มาเลเซียเคาะวันเลือกตั้ง 19 พ.ย. คาด ‘มหาธีร์’ ลงชิงนายกฯ หลังประกาศพร้อมทวงเก้าอี้สมัยที่ 3

มาเลเซียเคาะวันจัดการเลือกตั้งทั่วไป 19 พ.ย. นี้ จับตาอดีตนายกฯ มหาธีร์ โมฮัมหมัด วัย 97 ปี ลงชิงตำแหน่งผู้นำเป็นสมัยที่ 3  

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หลังจากที่นายกรัฐมนตรีอิสมาอิล ซาบรี ยาคอบ ของมาเลเซีย ประกาศยุบสภาไปเมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อเปิดทางให้การเลือกตั้งใหม่ เนื่องจากปัญหาความแยกแตกในพรรคร่วมรัฐบาล ส่งผลให้มาเลเซียต้องจัดการเลือกตั้งทั่วไปก่อนกำหนดการเดิมซึ่งรัฐบาลจะหมดวาระลงในเดือน ก.ย. 2566 

วันนี้ (20 ต.ค.) นายอับดุล กานี ซาเลห์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งของมาเลเซีย (EC) ได้ออกมาประกาศว่า การเลือกตั้งทั่วไปของมาเลเซีย จะมีขึ้นในวันที่ 19 พ.ย. นี้ โดยจะเปิดให้พรรคการเมืองเสนอชื่อผู้รับสมัครเลือกตั้งในวันที่ 5 พ.ย. นี้ และมีการเปิดให้ประชาชนสามารถลงคะแนนเสียงล่วงหน้าได้ในวันที่ 15 พ.ย.

การเลือกตั้งทั่วไปของมาเลเซียในครั้งนี้ ซึ่งเป็นการแย่งชิงเสียงข้างมากในสภานิติบัญญัติที่มีอยู่ 222 ที่นั่ง จะเป็นการขับเคี่ยวกันระหว่างพรรคอัมโน (UMNO) ของนายอิสมาอิล ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลชุดปัจจุบัน กับกลุ่มพันธมิตรปากาตัน ฮาราปัน (Pakatan Harapan) ที่นำโดยนายอันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำฝ่ายค้าน โดยพรรคที่ได้สภาชิกในสภา 112 ที่นั่ง จะเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่

นอกจากนี้ ยังคาดว่านายมหาธีร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย วัย 97 ปี จะลงสมัครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 3 ด้วย หลังจากที่นายมหาธีร์เปิดเผยกับ Nikkei Asia สื่อญี่ปุ่นว่า เขามีสุขภาพแข็งแรงพอที่จะลงสนามเลือกตั้งทั่วไปของมาเลเซีย

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลมาเลเซียต้องเผชิญกับความไร้เสถียรภาพเนื่องจากความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ของพรรคพรรคอัมโน ทำให้ต้องจัดตั้งรัฐบาลผสม แต่ก็เกิดความบาดหมางขึ้นในหมู่พันธมิตรรัฐบาล จนมาเลเซียต้องเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีมาแล้วถึง 3 คน ตั้งแต่การเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อปี 2561 เป็นที่มาของการกดดันให้นายอิสมาอิลประกาศยุบสภา เพื่อให้พรรคจะสามารถกลับมาคว้าชัยชนะครั้งใหญ่ได้อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม การยุบสภาของนายอิสมาอิล ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่าย รวมถึงพรรคฝ่ายค้าน เนื่องจากตามกฎหมายกำหนดจะต้องมีการจัดการเลือกตั้งทั่วไปภายใน 60 วัน ซึ่งจะตรงกับช่วงฤดูมรสุมของมาเลเซียที่มักจะมีฝนตกหนัก และเกิดน้ำท่วมใหญ่ ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการออกมาใช้สิทธิของประชาชน โดยการเลือกตั้งครั้งนี้ มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งราว 21 ล้านคน และคาดว่าจะใช้งบประมาณในการจัดการเลือกตั้ง 1,010 ล้านริงกิต (หรือ 8,126 ล้านบาท)

ที่มา The Straits Times, Channel News Asia