เกาะติดสถานการณ์ไฟป่าแคลิฟอร์เนีย มีธุรกิจ–ชุมชนคนไทยได้รับผลกระทบแล้วขณะกงสุลใหญ่เตือนยังต้องติดตามข่าวสารและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดแม้สถานการณ์มีแนวโน้มดีขึ้น

ความคืบหน้าสถานการณ์ไฟป่ารุนแรงในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ ล่าสุด มีรายงานว่าพบผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 24 รายและยังคงมีผู้สูญหายอีกจำนวนหนึ่งโดยในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาสถานการณ์เริ่มมีแนวโน้มดีขึ้นเจ้าหน้าที่สามารถดับเพลิงได้สำเร็จในหลายจุด

แต่ยังมีพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังและน่ากังวลอยู่ 2 จุด คือไฟป่าพาลิเซดส์ ซึ่งขยายวงครอบคลุมพื้นที่ไปแล้วเกือบ 60,000 ไร่ ตอนนี้สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้เพียง 13% และไฟป่าอีตัน ที่ลุกไหม้กินพื้นที่ไปแล้วมากกว่า 14,000 ไร่ เพิ่งควบคุมเพลิงไปได้แค่ 27%

ในขณะเดียวกัน ยังมีคำเตือนจากสำนักงานอุตุนิยมวิทยาด้วยว่า ในช่วงวันที่ 13-15 ม.ค. กระแสลมจะเริ่มกลับมาแรงขึ้นอีกครั้งส่งผลให้เกิดความกังวลว่ากระแสลมอาจทำให้ขอบเขตขยายเป็นวงกว้างอีกครั้ง

โดยเมื่อวานนี้ (12 ม.ค.)  คริสตินโครว์ลีย์หัวหน้าหน่วยดับเพลิงนครลอสแอนเจลิสออกมาแถลงว่าเจ้าหน้าที่กำลังจับตากระแสลมอย่างใกล้ชิดพร้อมเตือนให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางการรวมถึงปฏิบัติตามคำเตือนคำแนะนำหรือคำสั่งให้อพยพอย่างเคร่งครัดโดยไม่รีรอเพื่อความปลอดภัย

ธุรกิจคนไทยได้รับผลกระทบ

สำนักข่าววีโอเอไทย ออกมารายงานสถานการณ์ไฟป่าในรัฐแคลิฟอร์เนีย ระบุว่า มีธุรกิจของคนไทยในสหรัฐฯ ได้รับผลกระทบจากไฟป่าครั้งรุนแรงนี้

โดยหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ คือร้านอาหารไทยที่มีชื่อว่า  ชลดาไทย บีช คูซีน ตั้งอยู่ในเมืองมาลิบู ทางเหนือของนครลอสแอนเจลิส ซึ่งเป็นร้านที่เปิดกิจการมาตั้งแต่ปี 1990  ถูกไฟป่าพาลิเซดส์ เผาผลาญจนได้รับความเสียหายทั้งหมด

คุณนิกร ศรีวิชัยรำพัน เจ้าของร้านชลดาไทย บีช คูซีน เปิดเผยกับวีโอเอไทย ว่ารู้สึกเสียใจ และยังทำใจรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ ที่ต้องสูญเสียธุรกิจร้านอาหารที่ดำเนินกิจการ และทำงานมาตั้งแต่เข้ามาทำหน้าที่พ่อครัวตั้งแต่ปี ค.ศ.1999 ก่อนจะก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าของกิจการ พัฒนาจนเป็นหนึ่งในร้านที่ได้รับความนิยมของคนท้องถิ่นมายาวนาน

คุณนิกร เล่าว่า ในช่วงก่อนเกิดเหตุมีการแจ้งเตือนว่าอาจมีลมแรง และไฟฟ้าอาจจะดับได้ แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุกับที่ร้าน ก่อนที่เวลาประมาณเที่ยงวัน มีพนักงานที่ร้านโทรมาบอกว่าไฟเริ่มลุกลามเข้ามาใกล้ที่ร้าน จนต้องบอกให้พนักงานอพยพหนีออกมา ก่อนจะทราบภายหลังว่าทั้งร้านถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหลัง

ส่วนคนไทยอีกคนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน คือ คุณรุ่งฟ้า ยะชะระ บัทเลอร์ เป็นพักอาศัยอยู่ที่เมืองแปซิฟิค พาลิเสดส์  เปิดเผยกับวีโอเอไทย ว่า เธอต้องพาอาศัยสมาชิกในบ้านอีก 7 คน รวมทั้งสัตว์เลี้ยง สุนัข แมว และเร่งอพยพหนีไฟป่าอออกจากพื้นที่อย่างเร่งด่วน

คุณรุ่งฟ้า ยังบอกด้วยว่า เธอได้รับข่าวแจ้งเตือนว่าจะมีกระแสลมแรง 1-2 วันล่วงหน้าแต่ไม่ทราบว่าพื้นที่บริเวณใกล้บ้านจะเป็นพื้นที่เสี่ยงกับเหตุไฟป่าและไม่ได้รับการแจ้งเตือนก่อนหน้าไฟป่าลุกลาม

จากนั้นพบว่า ไฟไหม้ป่าเริ่มเกิดขึ้นประมาณ 10.45 น. ของเช้าวันที่ 7 ม.ค. โดยบ้านของเธออยู่ริมถนนตอนกลางของภูเขาที่มีไฟลุกลามลงมา โดยห่างจากจุดต้นเพลิงประมาณ 5 นาที

คุณรุ่งฟ้ากล่าวว่า สถานการณ์ตอนนั้นมีรถหลายคันหนีไฟจากด้านบนเขามา ทำให้การจราจรติดขัด รถไม่สามารถเคลื่อนที่ไปไหนได้ เพราะรถมาจอดคาอยู่บริเวณด้านหน้าบ้านจำนวนมาก ต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมง ถึงจะอพยพลงมาได้ ซึ่งช่วงนั้นเริ่มมีไฟไหม้ทั้งสองข้างทาง โดยเธอขับรถพาสมาชิกในครอบครัว 7 ชีวิตหนีรอดมาได้อย่างหวุดหวิด

แต่จนขณะนี้ยังไม่ทราบว่าที่บ้านได้รับความเสียหายหรือไม่ ซึ่งในช่วงเวลาที่อพยพลงมาได้เช่าโรงแรมเป็นที่พักชั่วคราว และสมาชิกอีกส่วนหนึ่งต้องอาศัยบ้านญาติ

ขณะที่ คุณนิธิ ปลื้มหทัยกิจ ซึ่งทำธุรกิจร้านซูชิ อยู่ที่เมืองแปซิฟิค พาลิเสดส์ เช่นเดียวกัน ออกมาเล่าให้ วีโอเอไทยฟังว่า ทราบข่าวแจ้งเตือนว่าในวันที่ 7-8 ม.ค. ว่าจะมีกระแสลมแรง

แต่ในวันที่เกิดเหตุไม่ได้รับการแจ้งเตือนใดๆ และโดยปกติร้านจะเปิดบ่ายสามโมง ทำให้ในวันนั้นไม่มีพนักงานอยู่ที่ร้าน แต่มีหนึ่งในหุ้นส่วนอีกคนได้เดินทางไปดูที่ร้านประมาณเที่ยง ซึ่งตอนนั้นไฟเริ่มลามเร็วมาก จึงต้องหลบภัยลงมา สถานการณ์ล่าสุดยังไม่ทราบว่าที่ร้านเป็นอย่างไร หรือได้รับความเสียหายอย่างไร

ย่านไทยทาวน์ในลอสแอนเจลิสยังปลอดภัย

ส่วนอีกจุดหนึ่งที่หลายคนกำลังกังวลคือย่านไทยทาวน์ในนครลอสแอนเจลิสซึ่งเป็นไทยทาวน์แห่งแรกในโลกและมีชุมชนคนไทยอาศัยอยู่จำนวนมาก

ล่าสุด ช่องยูทูป MOSSALA 101 ออกมาให้ข้อมูลว่าขณะนี้ชุมชนคนไทยในย่านนี้ยังคงปลอดภัยไม่ได้รับผลกระทบจากไฟป่าผลกระทบในขณะนี้ที่เกิดขึ้นมีเพียงฝุ่นควันในอากาศ

โดยย่านไทยทาวน์ตั้งอยู่ห่างจากจุดไฟป่าซันเซ็ตในบนฮอลลีวูดฮิลล์เพียงแค่ 5 กิโลเมตรแต่โชคดีที่ไฟบริเวณดับไปหมดแล้ว

อย่างไรก็ตามชุมชนคนไทยในนครลอสแอนเจลิสมีการเตรียมความพร้อมในกรณีที่มีคำสั่งให้อพยพหรือเกิดเหตุฉุกเฉินไว้แล้ว

กงสุลใหญ่ลอสแองเจลิสเตือนยังต้องเฝ้าระวัง

เมื่อวันอาทิตย์ (2 ม.ค.) นายต่อ ศรลัมพ์ กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส โพสต์คลิปวิดีโออัปเดตสถานการณ์บนอินสตาแกรมของสถานกงสุลใหญ่ฯ ระบุว่า สถานการณ์ในวันอาทิตย์ ซึ่งนับเป็นวันที่ 6 ที่ไฟป่าปะทุขึ้นมา ล่าสุดสถานการณ์ดีขึ้นมากแล้ว โดยเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้ในหลายๆ จุด บางจุดก็สามารถดับเพลิงได้ 100% แล้ว 

ขณะที่สภาพอากาศโดยรวมก็ดีขึ้นกว่าหลายๆ วันที่ผ่านมา แต่ยังต้องเฝ้าระวังด้วยความไม่ประมาท เพราะยังมีคำสั่งอพยพในหลายพื้นที่

นอกจากนี้กงสุลใหญ่ฯยังได้กล่าวขอบคุณและชื่นชมอาสาสมัครชาวไทยทุกคนที่ออกมาระดมความช่วยเหลือและสนับสนุนพี่น้องคนไทยด้วยกัน

พร้อมกับเตือนให้ประชาชนติดตามข่าวสารและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีคำสั่งอพยพรวมถึงเฝ้าระวังคนร้ายที่อาจจะฉวยโอกาสในช่วงนี้

และให้ระมัดระวังเรื่องการบริโภคน้ำประปาในบางพื้นที่ เนื่องจากน้ำประปาเริ่มมีสารปนเปื้อน ไม่สามารถใช้ดื่มได้ทันที ต้องต้มให้เดือดก่อน และยังเตือนให้ระวังเรื่องลมกรรโชกแรง เพราะมีพยากรณ์อากาศ แจ้งมาว่า ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันพุธ จะมีกระแสลมแรงกลับขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งอาจจะส่งผลให้ไฟป่าที่อาจจะมอดไปแล้วกลับมาขยายวงกว้างได้อีก

โดยสถานกงสุลใหญ่ฯระบุว่าผู้ประสบภัยหรืออยู่ในพื้นที่เสี่ยงควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้

1. โทรศัพท์แจ้งหน่วยงานของรัฐในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง หรือหมายเลข 911

2. ประเมินสถานการณ์หากต้องเตรียมการอพยพออกจากพื้นที่/รับฟังข่าวสารจากทางราชการ

3. นำเอกสาร/สิ่งของสำคัญไว้ในกระเป๋าเดินทาง มีความพร้อมหากต้องอพยพออกจากพื้นที่

4. จัดเตรียม Emergency Kit ให้พร้อม

ทั้งนี้ คนไทยที่ประสบภัย สามารถติดต่อศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินในการช่วยเหลือคนไทย ได้ที่หมายเลข 323-962-9574 หรือที่หมายเลขฉุกเฉิน 323-580-4222 ตลอด 24 ชั่วโมง