มาเลเซียประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินรับมือโควิด-19 หลังพบผู้ติดเชื้อ-เสียชีวิตทุบสถิติ ให้อำนาจรัฐบาลถึง 1 สิงหาคม ท่ามกลางความกังวลถึงการใช้อำนาจทางการเมืองมากกว่าจัดการโรคระบาด
วันที่ 12 มกราคม 2564 เว็บไซต์ The Straits Times รายงานว่า สุลต่านอับดุลเลาะห์ อาหมัด ชาห์ กษัตริย์มาเลเซียทรงประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินตามคำแนะนำของรัฐบาลมาเลเซีย เพื่อรับมือกับการระบาดของโรคโควิด-19 หลังสถานการณ์ในมาเลเซียเลวร้ายลง โดยจะให้อำนาจรัฐบาลมาเลเซียบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินถึงวันที่ 1 สิงหาคม หรืออาจยกเลิกประกาศได้ก่อนหากสถานการณ์ดีขึ้น
โดยการระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พบผู้ป่วยรายใหม่ทุบสถิติมากกว่า 3,000 คนในวันเดียวมาแล้ว ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ยังมากกว่าจำนวนผู้เสียชีวิตในช่วง 10 เดือนแรกของปีที่แล้วรวมกันอีกด้วย
ปัจจุบันมาเลเซียมีผู้ป่วยโควิด-19 สะสมอยู่ที่กว่า 138,000 ราย โดยในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่กว่า 28,000 คน ท่ามกลางความกังวลว่า ในอนาคตผู้ป่วยโควิด-19 อาจล้นโรงพยาบาล ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในมาเลเซียอยู่ที่ 555 คน
ก่อนหน้านี้รัฐบาลมาเลเซียเริ่มบังคับใช้มาตรการที่เข้มงวดเพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะการจำกัดการเดินทางใน 5 รัฐและ 5 เขตสำคัญ ซึ่งรวมถึงกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของมาเลเซียด้วย
รัฐบาลมาเลเซียเคยเสนอกษัตริย์มาเลเซียให้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินมาแล้วเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว แต่ในครั้งนั้นกษัตริย์มาเลเซียทรงไม่เห็นชอบ เนื่องจากมองว่า ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม สอดคล้องกับสถานการณ์ทางการเมืองในมาเลเซียตอนนั้นที่มีความวุ่นวาย รัฐบาลไร้เสถียรภาพ ซึ่งการเห็นชอบประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในครั้งนี้ กษัตริย์มาเลเซียทรงให้เหตุผลว่าเป็นเพราะสถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว
โดยรัฐบาลมาเลเซียสามารถใช้อำนาจตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินออกกฎหมายโดยไม่จำเป็นต้องผ่านสภา ซึ่งก็ยังเป็นจุดที่ถูกวิจารณ์ว่า รัฐบาลอาจใช้อำนาจส่วนนี้ในทางการเมืองมากกว่าเพื่อยับยั้งการระบาดของโรคโควิด-19