มหาดไทยประสานผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดสุ่มตรวจร้านค้ากักตุนหน้ากากอนามัย

(พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา)

มท.1 สั่งผู้ว่าราชการจังหวัดสุ่มตรวจร้ายค้ากักตุนหน้ากากอนามัยพร้อมจัดการตามกฎหมาย เผยกรณีแรงงานผิดกฎหมายเกาหลีกลับภูมิลำเนาจะให้ท้องถิ่นช่วยดูแลตามหลักของกระทรวงสาธารณสุข

วันที่ 10 มี.ค.2563 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงปัญหาการกักตุนหน้ากากอนมัยที่เกิดขึ้นในขณะนี้ว่า กระทรวงหาดไทยได้ประสานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดร่วมกับพาณิชย์จังหวัด รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจมีอำนาจหน้าที่ในการเข้าไปตรวจสอบ ซึ่งวันนี้จำนวนร้านค้าที่เราเข้าไปตรวจสอบมีกว่า 1000 ร้าน มีของอยู่ไม่กี่ร้าน ตรงนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องกักตุนอย่างเดียว โดยสังคมจะต้องเข้าใจว่า ทั้งประเทศเมื่อหักที่จะต้องให้บุคลากรทางการแพทย์แล้ว จะเหลือประมาณวันละ 600,000 แสนชิ้น เพื่อกระจายไปทั้งประเทศ จะกี่ร้านก็หารไป ยิ่งไม่มีของหนักเข้าไปอีก เพราะจำนวนการผลิตสามารถทำได้เท่านี้ แต่อย่างไรก็ตามทางผู้ว่าราชการจังหวัดจะได้ประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องสุ่มตรวจ และหากมีการกักตุนก็จะดำเนินการตามกฎหมาย

เมื่อถามว่าแรงงานผิดกฎหมายจากเกาหลีที่กลับเข้าไทยท้องถิ่งจะช่วยดูแลอย่างไร พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบตามเขตของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งขณะนี้แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มแรกที่เข้าก่อนตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม จำนวน 1354 คน รายชื่อทั้งหมดไปถึงแต่ละจังหวัดตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม ขณะนี้กำลังตรวจสอบกับกรมการปกครอง ขั้นตอนต่อไปคงจะให้กำนันผู้ใหญ่บ้านหรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปพูดคุยเพื่อบอกมาตรการ แล้วให้อสม.เข้าไปตรวจสอบร่างกายเป็นประจำทุกวัน ไม่มีอะไรมากเพียงแต่จะเดินทางไปไหนมาไหนไม่สะดวกเท่านั้นเอง ซึ่งอยากฝากให้สื่อช่วยประชาสัมพันธ์ในส่วนนี้ด้วย

ส่วนกลุ่มที่สองที่เพิ่งเข้ามาก็กำลังดำเนินการส่งไปยังพื้นที่ที่เราเตรียมไว้ทั่วประเทศ ทั้งนี้ อย่าไปตั้งชื่อให้เขาแปลกแยก เพราะก็คนไทยด้วยกันทั้งนั้น เพียงแต่เขาไปหากิน ต่อให้เขาติดไวรัสก็ต้องเอาไว้ในแผ่นดินนี้ จะเอาไปไว้ที่ไหน ก็ต้องแผ่นดินนี้แหละ อยากให้เรียกกันให้ดีๆ พูดจาปราศรัยกันให้ดีๆ ยังมีวิธีที่จะอยู่ร่วมกัน ประเทศไทยยังไม่ถึงขนาดว่ามองหน้ากันแล้วติดโรคเสียที่ไหน อยากให้สื่อช่วยสร้างสังคมดีๆ ด้วย