Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ศูนย์การค้าเมกาบางนา เปิดตัวผู้บริหารคนใหม่ ประกาศเดินหน้าต่อโครงการมิกซ์ยูส พร้อมพัฒนารีเทล ชูกลยุทธ์ TENANT MIX ยกระดับ LOYALTY PROGRAM ทุ่มทุนงบการตลาดรวมกว่า 200 ล้าน ประเดิมฉลองครบรอบ 12 ปี ในกิจกรรม 12th Anniversary 365 MEGA MOMENTS 

ตอกย้ำความสำเร็จเข้าสู่ปีที่ 12  ของศูนย์การค้ายักษ์ใหญ่ในส่วนของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกอย่างเมกาบางนา บริษัท เอสเอฟ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าเมกาบางนา และโครงการเมกาซิตี้ ประกาศแต่งตั้ง นายมาริส อโบลตินส์ เป็น กรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารหนุ่มไฟแรงชาวลัตเวียที่มาพร้อมประสบการณ์ในอุตสาหกรรมค้าปลีก และ การขาย มานานกว่า 15 ปีกว่า เชี่ยวชาญในด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ศูนย์การค้า การบริหารพื้นที่ค้าปลีกและการวางกลยุทธ์ด้านการขยายธุรกิจ รวมถึงมีประสบการณ์การทำงานร่วมกับ IKEA ในยุโรปหลายประเทศ

นายมาริส อโบลตินส์ นั่งแท่นตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอฟ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าเมกาบางนา และโครงการเมกาซิตี้

นายมาริส ได้ให้สัมภาษณ์กับ TODAY Bizview ว่าการได้มาเข้ามาร่วมงานกับเมกาบางนาในครั้งนี้ถือเป็นโอกาศที่สำคัญเพราะเมกาบางนาถือเป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ และสร้างผลงานที่ดีมาตลอด 12 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ตนเชื่อมั่นว่าด้วยประสบการณ์ที่มีทั้งในส่วนพัฒนารีเทลและเป็นผู้เช่าเอง ทำให้ตนมีความเข้าใจในการบริหารทางด้านนี้เป็นอย่างดี บวกกับการมีทีมงานมืออาชีพของเมกาบางนา จึงทำให้ตนมั่นใจว่าจะสามารถขับเคลื่อนและต่อยอดภารกิจการสร้างพื้นที่เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มวัยได้ในทุกๆ วัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “YOUR EVERYDAY MEETING PLACE”ที่เป็นมากกว่าห้างสรรพสินค้า แต่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ความต้องการของลูกค้าทุกเพศทุกวัยได้อย่างแน่นอน

นายมาริส เผยวิสัยทัศน์ว่า สำหรับ 12 ปีที่ผ่านมา เมกาบางนาสร้างปรากฏการณ์หลายๆ ส่วนให้เป็นที่ประจักษ์แล้วในกลุ่มธุรกิจรีเทล โดยตลอดระยะกว่า 12 ปี เมกาบางนา สามารถดึงดูดผู้ใช้บริการให้เข้ามาที่ศูนย์ได้มากกว่า 550 ล้านคน มีร้านค้าแบรนด์ที่มีชื่อเสียงชั้นนำรวมถึงผู้เช่าพื้นที่รายย่อยกว่า 900 ร้านค้า มีอัตราการเช่า 100% ตลอด12 ปีที่ผ่านมา อีกทั้งเป็นสถานที่จัดงานแสดงต่างๆ และติด 1 ในท็อป 5 สถานที่เคาท์ดาวน์ในกรุงเทพฯ สิ่งเหล่านี้พิสูจน์ให้เห็นว่า การทำศูนย์การค้าคอนเซ็ปต์แบบ Low Rise ที่ดูเป็นเรื่องแปลกใหม่ของคนไทยเมื่อ 12 ปีก่อน ณ ปัจจุบันคือสิ่งที่คนไทยชื่นชอบ และสามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีกว่าให้ลูกค้าได้

ด้วยทำเลและที่ตั้งของเมกาบางนาที่ห่างจากสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิเพียงแค่ 20 กิโลเมตร จึงถือว่าเป็นโอกาสสำคัญที่ทำให้เมกาบางนาสามารถวางแผนขยายพื้นที่รีเทลและผลักดันให้โครงการเมกาซิตี้ ที่เป็นโครงการมิกซ์ ยูส ที่สมบูรณ์แบบของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก ได้อย่างแน่นอนโดยหนึ่งในตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการเมกาซิตี้ คือ การดึงสปอร์ตเอนเตอร์เทนเมนท์ชื่อดังที่เปิดมาแล้ว 70 แห่งทั่วโลก อย่าง TOPGOLF มาเปิดให้บริการเป็นสาขาแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตลอดจนส่วนต่อขยายของเมกาบางนา การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย โรงแรม อาคารสำนักงาน รวมถึงการพัฒนาพื้นที่รีเทลเพื่อขยายให้กับแบรนด์สินค้าต่างๆ ที่ต้องการมาเปิดสาขารองรับกำลังซื้อฝั่งกรุงเทพฯ ตะวันออก

ที่สำคัญข้อได้เปรียบอีกอย่างคือเรื่องพื้นที่ของเมกาบางนาที่ใหญ่ และ มีโครงสร้างเด่นที่เป็นจุดแข็งในรูปแบบ “Low rise” มีที่จอดรถกว้างขวาง สะดวกสบาย ไม่ซับซ้อนในการเดิน จับ จ่าย ใช้ สอย หาร้านค้าต่างๆได้ง่าย ทำให้เมกาบางนาเข้าถึงความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย สร้างประสบการณ์ให้ลูกค้ารู้สึก “Friendly” หรือเป็นมิตรต่อการช้อป มีทุกอย่างจบ ครบครัน ทั้งช้อปปิ้ง สินค้าแฟชั่น แม่และเด็ก สถาบันสอนเสริมทักษะ และ ร้านอาหาร รวมถึงกิจกรรม แคมเปญ ที่หมุนเวียนมาให้ลูกค้าได้ร่วมสนุกตลอดทั้งปี พร้อมกันนี้ เมกาบางนาเตรียมยกระดับฐานลูกค้าเก่าควบคู่กับการขยายฐานลูกค้าใหม่ให้ได้มากขึ้น และที่สำคัญดึงฐานลูกค้าย่านกรุงเทพฯ ตะวันออก โดยสร้างประสบการณ์ที่สามารถตอบโจทย์กลุ่มคนเหล่านี้ให้ได้และอำนวยความสะดวกสบายให้  โดยไม่ต้องเสียเวลาเข้าเมือง

ทั้งนี้ นายมาริสเผยกลยุทธ์ทางการตลาดปี 2567 พร้อมทุ่มงบทางการตลาดกว่า 200 ล้านบาท

–  TENANT MIX คือการขยายสัดส่วนแบรนด์สินค้าต่างๆ รวมถึง ร้านค้า แบรนด์ดัง ร้านค้าที่อยู่ในกระแสได้รับความนิยม ร้านอาหาร ศูนย์บริการต่างๆที่ต้องการมาเปิดสาขาเพื่อรองรับกำลังซื้อในย่านกรุงเทพฯฝั่งตะวันออก ตอบสนองลูกค้าทุกกลุ่ม ทั้งใหม่ และ เก่า ในส่วนของแบรนด์ที่เข้ามาเปิดสาขาแล้ว ได้แก่ NIKE FLAGSHIP STORE, H&M HOME, FAMTIME, LA MEOW BBQ & BISTRO และกำลังจะเปิดในเร็วๆ นี้ อาทิ  POP MART , LONGINES, CARE BEAR CAFÉ’, NIKO AND…, LONG JOHN’S SILVER, BHC CHICKEN, SINDOSEGI และ EASY! BUDDY เป็นต้น

–   MEGABANGNA ESG 2024 ยืนหยัดการทำธุรกิจด้วยความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือว่าเป็นนโยบายของทางบริษัทฯ มาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งมีการนำพลังงานทดแทนและพลังงานหมุนเวียนมาใช้ ได้แก่

  1. โครงการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์จำนวนถึง 62,000 แผงที่ผลิตพลังงานไฟฟ้าทดแทน 12 ล้านกิโลวัตต์ต่อปี ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 8 ล้านกิโลวัตต์ต่อปี
  2. การติดตั้งระบบปรับอากาศที่ช่วยในการลดการใช้ไฟฟ้าได้ถึง 20%
  3. มีระบบการบำบัดน้ำเสียและนำน้ำที่ได้รับการบำบัดแล้วกลับมาใช้หมุนเวียนเช่นใช้เพื่อการรดน้ำต้นไม้และทำความสะอาดศูนย์การค้า เป็นต้น ช่วยให้ประหยัดเรื่องการใช้พลังงานน้ำได้มากขึ้น

ยกระดับ LOYALTY PROGRAM ด้วยแนวคิด THE ULTIMATE EXPERIENCE กลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยรักษาฐานลูกค้าเก่าและดึงดูดลูกค้า นั่นคือการสร้าง Loyalty Program ซึ่งเมกาบางนามีระบบสมาชิกเมกา สไมล์ รีวอร์ดส (MEGA SMILE REWARDS)

เข้าถึงอินไซด์ตรงกับความต้องการของทุกกลุ่ม กับสิทธิพิเศษและกิจกรรมที่มอบประสบการณ์และสิทธิประโยชน์ที่เหนือกว่า ให้กับสมาชิกเมกา สไมล์ รีวอร์ดส อาทิ ที่จอดรถพิเศษสำหรับสมาชิกฯ ส่วนลดและบัตรกำนัลที่มากกว่าเดิม รวมถึงการรับสิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรมแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ที่ตรงกับความต้องการ ความชอบ ไลฟ์สไตล์ ของสมาชิก โดยจะมีการแบ่งกลุ่มลูกค้าเพื่อตอบโจทย์กับความต้องการของแต่ละกลุ่มโดยจะมีการเปิดตัวโปรแกรมต่างๆ ภายในไตรมาส  ที่ 3 ของปีนี้

– การตลาดปี 2567 รวมกว่า 200 ล้านบาท มุ่งเน้นกิจกรรมที่จะเติมเต็มประสบการณ์การช้อปปิ้งให้แตกต่างมากยิ่งขึ้น รวมทั้ง มีการจัดแคมเปญทั้ง Seasonal Campaign และ Monthly Campaignตลอดทั้งปี

สำหรับเดือนพฤษภาคมนี้ซึ่งเป็นเดือนครบรอบ 12 ปี ของเมกาบางนา เพื่อเป็นการมอบความสุขประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟแก่ลูกค้า เมกาบางนาจัดงานเฉลิมฉลองครบรอบ 12 ปี ภายใต้แคมเปญ 12th   ANNIVERSARY 365 MEGA MOMENTS ให้ทุกการมาเยือนเป็นประสบการณ์ที่ดีแตกต่างกันไปในทุกๆวัน ประเดิมด้วยการจับมือกับศิลปินนักวาดภาพ JIRAYU KOO หรือ คุณจิรายุ คูอมรพัฒนะ ในการสร้างสรรค์งานศิลปะ โดยผลงานได้ถูกนำมาตกแต่งบรรยากาศของศูนย์การค้า การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย และการจัดทำของสมนาคุณเอ็กซ์คลูซีฟคอลเลคชั่น

“ตลอดระยะเวลา 12 ปี ที่ผ่านมา เมกาบางนามีแนวคิดสำคัญ คือ We Create A Better Everyday Life for the Many People ที่มุ่งทำให้เมกาบางนา เป็นพื้นที่ที่จะยกระดับการใช้ชีวิตสำหรับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ทุกคอมมูนิตี้ ในทุกๆวัน ซึ่งได้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม ทิศทางต่อไปจากนี้ เราจะยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าพัฒนาในทุกมิติ ทั้งเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจ สังคมและเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนให้ภาคการค้าปลีกของไทยโดดเด่นและแตกต่างในระดับโลกต่อไป” นายมาริส กล่าว

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า