SHARE

คัดลอกแล้ว

เชื่อเหลือเกินว่านาทีนี้คงไม่มีแฟนบอลทีมไหนที่มีความสุขมากไปกว่าชาวปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

หลังสโมสรบรรลุข้อตกลงในการคว้าตัว ‘คริสเตียโน โรนัลโด้’ อดีตตำนานและซูเปอร์สตาร์ขวัญใจอันดับ 1 กลับสู่ทีมอีกครั้ง

หลังจากที่เจ้าตัวเคยอยู่กับทีมนานถึง 6 ปี และพาทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุด 3 สมัย รวมไปถึงถ้วยยุโรปอย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาล 2007-2008 ก่อนจะย้ายออกไปตั้งแต่ช่วงปี 2009 ด้วยค่าตัวระดับสถิติโลกที่ 80 ล้านปอนด์ ณ เวลานั้น

แต่กว่าจะมาถึงข่าวที่แฟนปีศาจแดงทุกคนได้สุขสมหวัง ก็มีเหตุการณ์ที่พลิกไปมาไม่ต่างจากพล็อตหนังฮอลลีวูด

ถึงขั้นที่ว่า มีแฟนบอลปีศาจแดงนำเสื้อทีมที่มีชื่อของโรนัลโด้มาเผา และพร้อมจะตีตราให้กับอดีตตำนานที่รักว่าไม่ต่างอะไรกับจูดาส หรือ ‘คนทรยศ’

แล้วอะไรเป็นสาเหตุสำคัญ? ที่ทำให้โรนัลโด้เปลี่ยนใจจากการย้ายทีมไปจากฝั่งสีฟ้าของเมืองแมนเชสเตอร์ กลับมาสู่ถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด อีกครั้ง

workpointTODAY จะนำทุกท่านไปสัมผัสความตื่นเต้นและเรื่องราวสุดระทึกใจในช่วงเวลา 24 ชั่วโมงของดีลประวัติศาสตร์นี้ไปพร้อมๆ กัน

[ความสำเร็จที่ไม่มีคำว่าพอ สำหรับชายที่ชื่อ ‘โรนัลโด้’]

ในปี 2021 หลังจากที่ยูเวนตุส ยักษ์ใหญ่แห่งอิตาลี ตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายในการแข่งขันฟุตบอลยุโรปถ้วยใหญ่ อย่างยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก พร้อมกับการที่ทีมเจ้าม้าลายไม่สามารถรักษาแชมป์ลีกในประเทศไว้ได้นั้น

สิ่งเหล่านี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นในใจของโรนัลโด้ ชายผู้ซึ่งยังมีไฟและกระหายความสำเร็จในทุกๆ การแข่งขันที่ลงแข่งเสมอ ว่าคงถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องย้ายทีมอีกครั้งเพื่อความสำเร็จ

แม้ว่าในช่วงแรก ผู้บริหารและประธานสโมสรของทีมยูเวนตุสจะออกมามายืนกรานว่า “โรนัลโด้จะยังอยู่กับทีมในฤดูกาลต่อไป และจะกลับมาฝึกซ้อมหลังจากจบศึกยูโร 2020”

รวมไปถึงการที่เจ้าตัวเคยโพสต์ข้อความในอินสตาแกรมเมื่อช่วงวันที่ 18 ส.ค. 2021 ที่ผ่านมาว่าจะไม่ย้ายทีมและเรียกร้องร้องให้สำนักข่าวทั้งหลายเคารพในการทำข่าวเรื่องนี้

หลังจากที่ตกเป็นข่าวกับสโมสรมากมายทั้ง ‘ปารีส แซ็งต์-แชร์กแม็ง’ หรือกับต้นสังกัดเดิมอย่าง ‘เรอัล มาดริด’ ทำให้ข่าวดังกล่าวดูเหมือนจะเงียบไประยะหนึ่ง

จนกระทั่งข่าวการย้ายทีมของโรนัลโด้ กลับมาสู่สปอตไลท์ของหน้าสื่ออีกครั้ง เมื่อทีมเรือใบสีฟ้า ‘แมนเชสเตอร์ ซิตี้’ สโมสรยักษ์ใหญ่ซึ่งล้มเหลวในการพยายามคว้าตัว ‘แฮร์รี่ เคน’ ศูนย์หน้าอันดับหนึ่งของทีมชาติอังกฤษจาก ‘ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ส’ ทำให้ชื่อของโรนัลโด้กลายมาเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งของสโมสรแมนฯ ซิตี้

ประกอบกับการที่ยูเวนตุสต้องการลดรายจ่ายของสโมสร ที่แบกรับภาระค่าเหนื่อยระดับเกือบๆ 1 ล้านยูโรต่อสัปดาห์ก่อนหักภาษีของโรนัลโด้ ดีลนี้จึงเริ่มต้นต้นอย่างรวดเร็ว

ด้วยสายสัมพันธ์ที่ยอดเยี่ยมของเอเยนต์ส่วนตัวของโรนัลโด้อย่าง ‘จอร์จ เมนเดส’ ที่มีกับทีมแมนฯ ซิตี้ ซึ่งมีนักเตะโปรตุเกสภายใต้การดูแลหลายของเขาคน ไม่ว่าจะเป็น รูเบน ดิอาส, แบร์นาโด ซิลวา หรือ เชา คันเซโล่

เมนเดสจึงได้เริ่มเปิดการเจรจาพูดคุยกับตัวแทนสโมสรของแมนฯ ซิตี้ก่อน ในช่วงวันอังคารและวันพุธ (24-25 ส.ค. 2021)

และหลังจากนั้นในวันพฤหัสฯ ก็มีรายงานว่า ทางเมนเดสได้เข้าไปพูดคุยกับผู้บริหารของทีมยูเวนตุส ทำให้ข่าวการย้ายทีมของโรนัลโด้สู่แมนฯ ซิตี้ เริ่มมีเค้าลางของความเป็นไปได้สูงขึ้นเรื่อยๆ

ซึ่งหากการย้ายทีมของโรนัลโด้มาสู่แมนฯ ซิตี้สำเร็จและเกิดขึ้นจริง แมนฯ ซิตี้ก็เหมือนกับถูกโชคสองชั้น เนื่องจาก

1.เป็นการประกาศความยิ่งใหญ่ระดับประเทศแห่งเศรษฐีจากตะวันออกกลาง ระหว่างเจ้าของทีมอย่าง ชีค มานซูร์ แห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่สามารถดึงซูเปอร์สตาร์ระดับโลกอย่างโรนัลโด้

เทียบเท่ากับการที่ปารีส แซ็งต์-แชร์กแม็ง ที่อยู่ภายใต้การดูแลของราชวงค์กาตาร์ สามารถคว้า ‘ลิโอเนล เมสซี่’ มาร่วมทีมได้สำเร็จ

2.ตบหน้าคู่แข่งและคู่แค้นร่วมเมืองที่เป็นอริสำคัญอย่างแมนฯ ยูไนเต็ด ว่าพวกเขาสามารถคว้านักเตะได้ตามที่ต้องการ โดยเฉพาะเมื่อนักเตะคนนั้นคือโรนัลโด้ ผู้เป็นตำนานหมายเลข 7 ที่แฟนๆ ปีศาจแดงรักมากที่สุดคนหนึ่ง

ซึ่งแน่นอนว่า คงเป็นไปไม่ได้ที่ปีศาจแดงจะปล่อยให้เรือใบสีฟ้าหักหน้าพวกเขาโดยที่ไม่ทำอะไรเลย จนกลายเป็นที่มาของ 24 ชั่วโมงสุดระทึกในช่วง 26-27 ส.ค. 2021 ของดีลประวัติศาสตร์ซื้อขายนักเตะปีนี้

[24 ชั่วโมงสุดระทึกกับดีลแห่งประวัติศาสตร์]

หลังจากมีข่าวว่าเรือใบสีฟ้าใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงกับโรนัลโด้ ชายที่ออกมาเคลื่อนไหวเป็นคนแรกๆ ทันทีก็คือ เฟอร์กี้ หรือ ‘เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน’ อดีตตำนานผู้จัดการทีมแมนฯ ยูไนเต็ด

ผู้ที่พาปีศาจแดงประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร และถือเป็นหมากตัวสำคัญซึ่งพลิกกระดานที่ปีศาจแดงเกือบจะพ่ายแพ้ต่อเรือใบสีฟ้า ให้กลายเป็นผู้ชนะในตอนจบของเกม

ในสมัยที่เฟอร์กี้เคยคุมทีมปีศาจแดง ว่ากันว่าทุกคำที่ออกจากปากชายชาวสก็อตผู้นี้ เปรียบเหมือนดั่งประกาศิต ที่ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่สามารถต่อรองหรือกล้าโต้แย้งได้ แม้กระทั่งผู้บริหารหรือประธานสโมสรเองก็ตามที

และในครั้งนี้ก็เช่นกัน เมื่อเฟอร์กี้ผู้ซึ่งเคยมีรายงานข่าวจาก The Athletic ว่า “เขาเองหงุดหงิดมาก ที่สโมสร(แมนฯ ยูไนเต็ด) พลาดโอกาสในการคว้าโรนัลโด้กลับสู่ทีมตั้งแต่ช่วงปี 2019”

และครั้งนี้คงจะไม่ต่างอะไรกับการที่เขาและทีมถูกตบหน้า หากปล่อยให้แมนฯ ซิตี้คว้าโรนัลโด้ไปร่วมทีมได้

และนี่คือไทม์ไลน์สำคัญที่เกิดขึ้นในช่วง 24 ชั่วโมง กับปฏิบัติการกระชากตัวโรนัลโด้จากแมนฯ ซิตี้ สู่ ยูไนเต็ด (อ้างอิงตามเวลาประเทศไทย)

26 ส.ค. 2021

-สื่อจากโปรตุเกสอ้างว่า โรนัลโด้บรรลุข้อตกลงเรื่องสัญญาส่วนตัวกับแมนฯ ซิตี้ได้แล้ว

-ฟาบริซิโอ โรมาโน่ นักข่าวฟุตบอลชื่อดัง ผู้มีชื่อเสียงเรื่องความแม่นยำในการรายงานข่าวการย้ายทีม กับวลี “Here We Go” ได้ยืนยันว่า โรนัลโด้ยื่นคำขาดกับยูเวนตุสว่าต้องการย้ายออกจากทีม

-มีรายงานข่าวว่า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ติดต่อหาทั้งโรนัลโด้และเมนเดส โดยใช้ความสัมพันธ์ที่ดีต่อทั้งคู่เพื่อโน้มน้าวไม่ให้โรนัลโด้ย้ายไปอยู่กับแมนฯ ซิตี้

-สื่อยังเชื่อว่า เฟอร์กี้ได้ติดต่อหาทั้งซีอีโอของทีมอย่าง ‘เอ็ด วูดเวิร์ด’ ให้เดินหน้าดีลนี้แข่งกับแมนฯ ซิตี้ และอดีตนักเตะแมนฯ ยูไนเต็ด ที่เป็นเพื่อนร่วมทีมของโรนัลโด้ ทั้ง เวย์น รูนี่ย์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, ปาทริซ เอวร่า เพื่อให้ช่วยกันโน้มน้าวใจโรนัลโด้อีกแรง

27 ส.ค. 2021

-รูนี่ย์ได้ออกมากล่าวกับสื่อเป็นคนแรกว่า “เป็นเรื่องน่าสนใจที่เขาจะย้ายทีม (ไปแมนฯ ซิตี้) แต่ผมคิดว่ามันจะไม่เกิดขึ้น เพราะโรนัลโด้สร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากมายไว้ที่นี้ และตัวเขาเองก็รู้ดีกว่าใคร”

-เช่นเดียวกับเฟอร์ดินานด์ อดีตเพื่อนร่วมทีมที่สื่อรายงานว่า ได้ใช้เวลาเกือบทั้งคืนเพื่อคุยกับโรนัลโด้ เพื่อให้คิดทบทวนให้ดีหากจะย้ายไปอยู่แมนฯ ซิตี้

-โรนัลโด้เก็บข้าวของจากสโมสรยูเวนตุส พร้อมทั้งบอกลาเพื่อนร่วมทีม โดยมีรายงานว่าเขาบอกเพื่อนๆ ว่าจะย้ายไปอยู่กับแมนฯ ซิตี้

-ฟาบริซิโอ โรมาโน่ รายงานว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ร่วมวงแข่งขันเพื่อแย่งลายเซ็นโรนัลโด้กับทางแมนฯ ซิตี้ โดยเปิดการเจรจาและยื่นข้อเสนอให้โรนัลโด้ผ่านทางเมนเดส

-พร้อมๆ กับการที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีมปีศาจแดง ได้ให้สัมภาษณ์ที่เปิดกว้างต่อการต้อนรับโรนัลโด้ คืนสู่ถิ่นอีกครั้งว่า “เรามีการติดต่อและพูดคุยที่ดีต่อกันเสมอ ผมรู้ว่าบรูโน่ (บรูโน่ เฟอร์นานเดส นักเตะปัจจุบันของทีมและเพื่อนร่วมทีมชาติโปรตุเกส) ก็คุยกับเขาเหมือนกัน เขารู้ดีว่าพวกเรารู้สึกอย่างไร และหากเขาจะย้ายจากยูเวนตุส พวกเราก็อยู่ตรงนี้”

-เป็บ กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีมแมนฯ ซิตี้ ได้ออกมากล่าวเป็นนัยๆ ว่า โรนัลโด้จะเป็นคนตัดสินใจเองว่าจะย้ายไปเล่นที่ไหน

-รายงานข่าวยืนยันว่า แมนฯ ซิตี้ถอนตัวจากศึกแย่งลายเซ็นต์โรนัลโด้แล้ว

-แมนฯ ยูไนเต็ด ยื่นข้อเสนอให้กับทางยูเวนตุสที่ราวๆ 28 ล้านยูโร

-ปิดดีล! เมื่อสโมสรแมนฯ ยูไนเต็ด ประกาศยืนยันผ่านเว็บไซต์ทางการของทีมคว้าตัวโรนัลโด้กลับสู่ทีมได้สำเร็จ โดย The Athletic ประเมินค่าตัวโรนัลโด้ที่ราว 15 ล้านยูโร บวกเงินเพิ่ม 8 ล้านยูโร พร้อมสัญญา 2 ปี (รายงานยืนยันช่วง 5 ทุ่มตามเวลาในไทย)

-โดยหลังจากปิดดีลสำเร็จ ปาทริซ เอวร่า ได้ออกมาเปิดเผยแชตข้อความที่เขาคุยกับโรนัลโด้ส่วนตัว เป็นการยืนยันว่า โรนัลโด้จะกลับมาเล่นให้กับปีศาจแดงแน่นอน

และนี่คงเป็น 24 ชั่วโมงที่แฟนบอลทั่วโลกโดยเฉพาะทีมปีศาจแดงต้องคอยกดปุ่ม F5 บนแป้นคีย์บอร์ด เพียงเพราะไม่อยากพลาดโมเมนต์สำคัญกับการต้อนรับตำนานกลับคืนสู่ทีมที่สุดท้ายลงเอยแบบแฮปปี้เอนดิ้งนั่นเอง

[ผู้ชนะ 4 ราย … กับผู้แพ้พ่ายเพียงหนึ่งเดียว]

จากบทสรุปของดีลนี้ ว่ากันว่านี่คือดีลที่ยิ่งกว่า วิน-วิน เพราะมีผู้ชนะถึง 4 ราย ไม่ว่าจะเป็น

-สโมสรยูเวนตุส ที่ลดภาระค่าเหนื่อยมหาศาลของโรนัลโด้ไปได้อย่างสวยงาม พร้อมกับโละนักเตะที่หมดไฟจะเล่นให้ทีมอีกต่อไป

-เจ้าของทีมอย่างตระกูลเกลเซอร์ ผู้ซึ่งไม่เคยเป็นที่รักของแฟนบอลนับตั้งแต่เทคโอเวอร์ทีมตั้งแต่เริ่มยุค 2003-2004 จากการที่การทำให้ทีมต้องแบกภาระเงินกู้ที่ตนเองใช้ซื้อสโมสร การคว้าตัวโรนัลโด้อย่างรวดเร็วแสดงให้เห็นถึงความทะเยอทะยานที่จะพาทีมคว้าแชมป์และลดแรงกดดันที่จะเกิดขึ้นอย่างน้อยในช่วง 1-2 ปีนี้

-ตัวโรนัลโด้เอง ที่ได้ย้ายกลับสู่ถิ่นที่เคยสร้างชื่อ พร้อมสัญญา 2 ปี กับค่าเหนื่อยที่ว่ากันว่ามากที่สุดในพรีเมียร์ลีก บวกกับความท้าทายในการพาปีศาจแดงกลับคืนสู่บังลังก์แชมป์อีกครั้ง

-สโมสรแมนฯ ยูไนเต็ด ที่ได้ผู้เล่นระดับโลกมาช่วยยกระดับการเล่นของนักเตะรอบข้างกลับสู่ทีม พร้อมๆ กับการขัดขวางไม่ให้แมนฯ ซิตี้คว้านักเตะไอคอนของทีมไป เหมือนคราวที่เกิดขึ้นในอดีตเมื่อตอนที่ ‘คาร์ลอส เตเวซ’ ย้ายข้ามฟากโดยตรงจากมุมแดงไปสู่มุมสีฟ้าของเมืองแมนฯ เชสเตอร์

นอกจากนี้ อิมแพคที่ตัวโรนัลโด้ ผู้ที่เป็นไอคอนทั้งในวงการลูกหนังและสื่อทั่วโลก ซึ่งเขาที่มีผู้ติดตามในอินสตาแกรมมากที่สุดในโลกที่ราว 336 ล้านคนนั้นได้ผลโดยตรงทันทีต่อทีมปีศาจแดงนอกสนามแข่งขัน

จากการที่อินสตาแกรมของสโมสรแมนฯ ยูไนเต็ด มีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ราว 43.1 ล้านคน เป็น 46 ล้านคน ภายในเวลาไม่กี่วัน

เช่นเดียวกับการที่หุ้นของสโมสรที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ของอเมริกาได้เพิ่มมูลค่าสูงถึง 8 เปอร์เซ็นต์ในวันที่มีการประกาศตกลงคว้าโรนัลโด้กลับสู่ทีมได้สำเร็จ

ส่วนผู้แพ้เพียงหนึ่งเดียวก็คงหนีไม่พ้นแมนฯ ซิตี้ ที่ไม่สามารถคว้านักเตะที่ต้องการ ทั้งๆ ที่เริ่มติดต่อนักเตะและบรรลุข้อตกลงได้ก่อน

กลายเป็นว่าพวกเขาไม่สามารถหากองหน้าทดแทนการขาดหายไปของเซร์คิโอ กุน อเกวโร่ และคงส่งผลกระทบต่อการแข่งขันในฤดูกาลนี้ไม่มากก็น้อย

[Home Sweet Home ไม่มีที่ไหนสุขใจเท่าโอลด์ แทรฟฟอร์ด]

หลังจากที่จากทีมไปนานถึง 12 ปี สิ่งที่โรนัลโด้ได้กล่าวล่าสุด (31 ส.ค. 2021) ทางอินสตาแกรม ก็เป็นสิ่งที่ยืนยันต่อความรักที่เขาเองมีให้สโมสรผ่านข้อความที่ว่า

“ทุกๆ คนที่รู้จักผมทราบดีถึงความรักที่ไม่มีวันสิ้นสุดที่ผมมีต่อทีม หลายปีที่ผมร่วมสร้างเส้นทางความสำเร็จอันยอดเยี่ยมได้ถูกขีดเขียนในจดหมายอันล้ำค่า และบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ของสถาบันอันยอดเยี่ยม”

“ผมไม่สามารถจะบรรยายความรู้สึกที่เกิดขึ้นที่เกิดขึ้นในตอนนี้ หลังจากที่ยูไนเต็ดประกาศคว้าตัวผมกลับสู่ทีม มันเหมือนความฝันที่เป็นจริง และไม่ว่าผมจะกลับมาเยือนโอลด์ แทรฟฟอร์ด กี่ครั้งในฐานะคู่แข่ง ผมรู้สึกได้ถึงความรักและเคารพที่มีต่อผมอยู่เสมอ และผมมั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์ว่าฝันถูกสร้างจากสิ่งเหล่านี้”

“แชมป์ถ้วยแรก การติดทีมชาติครั้งแรก แชมเปี้ยนส์ลีกครั้งแรก รางวัลรองเท้าทองคำ และบังลงดอร์ครั้งแรก เกิดขึ้นด้วยสายสัมพันธ์อันแสนวิเศษระหว่างผมกับทีมปีศาจแดง ประวัติศาสตร์ได้เคยถูกเขียนขึ้นในอดีต และในครั้งนี้ประวัติศาสตร์จะถูกเขียนขึ้นอีกครั้ง ผมให้สัญญา”

“ผมอยู่ที่นี่แล้ว กลับมายังที่ที่ผมควรอยู่ เรามาสร้างความสำเร็จให้เกิดขึ้นอีกครั้งเถอะ!! ป.ล. เซอร์ อเล็กซ์ และนี่สำหรับคุณ”

และไม่ว่าการกลับมาของโรนัลโด้ในครั้งนี้จะนำมาสู่การสิ้นสุดการรอคอยในการคว้าแชมป์ลีกสูงสุด นับจากวันที่เซอร์อเล็กซ์อำลาทีมไปตั้งแต่ปี 2014 ได้สำเร็จ

หรือทีมปีศาจแดงอาจจะล้มเหลว ไม่สามารถคว้าแชมป์อะไรติดมือเพิ่มเติมได้ ก็คงไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับแฟนบอลทีมปีศาจแดงในตอนนี้

เพราะการได้ต้อนรับและส่งเสียงเชียร์ตำนานผู้เป็นที่รัก ผู้ที่ทุกคนคอยเอาใจช่วยเสมอ ไม่เขาจะย้ายไปที่ไหน กลับคืนสู่ถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ดได้สำเร็จอีกครั้ง

ก็นับว่านี่แหละคือฝันที่เป็นจริงสำหรับแฟนบอลปีศาจแดง เช่นเดียวกับฝันที่เป็นจริงของโรนัลโด้นั่นเอง

อ้างอิงเพิ่มเติม

https://theathletic.com/2794203/2021/08/27/ronaldos-return-to-manchester-united-how-the-deal-was-done/?source=user-shared-article

https://theathletic.com/2791633/2021/08/28/restoring-united-to-english-footballs-summit-is-ronaldos-mission-and-what-an-end-to-his-career-it-would-be/

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า