Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ผู้ใช้รถใช้ถนนอาจคุ้นเคยกับแบรนด์ ‘มิชลิน’ (Michelin) ในฐานะแบรนด์ยางรถยนต์ระดับโลกที่มีคุณภาพและมาตรฐานสูง โดยนอกจากจะมีประวัติศาสตร์ยาวนาน มิชลินยังเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดยางรถยนต์ทั่วโลก

ด้วยความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีวัสดุโพลิเมอร์คอมโพสต์ที่สั่งสมมากว่าหนึ่งศตวรรษ ทำให้มิชลินไม่เคยหยุดคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ โดยมีการต่อยอดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ในหลากหลายแขนงเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็น การเดินทางบนท้องถนน การแข่งขัน motosport ทางอากาศ จนถึงอวกาศ

มิชลินยังได้พัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ เพื่อค้นหาโซลูชันที่ตอบโจทย์ด้านการขับขี่ที่ปลอดภัยและการนำเสนอไลฟ์สไตล์ที่เหนือกว่า ขณะเดียวกันก็มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมโดยมีเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนโลกสู่ความยั่งยืน โดยลงทุนมหาศาลในการวิจัยเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคและข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดกว่าเดิม แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ในการสร้างอนาคตที่ดีกว่า ผ่านการพัฒนาเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องในทุกด้านของการทำธุรกิจของมิชลิน 

มิชลิน ถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน “100 บริษัทที่มีนวัตกรรมมากที่สุดในโลก” และได้รับการยกย่องจาก ClarivateTM ให้เป็นหนึ่งใน “100 สุดยอดนักสร้างสรรค์นวัตกรรมระดับโลก” และในไทยเองมิชลินได้รับความไว้วางใจจากคนไทยมานานกว่า 36 ปี และ ครองตำแหน่ง 2024 Thailand’s Most Admired Brand แบรนด์ยางรถยนต์ที่ผู้บริโภคชื่นชอบมากที่สุด 25 ปีติดต่อกัน

[จาก “Motion for life” สู่ “On the Road and Beyond!” ]

ถ้าหากว่าชีวิตคือการขับเคลื่อนไปข้างหน้า การเดินทางและการเติบโตของแบรนด์มิชลินก็สะท้อนถึงหลักการเดียวกัน ที่ผ่านมามิชลินมุ่งมั่นในการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค และความเปลี่ยนแปลงของโลกก็ทำให้มิชลินต้องพัฒนาเทคโนโลยีและสร้างสรรค์โซลูชันใหม่ๆ ซึ่งช่วยให้แบรนด์เดินหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง

ในปี 2020 ที่ผ่านมา มิชลินได้เปิดตัวแคมเปญ “Motion for life” ที่มุ่งเน้นสื่อสารความรู้สึกของการขับขี่ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ปลอดภัย ด้วยแนวคิดที่ว่าการเดินทางไม่ใช่เพียงแค่การเคลื่อนที่จากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง แต่เป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมสร้างการใช้ชีวิตที่ดีกว่า ที่มุ่งเน้นไปที่การทำให้ผู้บริโภครู้สึกถึงคุณค่าและประโยชน์ของประสบการการขับขี่ที่ดีและปลอดภัย ผ่านการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพดีเยี่ยมยาวนาน ปลอดภัย ตั้งแต่วันแรกที่ใช้จนถึงวันที่เปลี่ยนยางรอบถัดไป

ขณะที่ในปี 2024 นี้ มิชลินได้ออกแคมเปญโฆษณาที่มุ่งสื่อสารเป้าหมายใหม่ ภายใต้ชื่อ “On The Road and Beyond! ที่ไม่เพียงแต่เน้นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยบนท้องถนน แต่ยังเน้นการสร้างประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น มีชีวิตชีวา การออกแบบนวัตกรรมที่คำนึงถึงอนาคต และการสำรวจเส้นทางใหม่ๆ โดยการใช้เทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่จากนวัตกรรมต่างๆ ของมิชลิน 

รับชมโฆษณา

[มากกว่าแค่ On the Road]

แคมเปญ “On the Road and Beyond” นับเป็นการนำเสนอความก้าวหน้าจากการพัฒนาและวิจัยที่มิชลินสะสมมานานกว่า 135 ปี โดยมุ่งเน้นการนำความเชี่ยวชาญด้านยางไปใช้งานในรูปแบบใหม่ๆ เช่น การใช้วัสดุไฮเทคพิเศษ “ล้อไรลม” ที่ร่วมกับ NASA สำหรับการสำรวจพื้นผิวของดวงจันทร์ ความเชี่ยวชาญด้านยางดังกล่าว ไม่เพียงแต่ช่วยให้แบรนด์สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง แต่ยังทำให้มิชลินสามารถขยายขอบเขตของนวัตกรรม ทั้งในด้านยางและนอกเหนือจากยาง เพื่อสร้างโลกและชีวิตที่ดีขึ้นสำหรับผู้คนได้ 

ไม่เพียงพัฒนายางมิชลินทุกรุ่นให้สามารถรองรับการใช้งานรถไฟฟ้าได้อย่างดีเยี่ยม เพราะออกแบบมาให้มีอายุการใช้งานยาวนาน ปลอดภัย มั่นใจตั้งแต่วันแรกที่ใช้จนถึงวันที่เปลี่ยนยางรอบถัดไป นุ่ม เงียบ และยังสามารถช่วยเพิ่มระยะทางต่อการชาร์จเนื่องจากมีค่าแรงต้านทานการหมุนที่ต่ำ ช่วยประหยัดพลังงานและรักษาสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม และยังมุ่งมั่นใช้ความเชี่ยวชาญด้านยางและเทคโนโลยีในการแก้ไขปัญหาการเดินทางในหลากหลายด้าน ตามวิสัยทัศน์ 2050 Vision ของมิชลิน ซึ่งมุ่งเน้นการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่ออนาคตที่ดีกว่า

ที่ผ่านมา วิศวกรของมิชลินได้ทำงานร่วมกับผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าชั้นนำ อาทิ ปอร์เช่ (Porsche), เทสลา (Tesla), เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี (Mercedes-AMG), บีเอ็มดับเบิลยู (BMW), โฟล์คสวาเกน (Volkswagen), ฟอร์ด (Ford), ลูซิด (Lucid), ฮุนได (Hyundai), บีวายดี (BYD) และเสี่ยวเผิง (XPENG) เพื่อออกแบบยางล้อที่ตอบสนองความต้องการของยานยนต์ไฟฟ้าและทำให้การเดินทางด้วยพลังงานไฟฟ้าสะดวกสบายและเพลิดเพลินยิ่งขึ้น

หนึ่งในนวัตกรรมที่สำคัญคือยาง UPTIS (Unique Puncture-proof Tire System) หรือยางไร้ลม ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาโซลูชั่นที่ยั่งยืนโดยไม่ต้องเติมลม และมีความทนทานสูง เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย

นวัตกรรมยางยั่งยืน PMTL (Performance Made To Last) เป็นแนวทางการออกแบบที่รวมอยู่ในยางมิชลินทุกรุ่น นวัตกรรมนี้ผ่านการออกแบบให้ช่วยยืดระยะการใช้งานของยางได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยยางยังคงรักษาสมรรถนะที่ดีตั้งแต่วันแรกจนถึงวันเปลี่ยนยางรอบถัดไป ทำให้รถสามารถวิ่งได้ไกลกว่าเดิมในการชาร์จเพียงรอบเดียว ควบคุมได้แม่นยำ รองรับแรงบิดสูง และเบรกได้อย่างมั่นใจแม้ในสภาพถนนเปียก ซึ่งตอบโจทย์ความท้าทายของรถไฟฟ้าได้อย่างดี

นอกจากนี้ มิชลินยังมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาโซลูชั่นสำหรับยานพาหนะอัตโนมัติ ซึ่งต้องการยางที่มีความทนทานและสามารถทนต่อการใช้งานที่หนักหน่วงและต่อเนื่อง ด้วยการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปรับปรุงการยึดเกาะ ลดการลื่นไถล รวมถึงช่วยย่นระยะเวลาและความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง

[Beyond Tires สู่ห้วงอวกาศ]

นอกเหนือจากการพัฒนายางสำหรับการใช้งานบนท้องถนน มิชลินยังมุ่งหน้าไปไกลกว่านั้นด้วยการลงทุนในเทคโนโลยีสำหรับยานสำรวจอวกาศ (rover) การวิจัยและพัฒนายางสำหรับภารกิจสำรวจดวงจันทร์และดาวอังคาร 

เป้าหมายที่ต้องเผชิญกับความท้าทายที่ไม่เหมือนใครทำให้ยางเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อทำงานในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น อุณหภูมิที่ต่ำมากและพื้นผิวที่ขรุขระ รวมถึงความทนทานต่อการใช้งานที่หนักหน่วงและต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการสำรวจในสภาวะที่ไม่เอื้ออำนวย

ที่ผ่านมา มิชลินเคยมีประสบการณ์ในการสำรวจอวกาศมายาวนาน โดยร่วมมือกับ NASA ในฐานะผู้จัดหายางเพียงรายเดียวสำหรับกระสวยอวกาศ และมีโอกาสร่วมเดินทางไปทำภารกิจถึง 135 ครั้งในระหว่างปี 1981 ถึง 2011 ความร่วมมือนี้ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญในการผลิตยางคุณภาพสูง แต่ยังตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการนำนวัตกรรมไปใช้เพื่อสนับสนุนความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และการสำรวจพื้นที่นอกโลก

ล่าสุด NASA เพิ่งประกาศว่าทีม Moon RACER ซึ่งมี Michelin เป็นสมาชิก ได้รับรางวัลการศึกษาความเป็นไปได้ (feasibility study) สําหรับระยะที่ 1 ของโครงการ ARTEMIS โครงการนี้มีชื่อว่า “Lunar Terrain Vehicle Phase 1 Feasibility Study” มีวัตถุประสงค์เพื่อออกแบบยานพาหนะบนดวงจันทร์ที่สามารถทํางานในสภาวะสุดขั้วบนดวงจันทร์เป็นเวลา 10 ปี

การเปิดตัวแคมเปญ “On the Road and Beyond” ครั้งนี้ จึงสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของมิชลินในด้านนวัตกรรมบนท้องถนนและอื่นๆ ที่นอกเหนือไปจากนี้ โดยไม่เพียงแค่โปรโมตผลิตภัณฑ์ แต่ยังสร้างความเข้าใจและการรับรู้เกี่ยวกับความสำคัญของการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการขับขี่อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ ยังสื่อสารถึงความมุ่งมั่นของมิชลินในการพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ที่คำนึงถึงอนาคตและความยั่งยืน พร้อมทั้งตอกย้ำจุดยืนของมิชลินในฐานะแบรนด์ที่มุ่งเน้นนวัตกรรมที่มุ่งมั่นก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับทุกคนเพื่อขับเคลื่อนโลกให้ดีขึ้นไปด้วยกัน

Every day, Michelin innovates to move the world forward on the road and beyond. Michelin, Motion for life. มิชลินคิดค้นนวัตกรรมใหม่อย่างต่อเนื่องด้านธุรกิจยางและนอกเหนือไปกว่านั้น เพื่อมอบประสบการณ์สัญจรที่ดีต่อคุณและเป็นมิตรที่ดีต่อโลก 

Campaign Link : https://bit.ly/4dZsN0V

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า