสอดแทรกอารมณ์ขัน และความประหลาดใจไว้ในแต่ละดีไซน์ร่วมเข้าไปด้วย เบื้องหลังแนวคิดดังกล่าว ทางสตูดิโอเนนโดะบอกว่า ในแต่ละวัน ทุกๆ คนมักจะมีจังหวะชีวิตที่เหมือนเครื่องหมายตกใจ ‘!’ เป็นโมเมนต์ที่มักจะเอ๊ะ หัวเราะ หรือฉุกใจขึ้นมาสั้นๆ แล้วลืมมันไปอย่างรวดเร็ว การออกแบบของเนนโดะก็คล้ายกัน อยากให้เป็นดีไซน์ที่สร้างช่วงเวลา ‘!’ ให้กับทุกคน แม้ว่าจะมีความรู้ หรือไม่มีความรู้เกี่ยวกับการออกแบบใดๆ เลยก็ตาม

Ribbon Stool หนึ่งในผลงานโดดเด่นของเนนโดะ ที่ได้รับแรงบันดาลใจการออกแบบมาจากท่วงท่าอันอ่อนช้อยของนักเต้นบัลเลต์ ออกแบบในปี 2007 ร่วมกับสตูดิโอเฟอร์นิเจอร์ Studio Cappellini จากอิตาลี การออกแบบอันชาญฉลาดเปลี่ยนให้วัสดุเหล็กดูอ่อนช้อย นุ่มนวล (ภาพจาก : cappellini.com)

Cabbage chair (2007) อีกหนึ่งดีไซน์ในตำนานของซาโตะ ที่ทำร่วมกับ ISSEY MIYAKE วัสดุที่ใช้คือกระดาษอัดพลีต ซึ่งการอัดพลีตถือเป็นภาพจำสำคัญของ ISSEY MIYAKE ม้วนกระดาษพลีตหนาแน่นสามารถเปิดได้ทีละชั้นออกมาเป็นเก้าอี้นั่งที่ให้ความสบายเหนือความคาดหมายจากที่ตาเห็น นอกจากนี้การนำวัสดุกลับมาใช้ใหม่ ความมินิมัลในการพับเก็บ สร้างมูลค่าเพิ่มในแง่ดีไซน์เพื่อความยั่งยืน

หลายครั้งที่ชมงานดีไซน์ของเนนโดะ เราจึงมักเห็นความเป็นระเบียบ เรียบง่าย แต่ก็มีความแอบขบถอยู่ในตัวอย่างบอกไม่ถูกในบางครั้ง มันแปลกตา แต่ก็ให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลายไปในเวลาเดียวกัน ซึ่งในการคอลแลปส์กับลองฌอมป์ในครั้งนี้ เราถือว่าเป็นอีกหนึ่งการออกแบบที่โดดเด่นและติดตาจากสตูดิโอเนนโดะ ก่อนหน้านี้กระเป๋าเลอ ปลิยาจ ออริจินัล ถูกนำเสนอภาพจำที่แม่นยำผ่านการพับ 2 แบบ คือ พับเก็บ และใช้งาน การเพิ่มรูปแบบพับเป็น 3 แบบจากเนนโดะ และเพิ่มฟังก์ชันจากกระเป๋าสำหรับพกพาและถือ เป็นกระเป๋าสำหรับตกแต่งบ้าน ตลอดจนการเลือกใช้รูปทรงเรขาคณิต และสีสันประหลาดตาแบบที่ลองฌอมป์ไม่เคยเลือกใช้มาก่อน จึงถือเป็นการนำเสนอทางเลือกแปลกใหม่ ที่เคารพเอกลักษณ์ของแบรนด์กระเป๋าฝรั่งเศส และรักษาความเป็นตัวของตัวเองฉบับเนนโดะได้อย่างครบถ้วน

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า