ตลาดระนองเงียบกริบ พ่อค้าสั่งของสดขายครึ่งเดียวกันเหลือทิ้ง

วันที่ 7 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศตามตลาดสด ตลาดนัดหลายแห่งในพื้นที่ตัวเมืองระนอง เป็นไปด้วยความเงียบเหงา ไม่ว่าจะเป็นแผงหรือร้านที่จำหน่ายสัตว์น้ำ จำหน่าย เนื้อ ไก่เนื้อหมู ของแห้งต่างๆ ผักสด เสื้อผ้า รองเท้า แม้แต่พ่อค้ารถเร่ที่ออกตระเวนขายไก่ทอดไปตามตลาดต่างๆ ที่หวังจะมีผู้ซื้อ แต่ทุกที่เป็นไปด้วยความเงียบ

จากการสอบถามนายทวีศักดิ์ รักษาพล พ่อค้าจำหน่ายสัตว์น้ำในตลาดสด ภายในเขตเทศบาลเมืองระนอง เล่าให้ฟังขณะนั่งทำปลาสดว่า ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ขายของยากขึ้น ยอดขายตกไปมากกว่าครึ่ง คนซื้อลดน้อยลง แต่ราคาสินค้าก็ยังคงมีราคาสูงในหลายๆ ชนิด อีกทั้งยังมีการปิดอ่าวที่เป็นแหล่งหาสัตว์น้ำ

ปัจจุบันทั้งตนเองที่จำหน่ายสัตว์น้ำ เพื่อนๆ ที่เป็นพ่อค้าแม่ค้าที่จำหน่ายผักสด ผลไม้สด จำหน่ายไก่ เนื้อหมู มีการพูดคุยถึงสถานการณ์ในการค้าขายที่แย่ลงทุกวัน และต้องปรับการนำของมาขาย โดยเฉพาะของสดที่ต้องจำหน่ายวันต่อวันเพราะข้ามวันอาจจะเสียหรือไม่สดราคาก็จะตก ต้องลดปริมาณไปกว่าครึ่งเพราะหากสั่งมาขายตามปกติ ของจะเหลือจะขาดทุน เพราะคนซื้อไม่มีกำลังจะซื้อเหมือนในช่วงก่อนๆ ที่ผ่านมา โดยเฉพาะภาคแรงงานทั้งชาวไทยและแรงงานต่างด้าว ที่ต้องพึ่งอาศัยรายได้จากภาคเกษตรและภาคโรงงานอุตสาหกรรมที่ปัจจุบันในระนอง สภาพแย่เหมือนกันหมด

นายทวีศักดิ์ เล่าด้วยว่า ในตลาดสดเดิมออกมาขายตั้งแต่เวลา 05.00 น.ช่วงเช้าขายไปจนถึงเวลาประมาณ 16.00 น.หรืออาจจะยาวกว่านั้นเพราะบางวันมีลูกค้ามาก แต่ปัจจุบันออมาขายเกือบ 07.00 น.คนซื้อยังเกือบไม่มี ขายได้ไม่เกินเที่ยงก็ต้องเก็บร้านเพราะไม่มีคนซื้อแล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงแม้จะพยายามลดรายจ่ายภายในบ้านแล้ว แต่ด้วยสินค้าที่แพงขึ้นเกือบทุกชนิดทำให้มีรายจ่ายเพิ่ม ในขณะที่รายได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง อยากฝากถึงผู้ใหญ่ในประเทศให้ช่วยแก้ไขให้สภาพเศรษฐกิจดีขึ้นบ้างแม้จะไม่เหมือนเดิมแต่ขอให้ดีกว่าปัจจุบัน ไม่เฉพาะพ่อค้าแม่ค้าทุกอาชีพก็แย่พอๆ กัน