สื่อรัสเซียรายงานการถึงแก่อสัญกรรมของอดีตประธานาธิบดีแห่งสหภาพโซเวียต หลังเผชิญอาการป่วยหนักมาเป็นเวลานาน
อดีตประธานาธิบดี มิคาอิล กอร์บาชอฟ ผู้นำคนสุดท้ายของสหภาพโซเวียต ที่มีบทบาทสำคัญในการยุติสงครามเย็น ถึงแก่อสัญกรรมแล้วเมื่อวานนี้ (30 ส.ค. 2022) จากสาเหตุอาการป่วยเรื้อรัง ที่โรงพยาบาลเซนทรัลมอสโกคลินิคัล จากการเปิดเผยของสำนักข่าว Tass ของรัสเซีย
นายกอร์บาชอฟวัย 91 ปีนับเป็นนักการเมืองที่ได้รับเสียงชื่นชมจากโลกตะวันตกอย่างมาก จากความเป็นผู้นำหัวก้าวหน้า และเปิดกว้างในการเจรจาเพื่อสันติ จนถึงขั้นได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในปี 1990 ขณะที่ชาวรัสเซียบางส่วนอาจรู้สึกต่างออกไป เนื่องจากมองว่าเขาเป็นตัวการที่ทำให้สหภาพโซเวียตล่มสลายลง
ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกของประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน เผยว่าผู้นำรัสเซียคนปัจจุบันได้แสดงความอาลัยต่อการจากไป และจะมีการส่งข้อความผ่านเทเลแกรมถึงครอบครัวและมิตรสหายของนายกอร์บาชอฟในวันนี้
หลังมีรายงานออกมา ผู้นำทั่วโลกต่างทยอยออกมาแสดงความไว้อาลัยต่อการจากไปของอดีตผู้นำโซเวียต โดย อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (UN) ระบุว่านายกอร์บาชอฟเป็นผู้ที่เปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ ขณะที่นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ของสหราชอาณาจักร ก็ออกมากล่าวยกย่องถึงความกล้าหาญและความซื่อสัตย์ เช่นเดียวกับประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ก็ให้คำนิยามต่อนายกอร์บาชอฟว่าเป็นบุคคลแห่งสันติภาพ
จากรายงานของหนังสือพิมพ์ The Moscos Times ระบุว่า ในสมัยของการดำรงตำแหน่งทางการเมือง นายกอร์บาชอฟได้พยายามที่จะเปลี่ยนถ่ายอำนาจจากกรมการเมือง หรือ โปลิตบูโร ของพรรคคอมมิวนิสต์ มาเป็นระบอบสภาที่ได้รับการเลือกตั้งมาจากประชาชน
นอกจากนี้ ผู้นำคนสุดท้ายของโซเวียตยังปฏิรูประบอบต่างๆ ที่เป็นแบบอำนาจรวมศูนย์ มาเป็นการกระจายอำนาจไปยังส่วนต่างๆ เช่นให้รัฐวิสาหกิจสามารถกำหนดกำลังการผลิตได้ด้วยตนเอง และเปิดให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในตลาดโซเวียตได้ ซึ่งนับเป็นการทลายม่านเหล็กลงอย่างสมบูรณ์ อีกทั้งยังเป็นผู้ที่ตัดสินใจถอนกำลังทหารของโซเวียตออกจากอัฟกานิสถานอีกด้วย
ภาพ / มิคาอิล กอร์บาชอฟ ขณะเข้าร่วมงานในกรุงเบอร์ลิน เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2009
https://edition.cnn.com/2022/08/30/europe/mikhail-gorbachev-dies-intl/index.html