หลังจากที่สหราชอาณาจักรประกาศระงับสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับฮ่องกงอย่างไม่มีกำหนด มีการมองว่าการตัดสินใจครั้งนี้อาจส่งผลให้เกิดกระแสความขัดแย้งกับจีนเพิ่มอีกระลอก
หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์ (Financial Times) รายงานว่า ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ บินตรงสู่กรุงลอนดอนเพื่อหารือกับนายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ของสหราชอาณาจักร ในประเด็นด่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับจีน ทั้งสถานการณ์กฎหมายความมั่นคงในฮ่องกง การละเมิดสิทธิมนุษยชนในมณฑลซินเจียง การออกคำสั่งห้ามใช้อุปกรณ์ 5G ในสหราชอาณาจักร รวมไปถึงสนธิสัญญาการค้าเสรีระหว่างทั้งสองประเทศ
การเยือนอังกฤษครั้งนี้ของนายปอมเปโอคาดว่าถูกกำหนดขึ้นหลังรัฐบาลสหราชอาณาจักรออกคำสั่งห้ามใช้อุปกรณ์ของ Huawei ในการวางระบบ 5G เมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งนายปอมเปโอกล่าวแสดงความยินดีว่า
“สหราชอาณาจักรได้เข้าร่วมกับสหรัฐฯ และประเทศประชาธิปไตยอื่นๆ ในการเป็นประเทศที่ปราศจากสัญญาณ 5G ที่ปล่อยโดยอุปกรณ์ที่ไม่น่าไว้วางใจ”
และก่อนที่รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ จะบินถึง สหราชอาณาจักรก็ได้ประกาศระงับสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับฮ่องกง ทำให้การหารือรอบนี้น่าจะมีประเด็นที่ต้องพูดคุยกันหลายเรื่องเลยทีเดียว
ส่วนทางสถานทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำกรุงลอนดอนได้เผยแพร่การตอบคำถามสื่อของ หลิว เสี่ยวหมิง เอกอัครราชทูตจีนประจำสหราชอาณาจักร ที่ยืนยันว่าข้อกล่าวหาเกี่ยวการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อกลุ่มชาติพันธุ์มุสลิมอุยกูร์ เป็นเรื่องโกหก และการแบน Huawei รวมถึงการการยกเลิกสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนเป็นการแสดงความผิดพลาดซ้ำซ้อน เป็นการละเมิดกฎหมายนานาชาติ ผิดต่อแนวทางปฏิบัติขั้นพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และยังก้าวก่ายกิจการภายในของจีนด้วย
ในตอนท้ายของแถลงการณ์ เอกอัครราชทูตหลิวได้ทิ้งท้ายว่า จีนจะดำเนินการตอบโต้กลับ และสหราชอาณาจักรจะต้องได้รับผลของการกระทำหากยังยืนยันที่จะไปต่อในเส้นทางที่ผิดอยู่