นายกฯ ยังไม่เจอเหตุทำไมร้านค้าไม่มีหน้ากากขาย แต่มั่นใจจัดให้แพทย์ใช้พอเพียง

วันที่ 10 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เรื่องการขาดแคลนหน้ากากอนามัยมีการจัดทำเพิ่มเติมแล้ว โดยมีการทำหน้ากากผ้า 50 ล้านชิ้น และให้กระทรวงอุตสาหกรรมดำเนินการทำเพิ่มอีก 20 ล้านชิ้น ซึ่งจะมีการแจกจ่ายเพิ่มเติมบรรเทาการขาดหน้ากากอนามัยได้ด้วยเพราะปริมาณการผลิตของเรามีจำกัด
.
ส่วนร้านค้าที่มีหน้ากากอนามัยจำหน่ายไม่พอยังไม่พบสาเหตุ “วันนี้กำลังไปตรวจสอบ ทุกขั้นตอนกำลังตรวจสอบอยู่ ยังไม่พบข้อผิดปกติแต่ต้องตรวจต่อไปว่าทำไมร้านค้ามีจำหน่ายไม่พอเพียง”
.
ขณะที่การแจกจ่ายให้กับบุคลากรทางการแพทย์มีการไปตรวจสอบแล้วว่าต้องใช้จำนวนเท่าไร และมีการจัดให้พอเพียงแล้ว เป็นที่พอใจ เช่น กรณี รพ.รามาธิบดี

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึง การใช้หน้ากากอนามัยด้วยว่า คนที่อยู่ในบ้านไม่จำเป็นต้องใช้หน้ากากอนามัย ถ้าในบ้านไม่มีใครเป็นอะไร เพื่อไม่ให้เกิดความสิ้นเปลือง ควรใช้เฉพาะเวลาออกจากบ้านไปในที่ชุมชน และสามารถใช้หน้ากากผ้าแทนได้เป็นหน้ากากทางเลือก
.
ขณะที่แพทย์และพยาบาลที่จัดสรรให้ไปเยอะแล้ว ได้สั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขไปสำรวจดูว่ามีการใช้อย่างไร ประหยัดหรือไม่ มีการนำออกไปแจกจ่ายข้างนอกหรือเปล่า ต้องขอร้องกันว่ากรุณาใช้เฉพาะภายในโรงพยาบาลเท่านั้น ที่เหลือก็ต้องไปทำเหมือนประชาชนคนอื่นๆ ที่พูดไม่ได้แปลว่าเขาทำ แต่ต้องการสร้างความเชื่อมั่น ประเด็นสำคัญคือ เรามีหน้ากากแค่ 38 ล้านชิ้นต่อเดือน วันละประมาณล้านกว่าๆ อย่างไรก็ไม่พอ ตราบใดที่ยังไม่มีการนำเข้า

ส่วนอีกเรื่องที่รัฐบาลให้นโยบายไปแล้ว คือ การจัดตั้งโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยครบวงจร มีบริษัทใหญ่ๆ เสนอเข้ามาแล้ว ต้องไปหามาตรการ BOI สร้างแรงจูงใจให้เขา ซึ่งหมายถึงกรณีอื่นๆ ด้วย ไม่ใช่เฉพาะรายนี้รายเดียว เดี๋ยวจะหาว่าเอื้อประโยชน์กันอีก เป็นสิทธิ์ที่ทุกคนจะเสนอเข้ามาได้ ขณะเดียวกันก็ต้องพิจารณาว่าถ้าสถานการณ์ยาวนาน จะหาวัตถุดิบต้นทุนอย่างไร
.
เมื่อถามถึงการดำเนินคดีกรณีที่มีการกักตุนหน้ากากตามที่เป็นข่าว พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า ยืนยันฟ้องทุกคน เพราะผิดอยู่แล้ว พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ก็ผิด ซึ่งมีทั้งโทษปรับและจำคุก และยังมีกรณีหลอกลวง ฉ้อโกง ซึ่งมีโทษทางอาญา
.
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึง กรณีการเปิดรับบริจาคสู้กับโควิด-19 ด้วยว่า ทุกอย่างมีมาตรการควบคุมทั้งหมด อยู่ในบัญชี การใช้จ่ายต้องผ่านคณะกรรมการ มีการตรวจสอบ อย่างกรณีเงินบริจาคน้ำท่วม นำไปจัดซื้ออุปกรณ์ที่จัดซื้อจัดจ้างไม่ได้ เช่น อุปกรณ์ซ่อมบ้าน ที่เหลือเก็บไว้ใช้ในสถานการณ์จำเป็น เงินหลวงตกย้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ ไม่ใช่นายกรัฐมนตรี ให้นำไปใช้ส่วนตัวได้ กรณีนี้ก้จะไปช่วยเติมให้ในส่วนที่ใช้เงินรัฐไม่ได้
.
“พอดีวันนั้นออกข่าวไปพร้อมๆ กัน (เรื่องการรับบริจาคและการแจกเงินบรรเทาความเดือดร้อน) เลยดูไม่ดี ไม่ใช่เงินไม่พอ เขามีการเสนอกันขึ้นมาใน ครม. ตนก็เห็นว่าดี แต่ก็ยังไม่ได้บริจาคกัน เพิ่งเริ่มบริจาคกันวันนี้ ยืนยันว่าไม่ได้เอามาใช้อย่างอื่นเลย เก็บไว้เป็นก๊อก 2 ในการดูแลแพทย์พยาบาล และวิกฤติการณ์ที่จะเกิดกับประชาชนที่เราเอามาใช้ได้ด้วย”

ด้าน นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า หน้ากากอนามัยที่กระทรวงสาธารณสุขได้รับการจัดสรรวันละ 7 แสนชิ้น มีการกระจายให้ในช่วงสุดสัปดาห์แล้ว เช่น รพ.จุฬาลงกรณ์ รพ.ศิริราช รพ.รามาธิบดี รพ.วชิรพยาบาล รวมทั้งที่มีข่าวคือ รพ.หาดใหญ่ รพ.ขอนแก่น รพ.จะนะ ให้มีสต็อกได้ประมาณ 1 เดือน และจะประสานในส่วนที่ยังมีปัญหาโดยด่วน