นายกฯ ย้ำ อาบอบนวด เปิดได้แต่ห้ามค้าประเวณี มีสุ่มตรวจ จับได้ถูกลงโทษ

“ก็คงต้องเข้าไปตรวจนะ ก็คงเข้าไปตรวจบ้างในสถานที่น่ะ ไปเที่ยวก็ระมัดระวังแล้วกัน ถ้าจับได้ก็ต้องถูกลงโทษเพราะถือว่า ไม่ปฏิบัติตามมาตรการและกฎหมายมีอยู่แล้วเรื่องห้ามค้าประเวณี ทุกอย่างมันอยู่ที่คนปฏิบัติทั้งสิ้นน่ะแหละ กฎหมายมีทุกตัว แล้วทำไมเราจะต้องเพิ่มภาระเจ้าหน้าที่เขาไปตรวจอีกล่ะ ถ้าเรารู้จักว่าจะต้องทำตัวอย่างไรในช่วงนี้ก็ต้องระมัดระวังตัวเองให้มากที่สุดน่ะนะ”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า การผ่อนคลายระยะที่ 5 เป็นกิจการที่มีความเสี่ยงสูง รัฐบาลจำเป็นต้องยอมรับความเสี่ยงเหล่านี้ แต่เราก็เตรียมความพร้อมในการรับสถานการณ์เอาไว้ ทั้งเรื่องสาธารณสุข การตรวจโรค การรักษา เราถึงกล้าที่จะเปิดระยะที่ 5 แต่อยู่ที่ทุกคน ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าอะไรคือความเสี่ยง อะไรคืออันตราย อย่าไปลืมตัว ดื่มสุราแล้วไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น ตนเป็นห่วงทุกคน มาตรการอาจจะเยอะไปบ้างแต่เป็นการเริ่มต้นถ้าดีแล้วก็ผ่อนคลายได้อีก

ส่วนเรื่องการคัดค้านการต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตนคงไม่ตอบ เพราะมีเหตุผลความจำเป็นอยู่แล้ว ตนไม่ได้ไปปิดกั้นประชาชนเลย ถ้าจะชุมนุมก็ไปขออนุญาตชุมนุมตามกฎหมาย ในส่วนตรงนี้เขาไม่ต้องการให้คนไปรวมกลุ่มมากๆ เพื่อจะป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด ก็แล้วแต่ท่านจะกลัวหรือไม่กลัวไม่รู้เหมือนกัน แต่ตนไม่ได้ไปขู่ แต่ขอให้เข้าใจเจตนารมณ์การใช้กฎหมาย
เจ้าหน้าที่ดำเนินการใช้กฎหมายปกติ แต่ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ช่วยให้เจ้าหน้าที่ทำงานร่วมกันได้ เพราะบางทีเป็นกฎหมายเฉพาะของกระทรวง เจ้าหน้าที่ส่วนที่ทำไม่พอต้องบูรณาการคนเข้าไปทำงานต้องใช้กฎหมายรวม รวมทั้งให้เกิดมาตรฐานเดียวกัน
สำหรับข้อกำหนดจะมีการร่างให้สอดคล้องกับมาตรการผ่อนคลายระยะที่ 5 ข้อกำหนดบางส่วนจะเลิกไป บางส่วนจะเพิ่มขึ้นมา ซึ่งทั้งหมดเป็นไปเพื่อสุขภาพของทุกคนไม่ใช่เพื่ออำนาจของตน
“ทุกคนมองแต่อำนาจ อำนาจมันอยู่กับเราไม่นานหรอก ถ้าไม่มีวิธีการทำให้มันใช้อย่างโปร่งใส เป็นไปตามกฎหมาย ผมก็พยายามใช้ถูกกฎหมายอยู่แล้ว ไม่นอกกฎหมายอยู่แล้ว”
ทั้งนี้ วันนี้ ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบต่ออายุการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่อไปอีก 1 เดือน จนถึง 31 ก.ค. และเห็นชอบผ่อนปรนกิจการ ในระยะที่ 5 ซึ่งรวมทั้งสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวดด้วย