SHARE

คัดลอกแล้ว

การไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA เป็นองค์กรรัฐวิสาหกิจที่อยู่คู่กับเมืองมหานครอย่างกรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการมานานถึง 63 ปีแล้ว ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาได้มีการพัฒนารูปแบบการดำเนินงานให้ทันสมัยและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของประชาชนอยู่เสมอ จนเรียกได้ว่าเป็นผู้นำด้านธุรกิจพลังงานไฟฟ้าระดับสากล และในปี 2564 นี้ เป็นอีกครั้งที่ MEA ได้เดินหน้าสู่ความท้าทายครั้งใหม่ คือ ยุคดิจิทัล ดิสรัปชั่น (Digital Disruption) และนิว นอร์มอล (New Normal) ที่เข้ามาเปลี่ยนวิถีชีวิตคนไปอย่างรวดเร็ว

แต่การเปลี่ยนผ่านครั้งนี้นับว่าน่าจับตามองเป็นพิเศษ เพราะมาพร้อมกับผู้ว่าการ MEA คนใหม่ “คุณวิลาศ เฉลยสัตย์” ซึ่งเป็นบุคคลมากความสามารถที่ทำงานกับองค์กรมายาวนานกว่า 30 ปี จึงมีความเข้าใจดีทั้งในแง่มุมของผู้บริหาร พนักงาน และความต้องการของประชาชน รวมถึงเทรนด์ด้านพลังงานของโลก

กว่า 30 ปีในรั้ว MEA

ก่อนจะมาเป็นผู้ว่าการฯ คนที่ 18 คุณวิลาศเล่าย้อนถึงชีวิตวัยเด็กว่าตนเองว่า เป็นเด็กต่างจังหวัดที่มีคุณพ่อทำงานเป็นช่าง จึงได้ซึมซับความชอบนั้นมาด้วย พอช่วงมัธยมก็หาตัวเองเจอว่าถนัดวิชาคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ ทำให้ตัดสินใจเลือกศึกษาต่อปริญญาตรีด้านวิศวกรรมไฟฟ้ากำลังและเข้ามาทำงานที่ MEA โดยเริ่มต้นด้วยตำแหน่ง Project Engineer วิศวกรดูแลระบบไฟฟ้าของผู้ใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ อาทิ สนามบิน โรงพยาบาล หน่วยงานราชการ ต่อมาก็ค่อย ๆ สะสมประสบการณ์ เติบโตไปสู่การเป็นผู้บริหารระดับกลางคือ Project Manager, Project Director, หัวหน้าหน่วยงานต่าง ๆ รวมถึงผู้บริหารระดับสูงอย่างผู้ช่วยผู้ว่าการ รองผู้ว่าการในด้านต่าง ๆ และเป็นผู้ว่าการด้วยระยะเวลา 31 ปี

ความท้าทายของผู้ว่าการคนใหม่

คุณวิลาศเปิดเผยว่า MEA มีการวางแผนและกำหนดทิศทางขององค์กร รวมถึงระบบส่งต่อการดำเนินงานจากรุ่นสู่รุ่นอย่างชัดเจน เสมือนมีเส้นทางให้ผู้บริหารรุ่นใหม่เห็นอยู่แล้วว่าภารกิจสำคัญขององค์กรยังคงเป็นความมุ่งมั่นในการให้บริการไฟฟ้าที่มีคุณภาพสอดรับกับวิถีชีวิตของคนเมือง มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ทำงานสอดประสานสร้างเศรษฐกิจ ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ สร้างสรรค์สิ่งใหม่ และรักษาสังคม สิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน ตามวิสัยทัศน์ ‘พลังงานเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานคร’ และค่านิยม CHANGE (Customer Focus – Harmonization – Agility – New Ideas – Governance – Efficiency) อย่างต่อเนื่อง เพียงแต่ความท้าทายคือการทำตามเส้นทางเหล่านั้นให้มีคุณภาพมากที่สุด

อย่างตอนนี้มีเมกะเทรนด์เรื่อง Digital Disruption และ Touchless Society ซึ่งเป็นนิวนอร์มอลจากวิกฤตโควิด-19 ที่เข้ามาทำให้อุตสาหกรรมต่าง ๆ เปลี่ยนไป ซึ่งแน่นอนว่า MEA รู้ว่าโลกอนาคตจะเป็นอย่างไรและมีแผนยุทธศาสตร์รองรับอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ต้องทำในขั้นต่อไปคือกำหนดทิศทางให้องค์กรเดินต่อไปได้มีประสิทธิภาพที่สุดด้วยแนวคิด Go Smart, Go Digital ทั้งเรื่องการบริการและบุคลากร

กลยุทธ์สู่ความยั่งยืนปี 2565 – 2580

“จากความท้าทายดังกล่าว ทิศทางที่แน่ชัดและเป้าหมายสูงสุดของ MEA คือการเปลี่ยนผ่านในโลกยุคใหม่อย่างยั่งยืน ดังนั้นกลยุทธ์ในปี 2565 – 2580 จะต่อยอดมาจากวิสัยทัศน์ในการเป็นพลังงานเพื่อชีวิตของเมืองมหานคร เพราะนั่นหมายถึงการพัฒนาที่ไม่หยุดยั้งขององค์กร” คุณวิลาศกล่าวก่อนจะเผยกลยุทธ์ตามแผนยุทธศาสตร์ในแต่ละช่วงไว้ดังนี้

ปี 2565 จะพัฒนาสู่ Smart Energy เต็มรูปแบบ โดยให้บริการทุกอย่างผ่านระบบดิจิทัล เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้ประชาชน จากเดิมที่มีบริการเพียงบางอย่างเท่านั้น

ปี 2566 – 2570 ก้าวสู่การเป็น Innovative Firm คือขับเคลื่อนองค์กรด้วยนวัตกรรม ซึ่งตอนนี้กำลังสร้าง Innovation Hub สำหรับรวบรวมนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นมาใช้ภายในองค์กรเอง เพื่อเตรียมส่งต่อสู่สังคมภายนอก

ปี 2571 – 2580 ก้าวสู่ Sustainable Utility เป็นองค์กรที่มีความยั่งยืนในเรื่องของเศรษฐกิจ ผลประกอบการต้องเลี้ยงตัวเองได้และสามารถเติบโตไปข้างหน้าได้ ควบคู่กับการดูแลสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม

เน้นย้ำความเป็นผู้นำด้านไฟฟ้าด้วย MEAei

นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งสิ่งสำคัญตามยุทธศาสตร์ขององค์กรคือ การจัดตั้งบริษัทในเครือที่ชื่อว่า MEAei หรือ MEA Smart Energy Solution ที่จะเริ่มดำเนินการในปี 2565 โดยโฟกัสในเรื่องของ Smart Energy ให้บริการครบวงจรด้านพลังงานอัจฉริยะในพื้นที่ลูกค้า เช่น ขยายระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะที่ให้บริการผ่านระบบดิจิทัล (Smart Grid System) ระบบทำความเย็นแบบรวมศูนย์ และระบบกักเก็บพลังงาน รวมถึงเรื่องพลังงานทดแทน (Renewable Energy) ตามนโยบายรัฐและเทรนด์โลก เช่น สร้างโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับผู้ใช้รถยนต์ EV และร่วมกับเอกชนในการพัฒนาแอปพลิเคชัน MEA EV เพื่อให้บริการเกี่ยวกับสถานีชาร์จรถไฟฟ้า

พนักงานต้องมีความสุข

อย่างไรก็ตาม นอกจากจะทุ่มเทให้กับการพัฒนาบริการเพื่อประชาชนแล้ว ผู้ว่าการ MEA คนล่าสุดยังให้ความสำคัญกับความสุขของพนักงานทั้งเกือบ 8,000 คนในด้านต่าง ๆ ด้วย

“การที่ Work Life Balance จะเกิดขึ้นได้ขึ้นอยู่กับภารกิจงานที่ได้รับมอบหมาย ถ้าต้องอยู่ที่ทำงานทั้งวันแล้วได้พักอีกทีตอนถึงบ้านก็อาจจะไม่ใช่ เราเลยต้องพยายามเบลนด์เวลางานและพักผ่อนเข้าด้วยกัน ใน MEA จึงมีสถานที่ให้พนักงานได้พักผ่อนในเวลางานได้โดยไม่ต้องรอกลับบ้าน เพื่อสนับสนุนการทำงานแบบ Happy Work Place เช่น ห้องออดิทอเรียมสำหรับจัดนิทรรศการ งานประกวดนวัตกรรม ห้องฉายภาพยนตร์ เป็นต้น และจะเน้นที่ผลลัพธ์การทำงานเป็นหลัก เพราะผมเชื่อว่าถ้าคนมีความสุขจะทำให้ผลิตภาพ (Productivity) ดีขึ้น ส่วนลักษณะการทำงานหลังจากนี้ก็จะทำในรูปแบบไฮบริด สลับ Work from home และการเข้าออฟฟิศ ในบางตำแหน่งที่สามารถทำได้”

ส่วนปัญหาที่หลายองค์กรมักจะเจอเป็นประจำอย่างช่องว่างระหว่างวัยของพนักงาน คุณวิลาศกล่าวเสริมว่า ตอนนี้ MEA มีสัดส่วนพนักงาน 40% เป็นคน Generation X อีก 40% เป็น Generation Y และที่เหลือเป็น Generation New ซึ่งแน่นอนว่าการทำงานจะค่อนข้างต่างกัน แต่องค์กรจะมีกระบวนการในการหล่อหลอมและลดช่องว่างตรงนี้ คือให้ความสำคัญกับทุกคน โดยนำประสบการณ์ของรุ่นพี่มาผสมผสานกับความทันสมัยของรุ่นน้อง เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดผ่านโครงการต่าง ๆ ที่จะคอยกระตุ้นการสร้างโปรเจกต์ร่วมกัน ตามแบบ Diversity Management

ทั้งหมดนี้คือภารกิจของ MEA ภายใต้การนำของคุณวิลาศ เฉลยสัตย์ ที่บริหารงานด้วยความเข้าใจทุกภาคส่วน ตามแบบฉบับของบุคลากรที่มีดีเอ็นขององค์กรอยู่เต็มเปี่ยม โดยท้ายนี้คุณวิลาศกล่าวว่า

“การไฟฟ้านครหลวงเปิดกว้างพร้อมรับสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพื่อสร้างสรรค์บริการที่ดีที่สุดให้พี่น้องประชาชน และพัฒนาเมืองให้มีภูมิทัศน์ที่ดี เป็นมหานครแห่งอาเซียนอย่างแท้จริง”

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า