จากกรณี แหม่มโพธิ์ดำ แอดมินเพจเฟซบุ๊กที่เปิดโปงขบวนการกักตุนหน้ากากอนามัย ส่งจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม โดยยกประเด็นที่ พล.อ.ประยุทธ์ เคยกล่าวชมในรายการคืนวันศุกร์ว่าเป็นเพจน้ำดี พร้อมตั้งคำถามการที่ นายสนธิญา สวัสดี ที่ถูกระบุว่า เป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ยื่นเรื่องต่อตำรวจ บก.ปอท.ให้ตรวจสอบเพจ แทนที่จะไปสืบจับผู้เกี่ยวข้องกับการกักตุนหน้ากาก และยังเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ นำตัวคนผิดไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายใดมาลงโทษให้ได้
วันที่ 11 มี.ค. นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้อ่านจดหมายแล้วและระบุว่ายังคงชื่นชม แหม่มโพธิ์ดำ เป็นเพจน้ำดีเหมือนเดิม ที่คอยช่วยเหลือสังคม
.
สิ่งที่แหม่มโพธิ์ดำเปิดเผยออกมารัฐบาลก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการตรวจสอบอยู่ หากมีการกระทำที่เป็นสิ่งที่เลวร้ายต่อประชาชนและประเทศ จะต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาด
.
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันว่าไม่ว่าใครหน้าไหน จะเกี่ยวข้องกับรัฐบาลหรือไม่ จะมีการตรวจสอบและลงโทษขั้นเด็ดขาด ไม่มีการปกป้องใดๆ ทั้งสิ้น
หากตรวจพบว่ามีการกักตุนหน้ากากอนามัย หรือส่งขายต่างประเทศ รวมทั้งมีการขายเกินราคา เพราะเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อประชาชนโดยเฉพาะในสถานการณ์อย่างนี้ ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ไม่ปกติ
.
นอกเหนือจากที่กระทรวงพาณิชย์ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบการกักตุนหน้ากากอนามัยและการขายสินค้าเกินราคาแล้ว นายกรัฐมนตรี ยังได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร.กำกับหน่วยพิเศษเฉพาะกิจ เพื่อติดตามสืบสวนสอบสวน จับกุม และรายงานตรงต่อนายก เพื่อทำการลงโทษไม่มีละเว้น
.
“เราจะดำเนินคดีทุกอย่างที่ตรวจพบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการกักตุน ขายเกินราคา หรือแม้แต่กรณีการกักตุนหน้ากากอนามัย 200 ชิ้นที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ สั่งให้ดำเนินการขั้นเด็ดขาดไปแล้ว”
นางนฤมล ระบุด้วยว่ากรณีที่นายสนธิญา สวัสดี เข้าร้องเรียกตำรวจ บก.ปอท.ให้ตรวจสอบเพจแหม่มโพธิ์ดำ นายทะเบียนพรรคพลังประชารัฐ ยืนยันว่า ปัจจุบัน นายสนธิญา ไม่ใช่สมาชิกพรรคเพราะลาออกนานแล้ว การกระทำของนายสนธิญา จึงไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับพรรคหรือรัฐบาลแต่อย่างใด