ป่าไม้ส่งผลรังวัดที่ดิน “ลุงเสี้ยว” จากระบบ GPS ให้ศูนย์ดำรงธรรมดำเนินการต่อ

เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ เตรียมส่งผลการตรวจรังวัดที่ดินของลุงเสี้ยวให้ศูนย์ดำรงธรรมราชบุรีดำเนินการต่อ หลังได้นำเครื่องรับสัญญาณดาวเทียม GPS ตรวจแนวเขตที่อ้างว่าถูกนายทวี ไกรคุปต์ บิดาของ เอ๋ ปารีณา ฮุบที่ดินไปกว่า 30 ไร่

เมื่อวันที่ (4 ธ.ค.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุชาติ บัวบาง เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน เปิดเผยผลสรุปการเข้าตรวจรังวัดพื้นที่ดิน จากกรณีนายเสี้ยว นำพา อายุ 74 ปี ชาว อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี และลูกสาวยื่นเรื่องร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมเมื่อครั้งที่นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ตรวจราชการ จังหวัดราชบุรี ก่อนประชุม ครม.สัญจรที่ จ.กาญจนบุรี ว่าถูกนายทวี ไกรคุปต์ บิดาของนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี บุกรุกที่ดินกว่า 30 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับทำกินเลี้ยงชีพด้วยการปลูกอ้อยมากว่า 50 ปี จากที่มีอยู่ประมาณ 50 ไร่ เหลือเพียงแค่ 10 ไร่เศษนั้น

จากการใช้เครื่องรับสัญญาณดาวเทียม  GPS ตรวจแนวเขตที่ โดยให้ลุงเสี้ยวพร้อมด้วยลูกสาวอีก 2 คน คือ นางสาวอำไพ นำพา ผู้ถือครองที่ดิน และนางสาวปราณี นำพา เป็นผู้ชี้แนวเขตทั้งหมด พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่ได้ทำการนับจำนวนเสาปูนและต้นมะพร้าวที่นายทวีนำมาปลูก

โดยลุงเสี้ยวมีหลักฐานเป็นใบ ภ.บ.ท.5 ใบเสียภาษีมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2517 และเอกสารยืนยันการถือครองที่ดินที่ถูกบุกรุกเป็นชื่อของนางสาวอำไพ นำพา, นางสาวปราณี นำพา ลูกสาวของลุงเสี้ยว มาแสดงผลการตรวจสอบของสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี) ที่ยืนยันการครอบครองที่ดิน ตามโครงการสำรวจถือครองเพื่อการจัดการที่ดินในพื้นที่ป่าไม้ และเอกสารของกรมป่าไม้ที่มีลายเซ็นเจ้าหน้าที่กำกับตามแบบเอกสารราชการ

นอกจากนี้ ยังมีเอกสารหลักฐานเป็นภาพถ่ายทางอากาศปี 2545 แสดงผลการตรวจสอบข้อมูลตามโครงการสำรวจถือครองเพื่อการจัดการที่ดินในพื้นที่ป่าถาวรป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี (หมายเลข 85) ประจำปีงบประมาณ 2559 จ.ราชบุรี ระบุข้อมูลการครอบครองที่ดินตรงกับการตรวจสอบของสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี) คือนางสาวอำไพ นำพา ครอบครองที่ดินเนื้อที่ 23-2-79 ไร่ และนางสาวปราณี นำพา ครอบครองที่ดินเนื้อที่ 23-0-99 ไร่ มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ด้วย

ผลการตรวจรังวัดทั้งหมด 42 ไร่ 1 งาน 28 ตารางวา และพื้นที่บางส่วนไม่สามารถเข้าไปรังวัดได้เนื่องจากเป็นพื้นที่รก พบว่า ที่ดินของลุงเสี้ยวที่ได้ยกให้ลูกสาว 2 คนเป็นคนถือครองต่อ ที่ถูกนายทวียึดครอง ส่วนที่ 1 ของนางสาวอำไพ นำพา จำนวน 7 ไร่ 2 งาน 92 ตารางวา ปัจจุบันถูกใช้ปลูกอ้อย ส่วนที่ 2 นางสาวปราณี นำพา จำนวน 15 ไร่ 0 งาน 32 ตารางวา ถูกใช้เป็นที่ปลูกมะพร้าว ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถนับได้ทั้งหมด 500 ต้น เป็นมะพร้าวประมาณ 5 เดือน ส่วนเสาปูนที่ปักรั้วลวดหนามจำนวน 212 ต้น

นายสุชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับที่ดินดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าไม้ถาวร ในโครงการสำรวจการถือครองเพื่อการจัดการที่ดินในพื้นที่ป่าไม้ถาวร ซึ่งอยู่นอกเขตป่าสงวนฯ โดยรัฐไม่เป็นผู้เสียหาย แต่เป็นความเสียหายระหว่างเอกชน คือ นายเสี้ยว และลูกสาว กับด้านนายทวี เรื่องนี้ต้องขึ้นอยู่กับการดำเนินการทางกฎหมายที่ทางนายเสี้ยวได้เข้าไปดำเนินการแจ้งความไว้ที่ สภ.สวนผึ้ง เพื่อดำเนินคดีกับนายทวี โดยหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ฯ จะได้นำเอกสารและหลักฐานการตรวจรังวัดทั้งหมดส่งให้กับทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดราชบุรี เพื่อดำเนินการต่อไป พร้อมรายงานไปยังกรมป่าไม้ทราบผลการดำเนินการด้วย

ส่วนประเด็นที่ว่าใครผิดใครถูกนั้น ต้องขึ้นอยู่กับทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ที่จะต้องส่งผลการตรวจวัดในครั้งนี้ยังพนักงานสอบสวนที่จะดำเนินการส่งสรุปสำนวนส่งฟ้องศาลเพื่อพิจารณาอีกครั้ง ตรงนี้ตนไม่สามารถให้ข้อมูลได้ วันนี้เราก็ตรวจสอบตามที่ผู้ร้องได้ยื่นเรื่องร้องทุกข์มาเท่านั้น เราทำกันอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งตลอดการตรวจสอบก็มีสื่อมวลชนมาติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ตลอดเพราะเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• จนท.ป่าไม้ เข้ารังวัดที่ดิน “ลุงเสี้ยว” จ.ราชบุรี หลังมีข้อพิพาทกับพ่อปารีณา กว่า 30 ไร่
• “อัจฉริยะ” พาผู้เสียหายแจ้งความต่อ ปทส. เอาผิด “ทวี-ปารีณา” ฮุบที่ดิน ภ.บ.ท.5
• ชาวบ้านสวนผึ้ง ร้องสื่อพ่อ “ปารีณา” ล้อมรั้วล้ำที่ 30 ไร่ ยื่นร้องทุกข์แล้วเรื่องเงียบ