รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซียออกมาสนับสนุนให้ใช้หลักการไม่เพิกเฉย แทนการไม่แทรกแซงกิจการภายใน เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาในเมียนมา
วันที่ 21 ต.ค. 2564 สำนักข่าวรอยเตอร์ส (Reuters) รายงานคำให้สัมภาษณ์ของ ดาโต๊ะ ไซฟุดดิน อับดุลละฮ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซีย ที่ออกมาเสนอให้สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือ หรือ อาเซียน พิจารณาหลักการไม่แทรกแซงกิจการภายในใหม่อีกครั้ง ภายหลังจากที่อาเซียนมีมติไม่เชิญ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย เป็นตัวแทนของเมียนมาในการเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน
แหล่งข่าวระบุว่าการตัดสินใจดังกล่าวมาจากการผลักดันของมาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงค์โปร์ และฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก โดยปกติแล้วแต่ละชาติจะพยายามหลีกเลี่ยงการวิพากษ์วิจารณ์ชาติสมาชิกด้วยกันเอง
อย่างไรก็ตาม ในกรณีของการรัฐประหารที่เกิดขึ้นในเมียนมา ซึ่งมีพลเรือนเสียชีวิตจากการใช้ความรุนแรงของรัฐบาลทหารแล้วกว่า 1,000 คน นายอับดุลละฮ์เห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเพิกเฉยได้
รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซียเผยถึงเนื้อหาในการประชุมเมื่อวันศุกร์ที่แล้วว่า อาเซียนเป็นเรื่องของ 10 ชาติสมาชิก แม้ว่าประเด็นของเมียนมาจะเป็นเรื่องภายในประเทศ แต่มันได้ส่งผลกระทบต่อภูมิภาคด้วย และทุกชาติควรรับรู้ถึงความกังวลของอีก 9 ชาติที่เหลือ
นอกจากนี้ นายอับดุลละฮ์ยังยืนยันว่า หลักการไม่แทรกแซงกิจการภายใน ไม่สามารถนำมาใช้เป็นโล่ป้องกันการพูดถึงปัญหา กลายเป็นว่าการไม่เข้าไปแทรกแซง (non-interference) ทำให้อาเซียนไม่สามารถตัดสินใจได้รวดเร็วพอ จึงควรนำหลักการใหม่มาใช้ เพื่อให้เกิดการพูดคุยอย่างสร้างสรรค์ หรือเปลี่ยนไปเป็นการไม่เพิกเฉย (non-indifference) แทน