“อัจฉริยะ” ชี้กรณีอาหาร ร.ร. “ครูอ้อม” แม่ครัวใส่วัตถุดิบน้อย – ผอ.ไม่ตรวจสอบ

จากกรณีที่ครูอ้อม น.ส.อ้อมอารีย์ แข็งฤทธิ์ ครูประจำชั้นอนุบาลของโรงเรียนวัดวงเดือน ต.สามง่ามท่าโบสถ์ อ.หันคา จ.ชัยนาท เปิดเผย เรื่องอาหารกลางวันของนักเรียนที่พบว่าไม่มีคุณภาพ จนถูกปาถุงเลือดเพื่อข่มขู่ ต่อมาสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมชัยนาท (สพป.ชัยนาท) มีคำสั่งด่วนที่สุด ให้ครูอ้อม ย้ายไปช่วยราชการที่ สพป.ชัยนาท ชั่วคราว แต่ในค่ำวันเดียวกัน ได้ออกหนังสือใหม่แจ้งให้กลับไปปฏิบัติหน้าที่ที่โรงเรียนตามเดิม และขอตัวนายสุเทพ สิงห์สม ผอ.ร.ร.วัดวงเดือน ไปปฏิบัติราชการที่ สพป.ชัยนาท

วันที่ 29 ส.ค. น.ส.อ้อมอารีย์ ได้เดินทางไปรับคำสั่งที่ สพป.ชัยนาทและกลับมาสอนหนังสือชั้นอนุบาล 1 และ 2 ตามปกติ ขณะที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย

ในช่วงที่นายอัจฉริยะ พูดคุยกับผู้เกี่ยวข้อง ป้าแต๋ว แม่ครัว ยืนยันว่าตนใส่หมู กระหล่ำ และไข่จริง ในผัดบะหมี่ที่ให้เด็ก แต่อาจจะน้อยไปหน่อยทำให้บางจานไม่ได้หมูหรือได้ไข่น้อย แต่ตนกล้าสาบานว่าไม่ได้มีการทุจริตหรือผัดมาม่าเปล่าให้เด็กกินแน่นอน ขอเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ถ้าตนพูดโกหกขอให้หลวงพ่อเศียร สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำวัดวงเดือนลงโทษให้มีอันเป็นไปใน 3 วัน 7 วัน

ต่อมานายอัจฉริยะ ได้สรุปการพูดคุยว่า เรื่องคุณภาพอาหารแม่ครัวได้รับสัญญาว่าจ้าง รายวันๆ ละ 2,080 บาท เพื่อทำอาหารให้นักเรียน 104 คน ตกเฉลี่ยหัวละ 20 บาท ซึ่งเงินส่วนนี้เป็นเงินอุดหนุนของรัฐบาลผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แม่ครัวได้ลดคุณภาพวัตถุดิบลง เช่น ใส่หมูและผักน้อยลง ไม่ตรงตามข้อตกลงที่ทำไว้กับทางโรงเรียน แล้วทาง ผู้อำนวยการกับคณะกรรมการ ปล่อยปละละเลย จนทำให้เกิดลักษณะนี้ประจำถือว่ามีความบกพร่องที่ไม่มีการตรวจสอบ

ส่วนเรื่องคดีการปาถุงเลือดใส่ห้องทำงานครูอ้อม พนักงานสอบสวน สภ.ห้วยงู รับเป็นคดีอาญาแล้ว มีการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว รอผลการตรวจ DNA กับ รอยนิ้วมือแฝง บนถุงเลือดที่พบในถังขยะ

นายอัจฉริยะ กล่าวด้วยว่า ส่วนเรื่องคำสั่งย้ายครูอ้อมไปช่วยราชการ ตนเห็นว่าเป็นการออกคำสั่งที่ไม่สมเหตุสมผล ดังนั้นจะไปยื่นหนังสือต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ขอให้ตั้งกรรมการสอบวินัย ผอ.สพป.ชัยนาท ผู้เซ็นหนังสือ และจะขอให้ย้าย ผอ.โรงเรียนไปประจำที่ สพป.ชัยนาท จนกว่าจะเกษียณอายุราชการ

ด้าน น.ส.ลออ วิลัย ผอ.สพป.ชัยนาท กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากที่ออกหนังสือสั่งให้ครูอ้อมไปช่วยงานที่ สพป.ในฉบับแรก ก็ปรึกษากับคณะทำงานจึงเห็นควรให้ครูอ้อมปฏิบัติงานอยู่ที่โรงเรียน เพราะมีหน้าที่หลายอย่าง แต่เห็นควรให้ย้าย นายสุเทพ สิงห์สม ผอ.โรงเรียนวัดวงเดือนไปช่วยงานที่ สพป.ชัยนาทแทน เนื่องจากเป็นผู้มีอำนาจในการจัดซื้อจัดจ้างโครงการอาหารกลางวันให้ออกนอกพื้นที่เพื่อความเหมาะสม เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า นายสุเทพกำลังจะเกษียณอายุราชการวันที่ 30 ก.ย.นี้ การไปช่วยราชการมีกรอบเวลาหรือไม่ หรือให้ช่วยราชการจนถึงวันเกษียณอายุ ซึ่ง ผอ.สพป.ชัยนาทปฎิเสธที่จะตอบในประเด็นนี้

ขณะที่ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้พบและให้กำลังใจ “ครูอ้อม” และ กล่าวว่า เรื่องงบประมาณอาหารกลางวันในกรณีโรงเรียนขนาดใหญ่และกลางจะไม่มีปัญหา แต่โรงเรียนขนาดเล็กที่มีเด็กต่ำกว่า 120 คน เมื่องบได้หัวละ 20 บาท ส่งผลให้เมื่อทำปริมาณน้อยจะไม่คุ้ม

ดังนั้นงบประมาณปี 2563 ตนจะเสนอให้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พิจารณาโดยยึดจากขนาดของโรงเรียน เพื่อกำหนดค่าอาหารรายหัว สำหรับโรงเรียนที่ขนาดแตกต่างกัน

https://www.youtube.com/watch?v=WajHb8skscM