SHARE

คัดลอกแล้ว

มาร์คัส แรชฟอร์ด นักฟุตบอลของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และทีมชาติอังกฤษ ได้ลงจดหมายเปิดผนึกถึงผู้แทนราษฎรของสหราชอาณาจักร โดยเรียกร้องให้ส.ส.ในสภาช่วยกันกดดันรัฐบาล ให้กลับมาพิจารณาเรื่องงบประมาณสำหรับโครงการอาหารฟรีอีกครั้ง เพื่อให้เด็กนักเรียนที่ปิดเทอมทั่วเกาะอังกฤษยังคงได้รับมื้ออาหารที่เพียงพอ

แรชฟอร์ดในวัย 22 ปีเผยว่า ตัวเขาเคยมีชีวิตที่ยากลำบากในวัยเด็ก จากการที่โตมาในครอบครัวคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว และมีพี่น้องรวมเขาด้วยเป็น 5 คน เขาจึงรู้ว่าความหิวเป็นอย่างไร และก็ไม่ต้องการที่จะเห็นเด็ก ๆ ต้องมากังวลว่า อาหารมื้อต่อไปของพวกเขาจะมาจากที่ไหน

ช่วงที่ไวรัสโควิด-19 เริ่มระบาดในยุโรป ทำให้หลาย ๆ คนต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต แต่สำหรับแรชฟอร์ดแล้ว สิ่งที่เขากังวลคือ ถ้าหากโรงเรียนปิดทำการ แล้วเด็กนักเรียนจะยังคงมีอาหารรับประทานหรือไม่ เพราะในสภาวะปกติ ทางโรงเรียนจะมีอาหารกลางวันให้รับประทานอยู่แล้ว แต่พอเด็กต้องหยุดเรียน และบางครอบครัวก็ประสบปัญหาด้านค่าใช้จ่าย ทำให้อาจจะมีเด็กบางคนต้องทนหิวจากสถานการณ์ที่ไม่ปกติเช่นนี้

ในตอนนั้นแรชฟอร์ดได้ร่วมมือกับ แฟร์แชร์ (FareShare) ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของ 17 องค์กรการกุศลของสหราชอาณาจักร โดยมีจุดมุ่งหมายคือการนำเงินบริจาคที่ได้รับ ไปซื้ออาหารการกินให้กับผู้คนที่กำลังประสบปัญหา

นับตั้งแต่ 20 มีนาคม – 11 มิถุนายน ทางแฟร์แชร์ได้รับเงินบริจาคกว่า 750,000 ปอนด์ ซึ่งสามารถนำไปซื้ออาหารได้กว่า 3 ล้านมื้อ แม้ทางรัฐบาลจะยังคงมีมาตรการช่วยเหลือค่าอาหารให้กับเด็กนักเรียนอยู่ แต่เงินจำนวนดังกล่าวก็ยังคงถูกนำไปช่วยผู้คนอีกมากมาย ที่อาจได้รับความช่วยเหลือจากรัฐไม่ทั่วถึง

จนกระทั่งในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวไม่สู้ดีนักมาจากเหล่าคณะรัฐมนตรี ที่เตรียมจะยกเลิกโครงการอาหารฟรีแก่เด็กนักเรียนในอังกฤษ เนื่องจากกำลังจะเข้าสู่ช่วงปิดเทอม ทำให้ทางรัฐและทางโรงเรียนไม่จำเป็นต้องเลี้ยงอาหารเด็กนักเรียนอีกต่อไป

แม้ที่ผ่านมาจะมีเงินบริจาคเข้ามามากมาย แต่ถ้ารัฐบาลยกเลิกโครงการอาหารฟรีขึ้นมาจริง ๆ จำนวนเงินที่แรชฟอร์ดช่วยเรี่ยไรมาตลอด 3 เดือนอาจจะหมดในไม่กี่วันก็เป็นได้

สิ่งที่แรชฟอร์ดเลือกทำเป็นอย่างแรก คือการใช้ชื่อเสียงของเขาในการขอให้คนบริจาคเงิน แต่พอสถานการณ์มาถึงขั้นนี้ เขาจึงตระหนักว่าคงต้องทำมากกว่านี้ เพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างจริงจัง

แรชฟอร์ดตัดสินใจเขียนจดหมายเปิดผนึกถึงผู้แทนราษฎรที่ประชาชนเลือกเข้าไปทำหน้าที่ในสภา ให้ช่วยกันเรียกร้องให้ทางรัฐบาลเปลี่ยนใจในเรื่องนี้ โดยส่วนหนึ่งของจดหมายระบุว่า 

“นี่ไม่ใช่เรื่องของการเมือง แต่เป็นเรื่องของมนุษยธรรม เอาเรื่องความขัดแย้งทางการเมืองออกไปก่อน พวกเราจะไม่เห็นด้วยเชียวหรือ ว่าไม่ควรมีเด็กคนไหนเข้านอนขณะที่ท้องยังหิวอยู่?” พร้อมกับติดแฮชแท็กว่า #maketheUturn

แม้ว่าทาง บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักร จะมีท่าทีที่นิ่งเฉยในทีแรก แต่สุดท้ายก็ได้กลับลำ โดยทางโฆษกของนายกรัฐมนตรีออกมาประกาศว่า จะมีการจัดสรรงบประมาณมูลค่า 120 ล้านปอนด์ สำหรับโครงการอาหารฟรีแก่เด็กนักเรียนในช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อน และทางนายกฯก็รู้สึกยินดีที่แรชฟอร์ดเป็นคนจุดประกายให้มีการพูดถึงประเด็นนี้ในสังคม

ส่วนทางแรชฟอร์ดเองหลังจากได้ทราบข่าวก็ออกมาแสดงความยินดีผ่านทวิตเตอร์ของเขาว่า “ผมไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี ดูสิว่านี่คือสิ่งที่เราทำได้เมื่อเราสามัคคีกัน นี่แหละคืออังกฤษในยุค 2020”

และนี่ก็คือเรื่องราวของนักฟุตบอลคนหนึ่งที่มีพร้อมทั้งชื่อเสียงเงินทองอยู่แล้ว แต่กล้าที่จะออกมาเป็นแกนนำในการเรียกร้องในเรื่องที่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตัวเขาเองเลย จนส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้นำประเทศได้

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า