หลายคนที่สมัครบริการสตรีมมิ่ง หรือ เคยชมซีรีส์ต่างประเทศ ต้องเคยรู้สึก ‘อิจฉา’ กันบ้างแหละ ด้วยผลงานหลากแนว ความละเอียดของบท และงานโปรดักชั่นสุดทุ่ม ที่ไม่ตั้งใจยังเห็นว่า แลกมาด้วยแรงกายของเหล่าทีมงาน รวมถึงเม็ดเงินของผู้สร้าง  

โดยเฉพาะละครอาชีพ ที่แม้จะเห็นได้มากขึ้นแล้ว ตามสื่อต่างๆ ของไทย แต่ก็ยังจัดว่าเป็นของแรร์ ทว่า สงคราม ส่งด่วน หรือ Mad Unicorn เป็นซีรีส์เรื่องล่าสุดจาก Netflix และ GDH สามารถดับความรู้สึกนั้นให้สงบลงอย่างชะงัด เพียงแค่ตอนแรกที่ดู

[เรื่องย่อ ‘ส่งคราม ส่งด่วน’]

‘สันติ’ (รับบทโดย ไอซ์ซึ-ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์) เด็กดอยที่มีเพียงแค่ความรู้ภาษาจีน และความทะเยอทะยานเป็นอาวุธ พลิกพื้นเหมืองทรายที่ใกล้ตาย ให้มีกำไรจนได้เงินมาตั้งตัว

จากเงินก้อนนั้น เขาเข้ากรุงเทพฯ และดิ้นรนเปลี่ยนอาชีพไปเรื่อยๆ เพื่อหาช่องทางทำธุรกิจ จนได้ไปพบกับ ‘เจ้าสัวคณิน’ (รับบทโดย เอก-ธเนศ วรากุลนุเคราห์) เจ้าของกลุ่มบริษัทใหญ่ที่มีกิจการหลากหลาย ก่อนจะมาเป็นนายทุนให้กับธุรกิจขนส่งราคาประหยัด 

ทว่า ในวันที่ฝันของสันติใกล้จะกลายเป็นจริง เจ้าสัวกลับตลบหลังเปลี่ยนให้ ‘เคน’ (รับบทโดย พีช-พชร  จิราธิวัฒน์) มารับบทนซีอีโอของบริษัทแทน

ถึงขั้นนี้มีหรือจะทนไหว ด้วยแรงแค้นสันติจึงร่วมมือกับ ‘เสี่ยวหยู’ (รับบทโดย เจนเย่ เมธิกา จีรนรภัทร) สาวจีนลูกครึ่งผู้มารับหน้าที่ดูแลการเงิน และ ‘รุ่ยเจี๋ย’ (รับบทโดย ดร. พลัง โลกศิลป์) โปรแกรมเมอร์ที่ร้ายกาจทั้งปาก และฝีมือตั้งบริษัทขนส่งรากหญ้าที่หมายจะล้มบริษัททุนเจ้าสัวให้ได้

ที่มา: Netflix

[ซีรีส์ธุรกิจของหายากของวงการซีรีส์ไทย]

หากมองเผินๆ สงคราม ส่งด่วน อาจจะดูคล้ายกับภาพยนตร์แนวธุรกิจ ที่เราอาจเคยเห็นกันมาบ้าง ด้วยจุดตั้งต้นที่ดัดแปลงมาจากชีวิตจริง ของนักธุรกิจขนส่ง ที่เป็นสตาร์ทอัพยูนิคอร์นตัวแรกของไทย โดยมีปมความขัดแย้ง ระหว่างคนรวยและคนจน กลุ่มพริวิเลจและคนชายขอบ เป็นหัวใจหลัก ซึ่งถูกเล่ามาแล้วหลายครั้ง

แต่หากลองนั่งนึกดูดีๆ นับตั้งแต่ วัยรุ่นพันล้าน เป็นต้นมา เราแทบไม่ได้เห็นภาพยนตร์ ซีรีส์ หรือละครที่เน้น เรื่องธุรกิจเป็นเส้นเรื่องหลักอย่างจริงจัง 

ทั้งที่เราได้เห็นนัดแสดงสวมบทนักธุรกิจอยู่เต็มไปหมด แต่ ‘อาชีพ’ ของตัวละคร มักเป็นเพียงฉากหลังให้กับเรื่องราวความรัก หรือเกมการแก้แค้น ที่สุดท้ายก็จะนำมาสู่ปลายทางของความรัก ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งอยู่ดี แต่ไม่ใช่สำหรับ สงคราม ส่งด่วน ที่นำความแค้นต่อกลุ่มทุนใหญ่ ตั้งต้นเป็นเชื้อไฟที่ของตัวละครและเรื่องราว โดยมีความรักเป็นพล็อตรอง จึงยังให้ความรู้สึกสดใหม่เมื่อได้ชม จากบทโดย ณฐพล บุญประกอบ, วสุธร ปิยารมณ์, ทศพล ทิพย์ทินกร, ธนีดา หาญทวีวัฒนา, และ ภัทรนาถ พิบูลย์สวัสดิ์ 

ไม่รู้กว่าจะออกสู่หน้าจอ เบื้องหลังตบกันอย่างในซีรีส์หรือไม่ แต่เบื้องหน้าผู้ชมสัมผัสถึงความเป็นมนุษย์ มีชีวิตชีวา เข้าใจง่ายแต่คมคาย พร้อมลูกล่อลูกชนให้คนดูใจเต้นอยู่เป็นระยะ และที่สำคัญคือ ในโค้งที่ยั่วยวน ชวนให้ตัวละครก้าวเข้าไปสู่กับดักความฟีลกู้ด ตัวละครไม่ได้เลือกทางที่จำเจอย่างที่เราหวั่นใจ ทำให้การดู สงคราม ส่งด่วน นั้นสนุกไปตลอดจนสุดทาง ทั้งในแง่มุมของความสัมพันธ์ตัวละคร และในเชิงธุรกิจ

ที่มา: Netflix

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ การที่เรื่องราวถูกดัดแปลงมาจากชีวิตของบุคคลจริง ขนาดเรื่องที่ผู้ชมรู้ทั้งรู้ว่าแต่งเติมไปบ้าง แต่ก็ยังยินดีจะยอมรับว่า ปาฏิหาริย์ของการพลิกชีวิตด้วยมือตัวเองของสันตินั้น ไม่ใช่สิ่งเพ้อฝัน เรื่องราวที่ถูกถ่ายทอดอย่างน่าเชื่อถืออยู่แล้วจริงยิ่งขึ้นไปอีก 

อย่างไรดี ตามมุมมองธุรกิจของตัวละครฝั่ง ‘ตัวร้าย’ ในเรื่อง อย่าง เจ้าสัวคณิณและเหล่านายทุน ซึ่งมองธุรกิจเป็นเพียงเกมที่ต้องเล่นให้ชนะ ก็ชวนให้ขบคิดว่า ถึงแม้สันติจะประสบความสำเร็จในวันนี้ แต่จะมีสักกี่ธุรกิจกันเชียวที่อยู่รอด ไม่โดยโดนทุนใหญ่สายป่านยาวกว่าปาดหน้า หรือทุบจนน่วม จนต้องยอมปล่อยมือเอง

อย่าง ฉากที่เราได้เห็นทีมธันเดอร์วิ่งทำงานอย่างบ้าคลั่ง ระหว่างที่ฝั่งทุนใหญ่ทำงานสเกลเดียวกัน โดยไม่มีแม้แต่รอยเหงื่อ ทำลายสิ่งที่สันติสร้างขึ้นมาโดยใช้เพียงแค่วาจาไม่กี่คำ จึงไม่ได้ทำให้หัวใจคนดูเต้นด้วยความสงสาร และเอาใจช่วยตัวละครเท่านั้น แต่บีบรัดจากความอยุติธรรม ที่เราต่างรู้จักกันดี

[นักแสดงหน้าคุ้น ฉายมุมใหม่สุดแกร่ง]

สิ่งวิเศษอีกหนึ่งอย่างของเรื่องนี้ คือ ความสดใหม่ของนักแสดงหน้าคุ้น จริงอยู่ที่นักแสดงนำของเรื่องนี้ ส่วนใหญ่เป็นนักแสดงที่คุ้นเคย และเห็นฝีมือมามากพอตัว แต่ สงคราม ส่งด่วน ก็ทำให้ผู้ชมได้เห็นพวกเขาในมุมใหม่ ทั้ง

ไอซ์ซึ ณัฐรัตน์ นักแสดงที่ขึ้นชื่อเรื่องการทำการบ้าน และความตั้งใจเต็มร้อย ที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองไปพร้อมกับตัวละครมาแต่เดิม ก็ยังสามารถทำให้เราทึ่งได้อีกครั้ง กับสกิลภาษาจีน ซึ่งไหลลื่นราวกับพูดภาษาแม่ ทั้งที่ เขาเพิ่งเริ่มหัดภาษาจีน 2-3 เดือนก่อนถ่ายทำ ยังไม่รวม การเล่นฉากแอ็กชั่นกับมอเตอร์ไซค์ด้วยตนเอง ภายใต้แววตาที่ทั้งหิวกระหาย ทะเยอทะยาน และคับแค้น ก็ยิ่งทำให้ สันติ คนตัวเล็กที่ถูกที่ถูกกระชากความฝันไปด้วยน้ำมือของกลุ่มนายทุนสมจริงขึ้นไปอีกขั้น สงคราม ส่งด่วน เป็นอีกผลงานที่ยืนยันว่า เขาคือนักแสดงที่เป็นยูนิคอร์นของวงการบันเทิงไทยอย่างแท้จริง และหาก ออกแบบ ชุติมณฑน์ คว้ารางวัลสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากเวที International Emmy Awards มาได้ การได้เข้าชิงของไอซ์ซึก็อาจจะไม่ไกลเกินเอื้อม 

พีช พชร ที่มารับบทนักธุรกิจจากกลุ่มทุนใหญ่เป็นครั้งแรก หลังจากอยู่ฝั่ง SME ปลุกปั้นทั้งธุรกิจสาหร่ายและวัตถุมงคลมานานหลายปี ในเรื่องนี้พีชโชว์การแสดงที่ละเอียดอ่อน และซับซ้อนมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเข้าคู่กับ เอก ธเนศ ซึ่งเราจะได้เห็นเขาพลิกบทบาทมารับบทคนรวยจัดเป็นเรื่องแรก โดยมีเสียงที่นุ่มนวลและการแสดงที่ละเอียดจนถึงปลายนิ้วของเขาเป็นอาวุธ ​ทำให้เจ้าสัวคณิณดูเป็นนักธุรกิจที่เลือดเย็นถึงใจ แต่ยังสัมผัสถึงเลือดเนื้อความเป็นพ่ออยู่ในที

เจนเย่ เมธิกา สามารถสลัดภาพจำในบทนักเรียนมหา’ลัย มาเป็นเสี่ยวหยู นักบริหารการเงินตัวเล็กพริกขี้หนูได้อย่างแนบเนียน พร้อมทั้งโชว์สกิลภาษาจีนได้สมกับความเป็นลูกครึ่งไต้หวัน สงคราม ส่งด่วน เป็นผลงานที่ดึงศักยภาพของเธอได้อย่างเต็มที่ ทำให้เปล่งประกายยิ่งกว่าครั้งไหน และเป็นข้อพิสูจน์ว่า มีของดีให้รอดูอีกมาก ไม่น้อยไปกว่าหน้าตาที่ยังตกคนได้ต่อเนื่อง

ดร. พลัง โลกศิลป์ นักแสดงหน้าใหม่ สำหรับวงการบันเทิงไทย ที่มาพร้อมกับเสียงพูดทรงพลัง  สร้างตัวละครที่เป็นจุดตัดอันเหมาะสม ระหว่างความน่ารักและน่าชัง จนสามารถขโมยหัวใจของผู้ชมไปได้อย่างง่ายดายในทุกฉากที่ปรากฏตัว

นอกจากนักแสดงนำแล้ว การแสดงที่ยอดเยี่ยมแบบไม่มีคำว่าประนีประนอมของทุกตัวละคร ไม่ว่าจะบทเล็กหรือใหญ่นั้น ต่างเสริมบทที่แข็งแรงและสนุกอยู่แล้ว ของ สงคราม ส่งด่วน ได้อย่างดี จะว่าไป โครงสร้างเรื่องนี้ ก็ชวนให้นึกถึง Hero’s Journey ของซีรีส์จอมยุทธ์ ที่ต้องเจออุปสรรคและมารผจญ พร้อมจังหวะการเล่าเรื่อง ที่ชวนให้นึกถึงภาพยนตร์จีนฮ่องกงสมัยที่หลายคนยังเด็ก เพิ่มความสนุกขึ้นไปอีกขั้น

และที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ งานโปรดักชั่นที่สมบูรณ์ ทั้งมุมกล้อง การตัดต่อ ฉาก พร็อพ ไปจนถึงเพลงประกอบ ก็ทำให้ผู้ชมสามารถสัมผัสได้ถึงความทะเยอทะยาน ของทั้งผู้กำกับอย่าง ณฐพล บุญประกอบ และทีมงานเบื้องหลังทุกคนในทุกวินาทีที่ชม 

ทั้งหมดนี้ ส่งให้ สงคราม ส่งด่วน กลายเป็นซีรีส์ที่ทำให้เรารู้สึกฮึกเหิมไปกับตัวละคร ไม่ใช่เพียงเพราะตัวละครในเรื่องประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ แต่เป็นเพราะในวันนี้ เรามีซีรีส์ไทยที่เล่าเรื่องราวอาชีพได้อย่างละเอียดลออ เสียดสีสังคมอย่างแยบคาย แต่ไม่ยากเกินจะตีความ และได้รับการสร้างด้วยมาตรฐานที่ดีทัดเทียมกับต่างประเทศ 

ตามมาด้วยความหวังว่า หากซีรีส์เรื่องนี้ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ชม เราจะได้พบกับงานคุณภาพเช่นนี้บนหน้าจอ และทำให้ความเห็นอาจเคยได้ยินว่า ‘คนไทยไม่ดูละครแบบนี้’ ถูกปัดตกไป