Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ดูหรือยัง เอ็มวีเพลง “ตุ๊กแกแลรัก” ประกอบภาพยนตร์รักขำซึ้ง แบบแรปๆ “รัก 2 ปี ยินดีคืนเงิน” คว้า “KQ” แท็กทีม “เคนน้อย” กอดคอ “ปั้นจั่น-เอสเธอร์” แรปมันๆ พร้อมเรื่องย่อ

ส่งเอ็มวีเพลง “ตุ๊กแกแลรัก” เพลงประกอบภาพยนตร์แนวรักกวนๆ ออกมาให้ได้ครื้นเครงกันแล้ว กับภาพยนตร์แนวรักขำซึ้งปนแรปๆ ในเรื่อง “รัก 2 ปี ยินดีคืนเงิน”  ที่มีโปรแกรมฉายวันแรก 20 มิถุนายนที่จะถึงนี้ ทุกโรงภาพยนตร์ งานนี้ บริษัท ซีเจ เมเจอร์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด, บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ จำกัด ไม่รอช้า

สานต่อความแรง ส่งความสนุกต่อเนื่อง คว้าตัวสองหนุ่มแรปเปอร์ชื่อดัง KQ และ เคนน้อยร้อยลีลา มาแต่งคำร้อง เพลงตุ๊กแกแลรัก พร้อมร้องแรปแบบสนุกๆ สำหรับประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ พร้อมทั้งสองหนุ่มยังชวนพระเอกนางเอกของเรื่องอย่าง “เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา” และ “ปั้นจั่น – ปรมะ อิ่มอโนทัย” มาร่วมวาดลีลาเต้นกวนๆ อย่างเมามัน ปะทะสองหนุ่มแร็ปเปอร์ได้อย่างสนุกสนาน

ติดตามรับชมเอ็มวีเพลงตุ๊กแกแลรักที่ใช้ประกอบภาพยนตร์เพลงนี้กันได้ในทุกๆ ช่องทางแล้ววันนี้ และอย่าพลาดกับภาพยนตร์แนวโรแมนติก คอมเมดี้ เรื่อง “รัก 2 ปี ยินดีคืนเงิน” นำแสดงโดย “เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา” และ “ปั้นจั่น – ปรมะ อิ่มอโนทัย” ผลงานการกำกับของ “โจ้ – วิรัตน์ เฮงคงดี” หนึ่งในผู้กำกับน้ำดีของวงการภาพยนตร์ไทย ที่จะมีโปรแกรมฉายวันแรก 20 มิถุนายนที่จะถึงนี้ ทุกโรงภาพยนตร์ กันด้วยนะจ๊ะ…

ติดตามความเคลื่อนไหวของภาพยนตร์กันได้ที่ https://www.facebook.com/LoveBattleMovie/

เรื่องย่อภาพยนตร์

“แทน” (ปรมะ อิ่มอโณทัย) นักคณิตศาสตร์ประกันภัย ผู้หาค่าสถิติประกันภัยที่คำนวณ แม้กระทั่งความสัมพันธ์ของคู่รัก หลังจากถูกแฟนสาวของเขาหักหลังอย่างเจ็บปวด ก็เกิดปิ๊งไอเดียประกันภัยรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า “Love Insurance” หรือกรรมธรรม์ประกันรักแท้ 2 ปี ทวีทรัพย์ ซึ่งเป็นแบบประกันที่รับประกันเงินคืน 100% พร้อมดอกเบี้ยอีก 30% สำหรับคู่รักผู้ถือกรมธรรม์ หากพวกเขาไม่เลิกกันภายในเวลา 2 ปี หลังจากเซ็นสัญญา

หลังจากเปิดตัวแนวคิดประกันรูปแบบดังกล่าว ก็ได้รับความสนใจมากมาย แต่คณะกรรมการของบริษัท ต้องการให้เขาค้นหาข้อมูลเพื่อพิสูจน์ว่า ผู้ถือกรมธรรม์ส่วนใหญ่จะเลิกกันในไม่ช้า ก่อนจะถึงเวลา 2 ปี ตามสัญญา โดยมี “จี๊ด” (เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา) อดีตพนักงานบริษัทจัดหาคู่ ที่ถูกย้ายมาอยู่ในทีมของ “แทน” ช่วยรวบรวมข้อมูลให้ แต่เธอเป็นผู้หญิงที่เชื่อว่า ความรักไม่สามารถคำนวณหรือวัดได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความเชื่อของ “แทน” ในขณะที่พวกเขาออกเดินทางเพื่อค้นหาคำตอบว่า ผู้ถือกรมธรรม์จะเลิกกันหรือไม่ การต่อสู้ของพวกเขาที่มีเดิมพันเป็นศักดิ์ศรีก็ได้เริ่มต้นขึ้น

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาพยนตร์

แนวคิดอันน่าสนใจของประกันภัยรัก ที่จะถูกเล่าผ่านผลงาน จากการร่วมมือกันของมืออาชีพจากทั้งไทยและเกาหลี

ที่มาของประกันความรัก

ประกันภัยรูปแบบใหม่ ที่ไม่ว่าใครก็คงไม่เคยได้ยิน ไม่เคยได้เห็นมาก่อน จะถูกนำเสนอต่อทุกคนคนผ่านภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ และความอบอุ่นหัวใจ

ในยุคปัจจุบัน ทุกอย่างล้วนเป็นไปอย่างรวดเร็ว การตัดสินใจของผู้คนก็เช่นเดียวกัน ระยะเวลาของความสัมพันธ์ของคู่รักรุ่นใหม่อยู่ที่น้อยกว่า 2 ปี โดยเฉลี่ย

จากแรกตกหลุมรัก การรักษาความรู้สึกเช่นวันแรกให้นานกว่า 2 ปี ไว้เป็นเรื่องยาก เพราะความรักนั้นจะค่อยๆ จางหายไป โดยมีการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ แสดงให้เห็นว่า ความรู้สึกรักนั้นจะใช้ระยะเวลาน้อยกว่า 600 วัน จึงเป็นที่มาของประกันรัก 2 ปี ทวีทรัพย์

การร่วมมือระหว่างมืออาชีพจากประเทศเกาหลีและไทย

บทดั้งเดิมมาจากสองนักเขียนชาวเกาหลีใต้ “คิม มินยอง” และ “ชเว จินวอน” เรื่องนี้ถูกเลือกมาโดยโปรดิวเซอร์ “โยนู ชเว” เพื่อมาดัดแปลงให้เนื้อหาที่มีความน่าสนใจอยู่แล้ว มีความเป็นไทยมากขึ้น โดยผู้กำกับ “โจ้ วิรัตน์ เฮงคงดี” หลังจากการระดมความคิดและประชุมบทอยู่หลายครั้ง เนื้อเรื่องจึงเสร็จสมบูรณ์

เบื้องหลังการคัดเลือกนักแสดง

การคัดเลือกนักแสดงมารับบทบาทจี๊ดและแทนนั้นค่อนข้างยาก เนื่องด้วยนักแสดงต้องมีความเป็นธรรมชาติในการแสดงอารมณ์ เพื่อให้ผู้ชมได้เข้าถึงเนื้อเรื่องและแนวคิดของประกันภัยแนวใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน

เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา นักแสดงสาวที่ได้รับความนิยมจากบทบาทในผลงานต่างๆ ที่ผ่านมา เช่น รักไม่เอาถ่าน (2560), เธอคือพรหมลิขิต (2560), เงาอโศก (2559),  U-Prince Series (2559), Ugly Duckling Series (2559), เล่ห์รตี (2558) โดยครั้งนี้จะเป็นการรับบทนำในภาพยนตร์เป็นครั้งแรก หลังจากที่ได้พูดคุยเพื่อทำความเข้าใจในตัวละครกับผู้กำกับแล้ว ความน่ารักสดใสเป็นธรรมชาติทำให้เอสเธอร์ได้รับคะแนนจากผู้ชมรอบพิเศษไปอย่างล้นหลาม

ปั้นจั่น ปรมะ อิ่มอโนทัย ดาราหนุ่มขี้เล่นอบอุ่น มารับบทเป็นผู้ชายเย็นชาและจริงจัง ปั้นจั่นทำได้เป็นอย่างดี และแสดงเสน่ห์อีกด้านหนึ่งออกมา เบื้องหลังการถ่ายทำ ปั้นจั่นจะคอยเล่นคอยแหย่กับทีมงานอยู่เสมอ แต่เมื่อเริ่มถ่ายทำ ปั้นจั่นจะกลายเป็นนักคณิตศาสตร์ประกันภัยผู้เงียบขรึมเย็นชาทันที

 

เกี่ยวกับผู้กำกับ วิรัตน์ เฮงคงดี (คุณโจ้)

หลังจากจบการศึกษาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ คุณโจ้เข้าร่วมงานกับ บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) เขาได้กำกับและผลิตรายการคุณภาพมากมาย หลังจากได้เรียนรู้วิธีการรังสรรค์ผลงานคอมเมดี้จากงานโทรทัศน์ คุณโจ้ได้สร้างภาพยนตร์เรื่องแรกคือ ยอดมุนษย์เงินเดือน (2012) ที่ได้รับการชื่นชมอย่างล้นหลามจากคนดู และถือเป็นหนังเรื่องแรกที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง

ในภาพยนตร์เรื่องนี้ คุณโจ้จะบอกเล่าเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์ในยุคปัจจุบัน ผ่านมุมมองของชายหนุ่มและหญิงสาว ที่มองความรักต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ผลงานที่ผ่านมา

ภาพยนตร์

  • ยอดมนุษย์เงินเดือน (2012): ผู้กำกับภาพยนตร์ และเขียนบท
  • ยักษ์: ร่วมเขียนบท

 

โทรทัศน์

  • รายการ We Kid Thailand ซีซั่น1, 2 (2017, Workpoint) โปรดิวเซอร์และผู้กำกับ
  • รายการเดี่ยวดวลไมค์ (2016, Workpoint) โปรดิวเซอร์และผู้กำกับ
  • ซีรีส์ Office Syndrome (เกมริษยา) ซีซั่น 1, 2 (2015- 2016, Workpoint) โปรดิวเซอร์
  • เดอะวอยซ์ไทยแลนด์ ซีซั่น 1, 2 (2012- 2013, ช่อง 3) เขียนบทและผู้กำกับ
  • ซีรีส์รักนี้ผีคุ้ม ซีซั่น 1,2 (2012- 2013, Workpoint) โปรดิวเซอร์
  • ละครเรื่องอภินิหารคุณยายทองคำ (2011, ช่อง7) เขียนบทและผู้กำกับ
  • ละครเรื่องรักกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ (2010, ช่อง7) เขียนบทและผู้กำกับ

 

บทสัมภาษณ์ผู้กำกับ

  • ความรู้สึกที่ได้มากำกับภาพยนตร์เรื่องนี้

ต้องขอบคุณ ซีเจ เมเจอร์ฯ, เวิร์คพอยท์ และ เอ็ม พิคเจอร์ เป็นอย่างสูงนะครับ ที่ไว้เนื้อเชื่อใจ ชวนผมมากำกับหนังรัก 2 ปี ยินดีคืนเงิน เรื่องนี้ ถือเป็นโปรเจกต์แรกเลยครับที่ได้ร่วมงานกับทั้ง 3 ค่ายพร้อมกัน อย่างซีเจ เมเจอร์ ซึ่งเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า มาตรฐานในการทำงานของวงการบันเทิงเกาหลีนั้นจะค่อนข้างสูง ส่วนสาเหตุที่ผมตัดสินใจรับงานนี้ หลังได้ฟังไอเดียของเรื่อง รู้สึกมันน่าสนใจไปหมด กับพล็อตแนวหนังที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใครมาก่อน ทำให้เราจินตนาการต่อได้ว่า เรื่องมันจะไปในทิศทางไหน เพราะมีเค้าโครงดี มีเชื้อที่จะนำไปสู่ภาพยนตร์ที่สนุก แค่คิดก็สนุกแล้วครับ ผมจึงตัดสินใจทำเรื่องนี้”

  • ทำไมถึงเลือกโปรเจกต์นี้เป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 2 ของตัวเอง

“คงเป็นเรื่องของโอกาสครับ ผมได้รับการติดต่อมาจากทาง CJ Major โดยทาง CJ Major มีไอเดียอยากสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ พอได้ไปพูดคุยกัน ได้ฟังไอเดียแล้วเราก็รู้สึกว่ามันมีความน่าสนใจดี ด้วยแก่นของเรื่อง ไอเดียของเรื่อง รู้สึกมันแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร มันทำให้เราจินตนาการต่อได้ว่าเรื่องมันจะไปในทิศทางไหน ด้วยความที่เราจะต้องลงมาพัฒนาบทเองอยู่แล้วด้วย ก็คิดว่ามันน่าจะไปได้ดี เรื่องนี้มันมีเค้าโครงที่ดีอยู่แล้ว มีเชื้อที่จะนำไปสู่ภาพยนตร์ที่สนุก และดีได้เรื่องหนึ่ง จึงตัดสินใจทุ่มเทให้กับเรื่องนี้ครับ”

  • เนื้อเรื่องดั้งเดิมมาจากเกาหลี ขั้นตอนการปรับเนื้อเรื่องให้เป็นภาพยนตร์ไทยเป็นอย่างไร ยากหรือง่ายตรงไหนบ้าง

“ขั้นตอนในการปรับโครงสร้างของเรื่องนี้ คือเนื้อเรื่องเดิมมาจากเกาหลี มันเป็นเรื่องที่เรียกว่า เค้าขึ้นมาเป็นไอเดีย จริงๆ มีเขียนสคริปต์เลยล่ะครับ เป็นสคริปต์ร่างแรก ยังไม่สมบูรณ์หลายอย่าง ทั้งเรื่องความยาว หรือเรื่องของบริบท หรือความแข็งแรงของเหตุผลเงื่อนไขอะไรบางอย่าง ก็เลยปรับ เราก็ขอโอกาสกับทาง CJ Major ที่เขาเป็นเจ้าของไอเดียของเรื่อง เรียกว่า ขอรื้อเลย ขึ้นโครงใหม่ โดยยึดไอเดียเดิมเป็นหลัก ไม่ว่าเนื้อเรื่องจะดำเนินไปในทิศทางไหน สิ่งที่เราจะต้องจำให้ขึ้นใจนั่นคือ ยึดไอเดียต้นฉบับไว้เป็นหลัก เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอารมณ์หนังของเจ้าของเดิมได้ครับ ซึ่งจุดที่ยากที่สุดคงเป็นเรื่องของงานรีเสิร์ช เพราะว่าเราปรับให้ตัวละครมีความแข็งแรงมากขึ้น ในเรื่องของอาชีพการทำงานของนักคณิตศาสตร์ประกันภัยของพระเอก มันน่าสนใจ มันมีมิติเล่นลงไปได้มากกว่าเดิม มันทำให้เห็นคาแร็กเตอร์ของคนประเภทนี้ เป็นคนที่ต้องเก่งรอบด้าน ต้องเก่งเรื่องการคำนวณ ตัวเลข เหตุผลความน่าจะเป็น สถิติมากมาย ซึ่งมันก็จะเน้นความเชื่อของเขาที่ไม่เชื่อในความรักมากขึ้น ที่เหลือก็จะเป็นเรื่องของการหยิบยกเคสต่างๆ ที่พระเอกกับนางเอกต้องผ่านไปเจอทีละเคสๆ ซึ่งแต่ละเคสก็ต้องมีจุดเด่นในเรื่องของความน่าสนใจในแบบไทยๆ มีคอนฟิกต่างๆ ดำเนินไปตามเหตุการณ์”  

  • เรื่องการแคสติ้ง ทำไมถึงต้อง ปั้นจั่น กับ เอสเธอร์

“เมนหลักเลยเราเลือกจากบท คาแร็กเตอร์ เราก็ไล่หานักแสดงในประเทศไทยมีใครบ้างที่น่าจะเหมาะ ก็มาลงตัวที่ 2 คนนี้ เรารู้สึกว่าที่ผ่านมาเราไม่ค่อยเห็นพวกเขาในภาพยนตร์มากนัก พอเราติดต่อเข้ามาพูดคุย ส่งบทให้เขาอ่าน เขาก็มีความสนใจ จากการได้พูดคุย จากการได้เทสต์หน้ากล้อง รู้สึกว่าเขาน่าจะดี และที่สำคัญเนี่ย ทำให้เรามั่นใจมากขึ้น เมื่อพอมาเจอกันแล้ว เคมีเขาทั้งคู่เข้ากันได้ดี ดูมีความเป็นคู่กัดกันดี”

  • เหตุการณ์ความประทับใจในกองถ่าย

“ผมคิดว่าเป็นภาพรวมในการทำงานมากกว่า เป็นมิติของการร่วมแรงร่วมมือกัน เนื่องจากเรื่องนี้ พูดตรงๆ ว่ามันมีการวางแผนการถ่ายมาค่อนข้างยาวนาน แล้วก็มีการขยับเลื่อนอะไรกันมา จนสุดท้ายเนี่ย เราเจอโจทย์การทำงานที่ค่อนข้างยาก ก็คือมีเวลาถ่ายกันแค่ 2 เดือน แล้วเป็น 2 เดือน ที่โหดมาก ธันวากับมกรา ซึ่งธันวาวันหยุดก็จะหายไปเยอะแล้ว แต่โชคดีว่าเอสเธอร์กับปั้นจั่น เค้าเทคิวให้ 2 เดือนนี้ ก็จะไม่มีงานอื่นติดพันเยอะมาก พอคิวมันอัดมา เราก็ต้องเร่งอัดถ่ายให้ได้มากที่สุดในระดับมาตรฐานที่เราตั้งกันไว้ คือไวและต้องดีมากเท่านั้น 2 เดือนนี้ทำงานกันทุกวัน ถ้าไม่ถ่ายก็ต้องเตรียมงานถ่าย ผมประทับใจความทุ่มเท ความมีใจรักในงานของทีมงานทุกๆ ฝ่าย รู้สึกว่าเราน่าจะเป็นคนที่สบายที่สุดเลย ทุกคนพยายามซับพอร์ตในมิติของตัวเอง เพื่อหนังจะได้ออกมาดีตามที่ทุกคนคาดหวัง”

  • เรื่องราวสั้นๆ ของภาพยนตร์เรื่องนี้

“สำหรับภาพยนตร์ รัก 2 ปี ยินดีคืนเงิน ในแบบฉบับของผม ก็จะเป็นเรื่องของการต่อสู้กันระหว่างคนที่เชื่อในความรัก และคนที่ไม่เชื่อในความรัก ผ่านตัวพระเอกที่ชื่อ แทน รับบทโดย ปั้นจั่น ปรมะ คาแร็กเตอร์ของแทนเป็นคนที่ไม่เชื่อในความรัก เนื่องจากมีประสบการณ์จากการถูกแฟนสาวของเขาทอดทิ้งอย่างเจ็บปวด ทำให้เขาต้องต่อสู้กับ จี๊ด ผู้ที่ตลอดเวลายังเชื่อ และศรัทธา ว่ารักแท้นั้นมีอยู่จริง ซึ่งจะเกลียดการเอารักแท้มาเป็นเรื่องขำๆ สนุกสนาน หรือเป็นข้อต่อรอง เป็นช่องทางการทำมาหากิน รับบทโดย เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา เรื่องราวจะเป็นเหตุการณ์แบบสถานการณ์พาไป จากการที่พระเอกได้ออกแบบกรมธรรม์ขึ้นมากรมธรรม์หนึ่ง โดยมีเงื่อนไขว่า ถ้าคู่รักที่มาซื้อกรมธรรม์นี้ ภายใน 2 ปี ไม่เลิกกัน รับเงินประกันคืนไปเลย 100 เปอร์เซ็นต์ พร้อมดอกเบี้ยอีก 30 เปอร์เซ็นต์ ทันที แต่ถ้าเลิกกันก็ได้คืนครึ่งเดียว ด้านพระเอกทำทุกวิถีทางให้ทุกคู่ที่ซื้อต้องจบชีวิตรักลง ส่วนนางเอกผู้ที่เกลียดกรมธรรม์ที่หากินกับความรักแบบนี้มาก ก็พยายามทำทุกวิถีทางที่จะขัดขวางเช่นกัน เรื่องการแบทเทิลทั้งคู่เลยเกิดขึ้น จนเรื่องราวมาถึงทางแยกสุดท้ายแล้ว เมื่อทั้งคู่ต้องตัดสินใจระหว่างความเชื่อเรื่องรักที่ต่างกันแบบสิ้นเชิง กรมธรรม์รักจะพิสูจน์ความเข้าใจของทั้งสองคนนี้ได้ไหม ต้องติดตามครับ”

“อยากเชิญชวนทุกๆ คนมาดูหนัง รัก 2 ปี ยินดีคืนเงิน กันดูนะครับ การันตีได้เลยว่าจะเป็น 2 ชั่วโมงที่มีความสุข จะได้รับความบันเทิงเต็มๆ กับเรื่องราวความรักที่แปลกใหม่ แต่สนุก ตลก ฮา น่ารัก ตลอดทั้งเรื่อง เหมาะที่จะมากับคู่รักมาก เพราะคู่ของคุณอาจจะได้เห็นมุมมองในเนื้อเรื่องของความรักหลากหลายขึ้น ยิ่งถ้ามาดูกับคนรักน่าจะทำให้รักกันมากขึ้นด้วย เตรียมไปชมกันได้  20 มิถุนายนนี้ พร้อมกันทุกโรง ทั่วประเทศ

นักแสดงและตัวละครต่าง

“จี๊ด” อดีตนักจับคู่ ผู้ศรัทธาในรักแท้ รับบทโดย “เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา”

“ความรัก เอาตัวเลขมาวัดไม่ได้หรอก ต้องใช้สมองและหัวใจ”

จี๊ด ผู้ที่มีหน้าที่การงานในบริษัทจับคู่กำลังเป็นไปได้สวย มีชีวิตที่ล้อมรอบไปด้วยความรักที่ดีและสวยงาม จากการได้ช่วยจับคู่ให้ลูกค้าสำเร็จ ได้แต่งงานกันหลายคู่ แต่จู่ๆ งานแต่งของลูกค้าที่เธอจับคู่ให้ก็ถูกพังลง โดยผู้ชายที่ชื่อ แทน ซ้ำร้ายหลังจากเหตุการณ์นั้น เธอยังต้องถูกส่งให้ไปร่วมทำงานกับแทนอีก เธอจึงจะพิสูจน์ต่อแทนให้ได้ว่า รักแท้มีอยู่จริง

เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา เป็นนักแสดงที่ทุกคนต่างคุ้นหน้าคุ้นตา จากการปรากฏตัวผ่านผลงานทางหน้าโทรทัศน์ เอสเธอร์เป็นที่รู้จักจากบทบาทมากมาย และจากการแสดงที่น่ารักสดใสและเป็นธรรมชาติ โดยภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นภาพยนตร์เรื่องที่สองของเอสเธอร์ ซึ่งบทจี๊ดจะมีความน่ารัก ขบขัน ผู้ชมจะอมยิ้มไปกับบุคลิกอันสดใสของจี๊ดอย่างแน่นอน

  • ความรู้สึกที่ได้มาเล่นภาพยนตร์เรื่องนี้

“รู้สึกดีใจตั้งแต่ทาง ซีเจ เมเจอร์ ติดต่อมาให้เล่นแล้วค่ะ ซึ่งถึงแม้จะเป็นหนังเรื่องที่ 2 ที่รับเล่น แต่ก็ถือว่าบทบาทที่ได้รับโดนใจสุดๆ เลยค่ะ รู้สึกว่าเนื้อเรื่องค่อนข้างน่าสนใจแล้วก็แปลกใหม่ ไม่เคยเห็นเรื่องอะไรที่มันพล็อตที่มันแปลกขนาดนี้ ก็เลยตัดสินใจรับค่ะ ดีใจนะคะ รู้สึกว่าเป็นการทำงานอีกแบบหนึ่งที่ได้เรียนรู้ ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ได้เจอทั้งโปรดิวเซอร์ทางซีเจ เมเจอร์ ได้ทำงานกับทีมพี่โจ้ ผู้กำกับ ไปพร้อมๆ กัน”

  • บทที่ได้รับในเรื่องนี้

“ในเรื่องนี้รับบทเป็นจี๊ดค่ะ จี๊ดเป็นคนที่เชื่อมั่นในความรัก ว่าไม่สามารถเอามาตีมูลค่าได้ หรือไม่สามารถเอามาคำนวณเป็นอัตราส่วน หรือระยะเวลาปีได้ ก็คือเป็นคนที่มองโลกในแง่บวก เชื่อว่าทุกอย่างย่อมมีทางแก้ปัญหาได้ ซึ่งจะไปขัดกับบทที่พี่ปั้นจั่นเล่นค่ะ พอทั้งคู่ได้โคจรมาเจอกัน คนนึงจะทำให้ลูกค้าที่ซื้อกรมธรรม์รัก 2 ปี เลิกกัน แต่อีกคนจะทำให้ลูกค้ากลับมาแก้ไขปัญหาแล้วก็รักกัน มันก็เลยเป็นเรื่องของการแข่งกัน แบทเทิลกัน สุดท้ายก็เลยมีการท้าทายกันเกิดขึ้นว่า ใครจะแพ้ใครจะชนะ ต้องไปติดตามกันในหนังค่ะ รับรองได้ว่าจะเห็นเรื่องราวความรักในหลายๆ รูปแบบค่ะ ที่สำคัญพูดเลยว่าส่วนตัวประทับใจมากๆ กับหนังเรื่องนี้ เป็นงานภาพยนตร์ที่ตัวเองได้รับบทบาท คาแร็กเตอร์ อุปนิสัย เหมือนกันกับตัวเอสเธอร์เลยค่ะ ยิ่งเรื่องของความรักค่อนข้างเหมือนเลย เพราะว่าเป็นคนเชื่อมั่นในความรักค่ะ”

  •  รู้สึกยังไงที่ได้ร่วมงานกับ ซีเจ เมเจอร์ฯ 

“ดีใจนะคะ รู้สึกว่าเป็นการทำงานอีกแบบหนึ่งที่หนูได้เรียนรู้ ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ แล้วก็ได้เจอทั้งโปรดิวเซอร์ทางซีเจ เมเจอร์ และทีมพี่โจ้ ผู้กำกับ ที่ต้องทำงานร่วมกันค่ะ เป็นการผสมผสานที่ลงตัวดี ซีเจ เมเจอร์ คือบริษัทบันเทิงที่ค่อนข้างมีระดับมาตรฐานของการทำงานที่ดี มีคุณภาพสุดๆ ทุกงานละเอียดมากๆ เขาทำการบ้านมาดีมากๆ การวางเฟรม การนับเฟรม เรื่องแสง เรื่องมุม เรื่องการกำกับ เรื่องการแสดง เอาใจใส่ทุกขั้นตอน แรกๆ ก็ตกใจเหมือนกัน (หัวเราะ) แต่ดีค่ะ ตกใจในทางที่ดี เป็นสิ่งที่เป็นมาตรฐานค่ะ”

  • ทำงานกับปั้นจั่นเป็นยังไงบ้าง

“กับพี่ปั้นจั่น ตอนแรกๆ เราก็คิดว่าเขาเป็นคนที่ค่อนข้างคูลๆ สุขุม เป็นผู้ใหญ่ อาจจะไม่พูดเยอะ แต่พอได้มาร่วมงานกันจริงๆ พี่ปั้นจั่นเป็นคนที่เฟรนด์ลี่มาก แล้วก็เป็นคนแอ็กทีฟมาก พลังเยอะมาก แล้วก็เป็นคนตลกมาก เล่าเรื่องอะไรก็ขำไปหมด ซึ่งพอคุยด้วยทำงานด้วยแล้ว สนุกมาก ๆ ค่ะ”

  • คิดว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ความรักของคนสมัยนี้ มักรักเร็ว เลิกเร็ว

“หนูว่าเพราะด้วยสังคมเราทุกวันนี้มันค่อนข้างติดต่อกันไวมาก จะคุยกันได้ก็เร็วมาก เดี๋ยวนี้มี ไลน์ เบอร์ แป๊บเดียว คนค่อนข้างโซเชียลกันแล้วเดี๋ยวนี้ ก็เลยทำให้เราเรียนรู้กันไว รู้จักกันไว ใจเย็นกันช้าลง ใจร้อนกันมากขึ้น มันก็เลยอาจจะทำให้เลิกกันไวด้วย ซึ่งแตกต่างจากสมัยก่อน ที่กว่าคน 2 คนจะติดต่อกันได้เนี่ย จดหมายก็ค่อนข้างนาน หรือว่าอีเมล นานครั้งจะมีโทรศัพท์คุยกันบ้างค่ะ”

  •  ทำไมคนดูถึงไม่ควรพลาดที่จะไปดูหนังเรื่องนี้  

“เป็นพล็อตเรื่องที่แปลกใหม่ แล้วก็มีความสนุก ภาพสวย ในเรื่องเราจะได้เห็นความรักในหลายๆ รูปแบบ อยากให้ติดตามชมมากๆ เลยค่ะ เป็นอีกเรื่องนึงที่ตั้งใจทำงานมากๆ นักแสดงทุกคนทุ่มเทกันมาก ทำงานกันหนักมากๆ ฝากให้กำลังใจพวกเราด้วยนะคะ อย่าลืมไปติดตามชมกันนะคะ รัก 2 ปี ยินดีคืนเงิน เริ่มฉายวันที่ 20 มิถุนายนนี้เป็นวันแรก ทุกโรงภาพยนตร์ค่ะ”

  • ฉากประทับใจ

“จริงๆ ประทับใจหมดเลยค่ะ อย่างที่บอกว่าเรื่องนี้ได้บทที่คาแร็กเตอร์เป็น เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา มากๆ ทำให้เรามั่นใจที่จะเล่นอารมณ์นั้นอารมณ์นี้น่ะค่ะ และที่ประทับใจสุดๆ ก็คือ ซีเจ เมเจอร์ เขามีดีเทลค่อนข้างละเอียดมากๆ บางทีเราไม่เคยเห็นการทำงานของเขา ถึงกับอุทาน โอววเขาทำกันอย่างนี้เลยเหรอ จะต้องมีการปรับตัวทั้งสองฝ่ายมากๆ ค่ะ แต่ว่าหนูรู้สึกได้ ณ ตอนนั้นเลยนะ ว่าเป็นการปรับตัวไปในทางที่ดีขึ้นมากๆ มันเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับหนูเลย รู้สึกสนุก และน่าตื่นเต้นทุกครั้งที่ไปกองค่ะ

“แทน” นักคณิตศาสตร์ประกันภัย ผู้เชื่อเพียงแค่ตัวเลขและสถิติ รับบทโดย “ปั้นจั่น ปรมะ อิ่มอโนทัย”

“ไม่มีอะไรบนโลกที่คำนวณไม่ได้ แม้แต่ความยืนยาวของความสัมพันธ์”

แทน เป็นนักคณิตศาสตร์ประกันภัย ที่เชื่อในเหตุผลและหลักการ หลังจากที่เขาถูกบอกเลิกอย่างเจ็บปวดจากแฟนเก่า เขาก็ไม่เชื่อในรักแบบที่ไม่หวังอะไรตอบแทนอีกเลย เพื่อพิสูจน์ความไม่เชื่อในรักแท้ของเขา เขาจึงคิดค้นประกันภัยความรักขึ้น ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมาก แต่แล้ววันหนึ่ง จี๊ดก็เริ่มเข้ามามีส่วนในชีวิตเขา และค่อยๆ ท้าทายกับความเชื่อของเขามากขึ้นเรื่อย ๆ

ปั้นจั่น ปรมะ อิ่มอโนทัย ได้เริ่มต้นในสายงานบันเทิงในฐานะนักร้องในวงบอยแบนด์ชื่อดัง “Nice To Meet You” ในปี 2007 และมีบทบาททางการแสดงทั้งในโทรทัศน์และจอเงินมากมาย โดยผลงานภาพยนตร์เรื่องยาวเรื่องแรกคือ It Gets Better (2012) คนเห็นผี (2014) ปั๊มน้ำมัน (2016) คนขับรถ (2017) ซึ่งล้วนแสดงให้เห็นถึงฝีมือการแสดงที่ดีของปั้นจั่น ในภาพยนตร์เรื่องนี้ บทของแทนจะค่อนข้างซับซ้อน ด้วยบุคลิกที่เย็นชา ดูแข็งกระด้าง แต่แท้จริงแล้วมีจิตใจที่อ่อนโยน

  •  ความรู้สึกกับการได้เล่นภาพยนตร์เรื่องนี้

“ดีใจมากครับที่ได้รับโอกาสนี้ เล่นหนังมา 3-4 เรื่อง จะเป็นแนวดราม่า ไม่ก็เป็นสไตล์อินดี้ เรื่องนี้เป็นโรแมนติกคอมเมดี้เรื่องแรกของผมก็ว่าได้ ดูได้ทุกเพศทุกวัยตั้งแต่เด็กยันผู้ใหญ่ สำหรับเนื้อหา หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องของผู้ชายกับผู้หญิงสองคนที่มีความคิดต่างกันโดยสิ้นเชิงเกี่ยวกับความรัก คนนึงเชื่อศรัทธาในความรัก อีกคนนึงผิดหวังจากความรักมาแล้วก็ไม่เชื่อความรักเลย มันเลยเป็นคอนฟลิกที่ค่อนข้างเข้มข้นสูงมาก มีความขัดแย้งกันมากมายในเรื่องนี้ สำหรับตัวผมพอหลังจากที่ได้บทไปศึกษาแล้ว เรารู้สึกได้ทันทีว่ามันท้าทายและกดดันมากๆ เป็นภาพยนตร์ที่มีแก่นของเรื่องเป็นแนวใหม่ แค่คิดว่าจะได้เล่นบทแบบนี้ก็สนุกแล้วครับ”

  • คาแร็กเตอร์เรื่องนี้รับบทเป็นอะไร ต่างจากตัวเองไหม

“ในเรื่องรับบทเป็น แทน ครับ แทนเป็นคนที่เคยมีประสบการณ์ไม่สมหวังในความรัก โดนผู้หญิงทิ้งมาก่อน ก็เลยเป็นปมในใจ ทำให้เค้าไม่เชื่อในความรักอีกแล้วจากคนที่เคยเชื่อ และเพราะเป็นนักคณิตศาสตร์ประกันภัย เลยเอาตัวเลขมาสรุปเป็นสถิติ แม้แต่เรื่องของความรัก เป็นคนคิดกรรมธรรม์รัก 2 ปี ขึ้นมาตามสถิติว่า ความรักจะรอดหรือจะร่วง แค่ 2 ปีรู้กัน และยังคำนวณทุกอย่างเป็นตัวเลขหมด แม้กระทั่งความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นระหว่างตัวเองกับจี๊ดที่เอสเธอร์เล่น ซึ่งบทนี้มันต่างจากตัวจริงของผมมากเลยทีเดียว แทนคิดทุกอย่างเป็นสูตรหมดว่า จะต้องได้ผลลัพธ์เท่านี้ได้ผลกำไรเท่านี้ เอาเรื่องเกี่ยวกับความรัก ความชอบมาคำนวณเหมือนกัน แต่ตัวผมจริงๆ อีโมชันนัลล้วนๆ ครับ (หัวเราะเพราะตัวจริงของผมเป็นคนที่เชื่อเรื่องความรักครับ เพราะความรักเป็นพลังให้เราทำหลายๆ อย่างได้ในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นความรักจากครอบครัว ความรักจากแฟนคลับ จากคนรอบข้าง หรือว่าจะเป็นความรักจากแฟนเรา

  • คิดว่าทำไมเขาถึงเลือกเราเป็นตัวแสดงบทแทน

“อาจจะเป็นเพราะผมเป็นคนตลกมั้ง แล้วทางพี่โจ้เองก็เห็นว่าผมมีความตลกสนุกสนาน ก็เลยให้ผมมาเล่นภาพยนตร์คอมเมดี้ แต่ว่าส่วนใหญ่ผมเองไม่ว่าจะเล่นละคร หรือภาพยนตร์ ได้เล่นบทดราม่าหมดเลย ซึ่งบทคอมเมดี้เป็นบทที่ยากสำหรับผม แต่ในเมื่อเขาเลือกเรา ก็ต้องตั้งใจให้ดีที่สุด มีแอบคิดนะว่าเราเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่เขาเลือกไว้แต่แรกแล้วหรือเปล่า (หัวเราะ) ก็ขอบคุณมากที่เลือกผมเข้ามาเล่น ขอบคุณมากครับ

  • กับการร่วมงานกับเอสเธอร์ล่ะ

“สำหรับการทำงานก็สนุกสนานกันเองดี กับเอสเธอร์ก็รู้จักกันมาก่อนแล้ว แต่ยังไม่เคยร่วมงานกันมาก่อน แรกๆ ภาพในหัวเราคือน้องเป็นผู้หญิงนิ่งๆ เงียบๆ ปกติทั่วไป ซึ่งแรกๆ ตอนเปิดกล้องก็เหมือนจะเป็นอย่างนั้น อาจจะยังไม่คุ้นกันมาก แต่เมื่อเริ่มสนิทกันแล้ว ผู้หญิงคนนี้เป็นคนมีของครับ ขึ้นอยู่ว่าเขาจะปล่อยอะไร มากน้อยแค่ไหน เดาทางยากเลยครับ”

  • ฉากประทับใจ

“มันคละๆ รวมๆ กันครับ แต่ที่ประทับใจมากที่สุดเป็นเรื่องราวที่เหมือนชื่อหนังภาษาอังกฤษครับ love battle เป็นเรื่องราวบรรยากาศในกอง ก็จะมีการสู้รบปรบมือกันตลอด ทีมงานกับผู้กำกับ ผู้กำกับกับทางซีเจ เมเจอร์ หรือว่าจะเป็นผู้กำกับกับผมเอง กับเอสเธอร์เอง เพราะเราทุกคนไม่เคยร่วมงานกัน มาร่วมงานกันครั้งแรก มีปรับจูน แล้วก็พยายามถกเถียง แล้วก็หาวิธีการทำงานให้สมูตราบรื่นออกมาให้ดีที่สุด เพราะว่าทุกคนอยากให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกมาดีที่สุด แล้วก็ให้คนดูได้อะไรกลับไปเยอะที่สุดครับ ซึ่งในที่สุดพวกเราก็ทำได้ครับ ทำได้ดีมากด้วยกล้าพูดเลย เลยประทับใจจุดนี้ที่สุดครับ

  •  ตัวจริงปั้นจั่นเชื่อเรื่องความรักไหม

“เชื่อครับ ตัวจริงเชื่อเรื่องความรักครับ เพราะความรักเป็นพลังให้เราทำหลายๆ อย่างได้ในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นความรักจากครอบครัว ความรักจากแฟนคลับ จากคนรอบข้าง หรือว่าจะเป็นความรักจากแฟนเรา คนรักเรา

  • เหตุผลที่ไม่ควรพลาดชมภาพยนตร์เรื่องนี้

ความรักไม่มีผิดไม่มีถูก บางทีรักมากเกินไปมันก็ไม่ดี รักน้อยไปก็ไม่ดี ไม่คิดเลยก็ไม่ดี คิดมากไปก็ไม่ดี ฉะนั้น ผมว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำให้คนที่ดูออกมาจะบาลานซ์ความรักของตัวเองได้ว่า เราควรจะอยู่ในเลเวลไหน เพราะว่าในเลเวลนี้มันก็จะมีคนที่รักสุดโต่ง กับรักโดยใช้การคำนวณ มันเลยทำให้เห็นข้อแตกต่าง ฉะนั้นมันต้องเป็นส่วนผสมที่ลงตัว และก็บาลานซ์กัน ถึงจะถือเป็นความรักยั่งยืนยาวนาน แล้วก็มีความสุขครับ รัก 2 ปี  ยินดีคืนเงิน ก็จะมีโปรแกรมฉายแล้วทุกโรงภาพยนตร์ ในวันที่ 20 มิถุนายนนี้ อย่างที่บอกไป อยากให้ทุกคนมาดูปั้นจั่นเล่นกับเอสเธอร์ แล้วยังมีนักแสดงอีกมากมาย หวังว่าทุกคนจะมีความสุขออกไปหลังดูภาพยนตร์เรื่องนี้จบ แล้วก็เห็นมุมมองความรักที่ตัวเองยังไม่มี พร้อมกับเสียงหัวเราะ ได้แง่คิดข้อคิดออกไปด้วย จะได้แบบว่าไปมีความรักอย่างมีความสุขจากการดูภาพยนตร์เรื่องนี้ครับ ยังไงก็ขอฝากภาพยนตร์เรื่องนี้เอาไว้กับทุกคนด้วย มีกำหนดฉาย 20 มิถุนายนนี้ครับ หวังว่าคนดูออกจากโรงแล้วจะมีความสุขกับอีกมุมมองของความรักที่เวลาก็ตัดสินไม่ได้นะครับ”

ทั้งนี้ บริษัท ซีเจ เมเจอร์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (CJ Major Entertainment) เป็นบริษัทผลิตภาพยนตร์ไทย ภายใต้การร่วมมือกันระว่างเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป และ ซีเจ อีแอนด์เอ็ม (CJ E&M) บริษัทเอ็นเตอร์เทนเมนท์ยักษ์ใหญ่ในเอเชีย จัดตั้งขึ้นในปี 2016

ภาพยนตร์เรื่องแรก “20 ใหม่ หัวใจรีเทิร์น” ได้รับการชื่นชมเป็นอย่างมากในฐานะภาพยนตร์คุณภาพ

บริษัทมีจุดมุ่งหมายคือ การสร้างความหลากหลายแก่อุตสาหกรรมหนังไทย โดยสนับสนุนกำลังผู้สร้างในประเทศไทย และรวบรวมผู้มีความสามารถในด้านต่างๆ เพื่อสร้างภาพยนตร์ไทยที่มีคุณภาพ เพื่อผู้ชมทั้งในและต่างประเทศ

 

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า