SHARE

คัดลอกแล้ว

เชื่อว่าหลายคนอาจเคยได้ยินชื่อแอปพลิเคชั่นแชตจากรัสเซียอย่าง Telegram (เทเลแกรม) กันมาบ้าง

แม้ว่าในประเทศไทย หลายคนเริ่มรู้จักแอปนี้จากเหตุการณ์ชุมนุมในช่วงปี 2563 ที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นแอปที่ผู้ชุมนุมใช้ในการติดต่อสื่อสารกัน

แต่หากมองไปในแง่มุมโลก แอปพลิเคชั่นแชตที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2013 อย่าง Telegram กำลังเป็นแอปที่มาแรงขึ้นเรื่อยๆ จนในปี 2021 มียอดดาวน์โหลดทั่วโลกเป็นอันดับ 1 เติบโต 25% ทุกปี

โดยยอดดาวน์โหลดแบ่งเป็น เพศชาย 67% เพศหญิง 33%

อายุ 25-34 ปี จำนวน 38% อายุ 18-24 ปี จำนวน 17% และอายุ 35-44 ปี จำนวน 17%

สาเหตุเป็นเพราะฟีเจอร์ที่แตกต่างจากโซเชียลมีเดียอื่น ไม่ว่าจะเป็น

-สามารถเพิ่มจำนวนสมาชิกในกลุ่ม (Channel) ได้มากถึง 200,000 คน

-ข้อความแลตและไฟล์ที่ส่งเป็นส่วนตัว ปลอดภัย ไม่ต้องห่วงข้อมูลรั่วไหล

-แชตลับสามารถกำหนดเวลาส่ง รวมถึงลบข้อความได้

-ส่งไฟล์รูปแบบใดก็ได้ในน้ำหนักมากถึง 2 GB

โดยประเด็นฮอตฮิตที่คนใช้แอปนี้สนใจ เป็นเรื่องไอที 47%, ดนตรี 46% และวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 42% ตามลำดับ

ด้วยความที่เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่มีการเติบโตอย่างน่าสนใจ ทั้งกลุ่มผู้ใช้งานส่วนใหญ่ก็ยังเป็นกลุ่มที่มีกำลังทรัพย์ มีอาชีพที่มั่นคง และสนใจด้านไอทีซึ่งรวมไปถึงคริปโทเคอร์เรนซี่

ทำให้นี่นับเป็นโอกาสดีที่ ‘แบรนด์’ ที่เกี่ยวข้องกับโลกคริปโทฯ จะอาศัยช่องทางนี้ในการโฆษณาเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้า

โดยบริษัท แมคฟิว่า จำกัด (MCFIVA) ดิจิทัลเอเจนซี่ชื่อดังของไทยที่ดำเนินธุรกิจมากว่า 10 ปี ก็เล็งเห็นถึงโอกาสนี้บน Telegram เช่นกัน ล่าสุดจึงเปิดตัวการให้บริการโฆษณาบน Telegram แล้ว โดยประเดิมลูกค้าในกลุ่มคริปโทนั่นเอง

‘วรัชญา อุรุพงศา’ Chief Digital Officer แมคฟิว่า (ประเทศไทย) กล่าวว่า จากกระแสความสนใจในการลงทุนบิทคอยน์หรือคริปโทเติบโตขึ้นอย่างทวีคูณ และมีสื่อโฆษณาไม่มากที่สามารถเข้าถึงคอมมูนิตี้เหล่านี้ได้โดยตรง แมคฟิว่าจึงเล็งเห็นโอกาสที่จะนำโฆษณา Telegram เข้ามาช่วยแก้ปัญหาในการเข้าถึงกลุ่มนักลงทุนและนักธุรกิจเป็นหลัก

ซึ่งจุดเด่นของ Telegram นั้นเน้นให้ความสำคัญในเรื่องความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยของผู้ใช้งาน และเป็น โซเชียลมีเดียหลักที่กลุ่มคริปโทใช้ในการพูดคุย ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของตลาด การใช้สื่อโฆษณาบน Telegram จึงเข้ามาเป็นโซลูชั่นในการสื่อสารได้ตรงกลุ่ม มีประสิทธิภาพสูง และคุ้มค่า

ยกตัวอย่างคือ Cost per Click ของโฆษณาบน Telegram อยู่ที่ 4-10 บาท ขณะที่โซเชียลมีเดียอื่น เช่น เฟซบุ๊ก, อินสตาแกรม, ทวิตเตอร์, ไลน์แอด อยู่ที่ประมาณ 6-15 บาท

และถ้าเทียบ Engagement Rate แล้ว โฆษณาบน Telegram จะอยู่ที่ 15-40% ขณะที่การใช้ KOL (Key Opinion Leader) อยู่ที่ 10-20% เท่านั้น

“แมคฟิว่ามีเครือข่ายของกลุ่มบน Telegram ที่สามารถเลือกกลุ่ม หรือหมวดประเภทของกลุ่มที่ต้องการโฆษณาได้ เช่น หมวดคริปโทเคอร์เรนซี, หมวดธุรกิจ, หมวดการเงินและการลงทุน, หมวดสุขภาพและกีฬา, หมวดอสังหาริมทรัพย์, หมวดอาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น ซึ่งพร้อมจะรองรับลูกค้าในทุกอุตสาหกรรมต่อไป”

ด้าน ‘พิรีญา วิริยะพันธุ์’ Chief Operating Officer แมคฟิว่า (ประเทศไทย) กล่าวเสริมว่า เรามั่นใจว่า Telegram จะเข้ามาช่วยเติมเต็มการให้บริการแบบ Result-Driven Marketing Consultancy บริหารจัดการให้ 360 องศา

ตั้งแต่การวางแผนกลยุทธ์ในการสื่อสารผ่าน Telegram โดยสร้าง Telegram account มีแอดมินดูแล เพิ่มผู้ติดตามบน Telegram ผลิตคอนเทนต์และโฆษณา เพื่อให้เหมาะกับแต่ละคอมมูนิตี้

รวมไปถึงการยิงโฆษณาไปยังกลุ่มที่ผู้ติดตามให้ความสนใจสอดคล้องกับผลิตภัณฑ์ของธุรกิจ เพื่อผลตอบแทนจากการลงทุนได้ เพื่อให้ทุกเม็ดเงินที่ใช้ไปคุ้มค่าและแคมเปญมีประสิทธิภาพมากที่สุด

“ซึ่งในวันนี้เราพร้อมเป็นผู้นำในการรุกตลาดคริปโท และไม่ได้มองแค่การทำตลาดในประเทศไทยเท่านั้น แต่เราพร้อมช่วยลูกค้าบุกตลาดทั่วโลก”

โดยปัจจุบันแมคฟิว่ามีลูกค้าในอุตสาหกรรมคริปโทแล้ว 3 รายด้วยกัน คือ Zipmex, Killswitch และ Avareum อย่างไรก็ตาม แมคฟิว่าคาดว่าโฆษณาบน Telegram น่าจะยังเติบโตได้อีก

เนื่องจากผู้ใช้งานส่วนใหญ่ที่อยู่ในระดับ C-level น่าจะดึงดูดให้แบรนด์สินค้าในกลุ่มการเงิน เช่น บัตรเครดิต เข้ามาสนใจสร้างการสื่อสารบนแพลตฟอร์มนี้ เพราะสามารถเข้าหาลูกค้าได้อย่างตรงกลุ่มกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ

“สำหรับในประเทศไทยแม้ตอนนี้จะยังมีผู้ใช้งานน้อย แต่ด้วยลูกค้าของเราที่ให้ความสนใจผู้ใช้งานจากทั่วทุกมุมโลก ทำให้เราเชื่อว่าโฆษณา Telegram ของเราจะเติบโตมากกว่า 5 เท่า คือสร้างรายได้มากกว่า 50 ล้านบาทขึ้นไปในปีหน้าได้” พิรีญา กล่าวทิ้งท้าย

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า