อำเภอในพื้นที่ลุ่มต่ำลพบุรี เริ่มได้รับผลกระทบจากมวลน้ำ จากพื้นที่ตอนบนของจังหวัดแล้ว กรมชลประทานประสานผู้ว่าฯ เตรียมแผนช่วยเหลือประชาชน
วันที่ 28 ก.ย. 2564 นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานกล่าวถึงสถานการณ์น้ำในจังหวัดลพบุรี ว่า หลังมีฝนตกหนักมากติดต่อกันในช่วง 23 – 25 ก.ย. ที่ผ่านมาทั่วทั้งจังหวัดลพบุรี ทำให้น้ำป่าจากพื้นที่ทางตอนบนของจังหวัด ได้แก่ อำเภอสระโบสถ์, อำเภอโคกเจริญ, อำเภอหนองม่วง และอำเภอโคกสำโรง ไหลตามเส้นทางน้ำมาถึงพื้นที่ตำบลดงพลับ และตำบลหนองเมือง อำเภอบ้านหมี่ ตั้งแต่เมื่อเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 26 ก.ย.
โดยปริมาณน้ำจากพื้นที่ทางตอนบนของจังหวัดลพบุรีจะไหลต่อเนื่องลงมาสะสมในพื้นที่ริมคลองชัยนาท – ป่าสัก ฝั่งตะวันออก โดยระดับน้ำจะเพิ่มขึ้นช้าๆ แผ่กว้างออกไปตามลำดับ
ตั้งแต่พื้นที่ตำบลหนองกระเบียน
ตำบลหนองเมือง
ตำบลบ้านกล้วย
ตำบลบ้านทราย
ตำบลหนองทรายขาว
และจะไปสะสมที่ตำบลพุคา
ซึ่งคาดว่าจะมีน้ำท่วมสูงประมาณ 80 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร 20 เซนติเมตร
ขณะเดียวกันกรมชลประทานได้ปรับลดการรับน้ำเข้าคลองชัยนาท – ป่าสัก ที่ประตูมโนรมย์ อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท จาก 16 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เหลือเพียง 4 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เพื่อพร่องน้ำลดระดับน้ำในคลองและเดินเครื่องสูบน้ำของสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าทั้ง 11 แห่ง สามารถสูบน้ำได้วันละ 2,500,000 ลูกบาศก์เมตร ลงสู่คลองชัยนาท-ป่าสัก เพื่อระบายลงสู่แม่น้ำป่าสักต่อไป โดยน้ำส่วนนี้จะไม่ไหลเข้าพื้นที่ฝั่งตะวันตกของคลองชัยนาท – ป่าสักในเขตอำเภอท่าวุ้งและอำเภอบ้านหมี่
นายประพิศ กล่าวต่อว่า ได้ประสานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำให้ประชาชนในทุกอำเภอได้เตรียมความพร้อมทุกด้าน และพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนทันที โดยให้วางแผนอพยพ กำหนดจุดพักพิงสำหรับประชาชน และขนย้ายประชาชนออกจากพื้นที่เพื่อเกิดความปลอดภัยนอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากหน่วยทหารในพื้นที่ ซึ่งสนับสนุนทั้งกำลังพล เครื่องมือ อุปกรณ์กู้ชีพกู้ภัย
ขณะนี้จังหวัดลพบุรีมีพื้นที่ได้รับผลกระทบรวม 10 อำเภอ (จาก 11 อำเภอ) 83 ตำบล 647 หมู่บ้าน 25 ชุมชน ประชาชนได้ผลกระทบ 55,197 คน มีผู้อพยพไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว 120 คน และมีพื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 2,000 ไร่