ผู้ประกอบการร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดรายใหญ่ที่สุดของโลกเปิดเผยว่ามีหลักฐานใหม่ในการเอาผิดกับอดีตผู้บริหาร ในข้อหาโกหก ปกปิดหลักฐาน และฉ้อโกงบริษัท
สำนักข่าวรอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า แมคโดนัลด์ได้ประกาศยื่นฟ้อง สตีฟ อีสเตอร์บรูก อดีตซีอีโอของบริษัท เพื่อเรียกคืนเงินชดเชยการเลิกจ้างที่พวกเขาจ่ายไปเมื่อปีก่อน หลังพบว่านายอีสเตอร์บรูกให้ข้อมูลไม่ตรงกับความเป็นจริง ในระหว่างการต่อรองเงื่อนไขของการเลิกจ้างในครั้งนั้น
ย้อนกลับไปเมื่อเดือน พ.ย. 2019 แมคโดนัลด์ประกาศแยกทางกับนายอีสเตอร์บรูก เนื่องจากเขามีความสัมพันธ์กับพนักงาน โดยในรายละเอียดมีการระบุว่าเป็นความสัมพันธ์แบบไม่เกี่ยวข้องทางกาย (non-physical) แม้จะเป็นการฝ่าฝืนนโยบายของบริษัท แต่นายอีสเตอร์บรูกยังได้รับเงินชดเชย 6 เดือน พร้อมทั้งสิทธิในการซื้อหุ้นจำนวนหนึ่ง
แต่ล่าสุดทางบริษัทได้รับหลักฐานเพิ่มเติม ที่ชี้ว่านายอีสเตอร์บรูกมีเพศสัมพันธ์กับพนักงานถึง 3 คนในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งซีอีโอ รวมถึงมีการมอบหุ้นของบริษัทมูลค่าหลายแสนดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับหนึ่งในพนักงานเหล่านั้นอีกด้วย
ด้วยเหตุนี้ทางแมคโดนัลด์จึงตัดสินใจยื่นฟ้องนายอีสเตอร์บรูก ข้อหาโกหก ปกปิดหลักฐาน และฉ้อโกง โดยต้องการเรียกคืนเงินชดเชย และสิทธิในการซื้อหุ้นที่ทางบริษัทเคยอนุมัติให้ ซึ่งมีมูลค่ากว่า 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
คริส เคมพ์ซินสกี ซีอีโอแมคโดนัลด์คนปัจจุบันเผยว่า “แมคโดนัลด์จะไม่ยอมทนต่อการกระทำของพนักงาน ที่ไม่ได้สะท้อนถึงคุณค่าของบริษัท”
