‘แม่ประนอม’ 2020 ดีไซน์แพ็กเกจจิ้งใหม่แบบหลอดบีบ ปรับตัวรับลูกค้ารุ่นใหม่

พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ทุกแบรนด์สินค้าต้องปรับตัว เช่นเดียวกับแบรนด์เก่าแก่คู่ครัวคนไทยมายาวนานตลอด 6 ทศวรรษที่ผ่านมาอย่าง ‘แม่ประนอม’ ที่ลุกขึ้นมาทำแคมเปญผ่านสื่อออนไลน์ สื่อสารด้วยอาร์ตเวิร์ก ข้อคิดชีวิตคู่ และเกร็ดของแม่บ้านยุคใหม่ จนเป็นที่ชื่นชอบของชาวโซเชียล เพราะได้ปรับภาพลักษณ์สลัดความเก่าแก่และความเชยของแบรนด์ให้ทันสมัยในสายตาคนรุ่นใหม่ รวมถึงล่าสุดที่ดีไซน์แพ็กเกจจิ้งใหม่ โดยทิ้งข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก Maepranom ชวนสงสัยว่า

 “แม่บ้านพ่อบ้าน..เตรียมเฮกันทั้งประเทศ อภิมหาความสะดวกกำลังมา พร้อมพลิกโฉมการจิ้มไปตลอดกาล จากผู้สร้าง น้ำจิ้มไก่ น้ำพริกเผา น้ำพริกแกงแบบซอง ฯลฯ …แม่ประนอมเองจ้ะ” 

ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 ก.ย. 2563 ที่ผ่านมา ‘แม่ประนอม’ ก็ได้เฉลยออกมา โดยเปิดตัวน้ำจิ้มไก่ในตำนาน และน้ำพริกเผา ที่อยู่ในแพ็กเกจจิ้งแบบหลอดบีบ ซึ่งสร้างความฮือฮาให้กับลูกค้าอยู่พอสมควร

‘ยอด’ – พงศภัทร สุขุมาลจันทร์ Public Relations Manager บริษัท พิบูลย์ชัยน้ำพริกเผาไทยแม่ประนอม จำกัด ซึ่งเป็นทีมผู้บริหารเลือดใหม่เจนเนอเรชันที่ 3 ของแม่ประนอม เปิดเผยกับทีม workpointTODAY ถึงที่มาของแผนการปรับแพ็กเกจจิ้งใหม่ ในรูปแบบหลอดบีบของแม่ประนอมครั้งนี้ว่า เหตุผลหลักมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างไม่หยุดนิ่ง ซึ่งนอกจากทางบริษัทฯ จะพัฒนาเรื่องของคุณภาพสินค้าประเภทน้ำพริก น้ำจิ้ม น้ำพริกแกง เครื่องปรุงรสกึ่งสำเร็จรูปต่างๆ ออกมาตอบโจทย์ตลาดอยู่ตลอดแล้ว เรื่องของหีบห่อ บรรจุภัณฑ์ต่างๆ ก็เป็นเรื่องสำคัญที่บริษัทฯ ต้องมีการพัฒนาควบคู่กันไปด้วย

ปัจจุบันทั้งน้ำพริกเผาไทยและน้ำจิ้มไก่ ตราแม่ประนอม มีบรรจุภัณฑ์หลากหลาย ทั้งแบบขวดแก้วที่หลายครัวเรือนอาจจะคุ้นเคยกันอยู่แล้ว แบบบรรจุแกลลอน และบรรจุถุง เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าประเภท HORECA หรือกลุ่มธุรกิจโรงแรม (Hotel) ร้านอาหาร (Restaurant) และธุรกิจจัดเลี้ยง (Catering) และยังมีแบบซองเล็กที่ผู้บริโภคสามารถพกพาเดินทางไปไหนได้แบบสะดวกฉีกใช้ครั้งเดียวหมดแล้วทิ้งเลย

พงศภัทร ยังเผยอีกว่าก่อนจะมีการเพิ่มบรรจุภัณฑ์แบบหลอดนี้ บริษัทฯ ได้มีการทำ Market Survey เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกว่าลูกค้ายังคงต้องการให้สินค้าพัฒนาไปในทิศทางใดอีก ต้องการแบบไหน ซึ่งพบว่าทั้งสองผลิตภัณฑ์นี้ก็จะมีฐานลูกค้าที่มีความเหนียวแน่นอยู่ จึงมองว่าเป็นการเพิ่มโอกาสในการเลือกซื้อเพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายให้กับคนกลุ่มทั้งที่เป็นกลุ่มเดิม และกลุ่มใหม่ๆ ที่เป็นคนในยุค Millennials หรือเป็น new customer target เรียกว่าเป็นการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงสินค้าให้มากยิ่งขึ้น

“ที่ผ่านมาบริษัทฯ มีการพัฒนาทั้งในด้านผลิตภัณฑ์ใหม่ และบรรจุภัณฑ์ใหม่ๆ โดยตลอดอยู่แล้ว เพราะกลุ่มลูกค้าของบริษัทฯ มีความหลากหลาย และมีการจำหน่ายออกไปยังต่างประเทศกว่า 60 ประเทศทั่วโลก แต่ครั้งนี้ถือว่าเปิดตัวค่อนข้างแกรนด์ เพราะเป็นพัฒนาในด้านบรรจุภัณฑ์ของ Core Product คือน้ำพริกเผาไทย และน้ำจิ้มไก่  ซึ่งบริษัทฯ ได้ผลตอบรับค่อนข้างดีมาก”

ทั้งนี้ เชื่อว่าการออกแบบบรรจุภัณฑ์ใหม่ชนิดหลอดบีบ จะสามารถเพิ่มการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคได้มากขึ้น เพราะนอกจากจะคำนึงเรื่องดีไซน์ที่สวยงามแล้ว ยังมีความสะดวกในการใช้ วางไว้บนโต๊ะอาหาร ลูกๆ หลานๆ สามารถบีบใช้ได้เอง การพกพาเดินทาง และรูปลักษณ์ที่ยังคงมีความเป็นแม่ประนอมแบบดั้งเดิมไว้ให้ได้มากที่สุดแล้ว อีกทั้งยังมีการเลือกใช้ชนิดของบรรจุภัณฑ์แบบ Eco Tube ที่ลดเนื้อพลาสติกลง 30% ก็เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเพิ่มมูลค่าสินค้าได้ โดยบรรจุภัณฑ์แบบหลอดมีอายุการเก็บรักษา 1 ปี โดยที่ยังคงเป็น Natural Ingredients อยู่เหมือนในขวดแก้ว และยังคงไว้ซึ่งมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้าตราแม่ประนอมทุกชนิดที่ ไม่ใส่สี ไม่ใส่วัตถุกันเสีย และไม่ใส่ผงชูรส

‘แม่ประนอม’ แบรนด์เก่าแก่ ที่อยู่คู่ครัวคนไทยมายาวนานตลอด 6 ทศวรรษ การเปลี่ยนผ่านจากรุ่นสู่รุ่น จึงเป็นโจทย์สำคัญที่ต้องมีการทำแคมเปญระยะสั้น ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ เพิ่มมากขึ้น โดยเน้นที่สื่อ Facebook โดยใช้ Content ที่สร้างสรรค์ มีความแปลกใหม่ เข้ามาสร้างการจดจำเพื่อ Re-image แบรนด์แม่ประนอมให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภค และลดกำแพงระหว่างแบรนด์และผู้บริโภคลง ซึ่งจากการออกแคมเปญดังกล่าว ทำให้แบรนด์แม่ประนอมได้ฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นมาอีกจำนวนไม่น้อย

อย่างไรก็ตาม พงศภัทร ยืนยันว่า แพ็กเกจจิ้งแบบหลอดบีบ เป็นเพียงการเพิ่มบรรจุภัณฑ์ชนิดใหม่ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค ซึ่งบรรจุภัณฑ์แบบเดิมทั้งหมดยังคงมีขายอยู่เช่นเดิม ซึ่งในช่วงแรกจะเน้นช่องทางจำหน่ายผ่านออนไลน์ และต่อไปจะเริ่มวางขายที่ซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ